กรุงเทพฯ--22 ก.ย.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ ๑๘ จังหวัด ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว ๑๒ จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย ๖ จังหวัด แนวโน้มสถานการณ์อุทกภัย หากไม่มีฝนตกเพิ่มคาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน ๑ สัปดาห์นี้ พร้อมประสานจังหวัดที่ประสบภัย เร่งช่วยเหลือประชาชนอย่างทั่วถึง ส่วนจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ให้ฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยกลับสู่สภาพเดิมโดยเร็ว
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ที่ประเทศไทยมีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม ๑๘ จังหวัด ๗๔ อำเภอ ๓๕๑ ตำบล ๒,๔๒๑ หมู่บ้าน ผู้เสียชีวิต ๖ ราย ราษฎรเดือดร้อน ๑๖๐,๖๗๐ครัวเรือน ๕๒๗,๗๙๓ คน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง ๘ หลัง เสียหายบางส่วน ๑,๘๘๗ หลัง สะพาน ๑๖ แห่ง ถนน ๒๐๗ สาย พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ ไร่ มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น ๒๘,๕๖๖,๙๗๑ บาท ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว ๑๒ จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ นครราชสีมา ปราจีนบุรี ตาก นครสวรรค์ นครนายก เลย สุโขทัย ฉะเชิงเทรา ตราด จันทบุรี และชลบุรี ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน ๖ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก ลพบุรี สระบุรี พิจิตร ขอนแก่นและแม่ฮ่องสอน ดังนี้ พิษณุโลก มีน้ำท่วมขังใน ๓ อำเภอ ๒๐ ตำบล ๘๘ หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองพิษณุโลก วังทอง และเนินมะปราง ลพบุรี มีน้ำท่วมในพื้นที่ ๕ อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลพบุรี โคกสำโรง
ชัยบาดาล หนองม่วง บ้านหมี่ ราษฎรเดือดร้อน ๑๑๓,๙๙๕ คน ๓๓,๒๘๗ ครัวเรือน สระบุรี เกิดน้ำป่าไหลหลากทำให้มีน้ำท่วมัขงในพื้นที่ ๕ อำเภอ ได้แก่อำเภอเมืองสระบุรี อำเภอแก่งคอย มวกเหล็ก หนองแค เฉลิมพระเกียรติ พิจิตร น้ำจากเขาค้อจังหวัดเพชรบูรณ์ไหลลงสู่คลองวังแดง เข้าท่วมพื้นที่ ๙ อำเภอ ๒๙ ตำบล ๑๓๐ หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองพิจิตร ดงเจริญ ทับค้อ สากเหล็ก ตะพานหิน บางมูลนาก โพทะเล โพธิ์ประทับช้าง และวังทรายพูน ขอนแก่น เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องทำให้น้ำเอ่อเข้าท่วมพื้นที่อำเภอเมืองขอนแก่น ๑๗ ตำบล แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อำเภอแม่สะเรียง ตำบลบ้านกาศ สำหรับแนวโน้มสถานการณ์อุทกภัย โดยรวมของประเทศ คาดว่าหากไม่มีฝนตกเพิ่ม สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติใน ๑ สัปดาห์นี้
นายอนุชา กล่าวต่อไปว่า นายพีรพล ไตรทศาวิทย์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัด จึงได้สั่งกำชับให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสานจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ถือเป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนที่จะต้องให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยให้ดำเนินการ ดังนี้ จังหวัดที่ประสบอุทกภัยให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วนและทั่วถึง โดยเฉพาะการสนับสนุนด้านปัจจัยสี่ (อาหาร น้ำดื่ม เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค) แก่ผู้ประสบอุทกภัยที่อาศัยในพื้นที่ห่างไกลและเส้นทางคมนาคมถูกตัดขาด ส่วนจังหวัดที่สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว ให้เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ในอำนาจอนุมัติของผู้ว่าราชการจังหวัด (๕๐ ล้านบาท) รวมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งซ่อมแซมเส้นทางคมนาคมที่ชำรุดเสียหายให้ใช้การได้โดยเร็วที่สุด ดูแลสุขภาพอนามัยของผู้ประสบภัย ตลอดจนเร่งสำรวจความเสียหายของพื้นที่การเกษตร เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือต่อไป สำหรับจังหวัดที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้จัดเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครแจ้งเตือนดินถล่ม อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) และทีมกู้ชีพกู้ภัยประจำตำบล (OTOS) ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด ๒๔ ชั่วโมง และเตรียมพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ วัสดุอุปกรณ์ ยานพาหนะ และเครื่องจักรกล เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชน หากเกิดสถานการณ์ภัยให้รีบแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เตรียมการอพยพได้ทัน สุดท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุกทภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนสาธาณภัย ๑๗๘๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพื่อประสานและให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
ผู้ส่ง : pr
เบอร์โทรศัพท์ : 02v2432200