กรุงเทพฯ--22 ก.ย.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ ๒๑ จังหวัด ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว ๑๓ จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย ๘ จังหวัด แนวโน้มสถานการณ์อุทกภัยหากไม่มีฝนตกเพิ่มคาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน ๒ — ๓ วันนี้ ยกเว้น ลพบุรี สถานการณ์จะเข้าสูภาวะปกติใน ๑ — ๒ สัปดาห์ พร้อมประสานจังหวัดที่ประสบภัย เร่งช่วยเหลือประชาชนอย่างทั่วถึง ส่วนจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ให้ฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยกลับสู่สภาพเดิมโดยเร็ว
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม ๒๑ จังหวัด ๑๐๒ อำเภอ ๕๒๕ ตำบล ๓,๖๓๗ หมู่บ้าน ผู้เสียชีวิต ๑๐ ราย ราษฎรเดือดร้อน ๒๗๒,๖๑๒ครัวเรือน ๗๑๔,๗๑๙ คน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง ๘ หลัง เสียหายบางส่วน ๑,๘๘๗ หลัง สะพาน ๒๕ แห่ง ถนน ๖๕๙ สาย พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมประมาณ ๑๘๘,๘๓๕ ไร่ มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น ๒๘,๕๖๖,๙๗๑ บาท ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว ๑๓ จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ นครราชสีมา ปราจีนบุรี ตาก นครสวรรค์ นครนายก เลย สุโขทัย ฉะเชิงเทรา ตราด ชลบุรี พิจิตร และแม่ฮ่องสอน ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน ๘ จังหวัด
ได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก ลพบุรี สระบุรี หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ขอนแก่น อุบลราชธานี และจันทบุรี ดังนี้ พิษณุโลก มีน้ำท่วมขังใน ๔ อำเภอ ๒๐ ตำบล ๘๘ หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองพิษณุโลก วังทอง เนินมะปราง และวัดโบสถ์ ลพบุรี มีน้ำท่วมในพื้นที่ ๓ อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลพบุรี โคกสำโรง บ้านหมี่ ราษฎรเดือดร้อน ๑๒๕,๗๔๗ คน ๓๕,๑๓๕ ครัวเรือน
สระบุรี มีน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหนองโดน ตำบลหนองแก ระดับน้ำสูงประมาณ ๐.๑๐ — ๐.๓๐ ม. หนองบัวลำภู น้ำจากภูเขาในพื้นที่จังหวัดไหลลงคลองพะเนียงเข้าท่วมพื้นที่ ๖ อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองหนองบัวลำภู นาวัง นากลาง ศรีบุญเรือง โนนสัง สุวรรณคูหา ชัยภูมิ มีน้ำท่วมขังเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ๑๕ ชุมชน ระดับน้ำสูงประมาณ ๐.๕๐ — ๐.๘๐ ม.
ขอนแก่นเกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องทำให้น้ำเอ่อเข้าท่วม พื้นที่อำเภอเมืองขอนแก่น ตำบลดอนหัน ระดับน้ำสูงประมาณ ๐.๕๐ — ๑.๐๐ ม. อุบลราชธานี ฝนตกหนักในพื้นที่และน้ำระบายไม่ทัน ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ ๒ อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี พิบูลมังสาหาร จันทบุรี น้ำในแม่น้ำจันทบุรีเอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่ ๒ อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองจันทบุรี มะขาม
สำหรับแนวโน้มสถานการณ์อุทกภัย โดยรวมของประเทศ คาดว่าหากไม่มีฝนตกเพิ่ม สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติใน ๒ -๓ วันนี้ ยกเว้นจังหวัดลพบุรีที่สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติใน ๑ — ๒ สัปดาห์
นายอนุชา กล่าวต่อไปว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสานจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ถือเป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนที่จะต้องให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยให้ดำเนินการ ดังนี้ จังหวัดที่ประสบอุทกภัยให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วนและทั่วถึง โดยเฉพาะการสนับสนุนด้านปัจจัยสี่ (อาหาร น้ำดื่ม เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัยและยารักษาโรค) แก่ผู้ประสบอุทกภัยที่อาศัยในพื้นที่ห่างไกลและเส้นทางคมนาคมถูกตัดขาด ส่วนจังหวัดที่สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว ให้เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ในอำนาจอนุมัติของผู้ว่าราชการจังหวัด (๕๐ ล้านบาท)
รวมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งซ่อมแซมเส้นทางคมนาคมที่ชำรุดเสียหายให้ใช้การได้โดยเร็วที่สุด ดูแลสุขภาพอนามัยของผู้ประสบภัย ตลอดจนเร่งสำรวจความเสียหายของพื้นที่การเกษตร เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือต่อไป สำหรับจังหวัดที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้จัดเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครแจ้งเตือนดินถล่ม
อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) และทีมกู้ชีพกู้ภัยประจำตำบล (OTOS) ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด ๒๔ ชั่วโมง และเตรียมพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ วัสดุอุปกรณ์ ยานพาหนะ และเครื่องจักรกล เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชน หากเกิดสถานการณ์ภัยให้รีบแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เตรียมการอพยพได้ทัน สุดท้ายนี้หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนสาธาณภัย ๑๗๘๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพื่อประสานและให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
โทร. 022432200