กรุงเทพฯ--22 ก.ย.--ปภ.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอรายงานสถานการณ์สาธารณภัย ประจำวันที่ 22 กันยายน 2551 ดังนี้
1. สภาพอากาศ
พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 22 กันยายน 2551 เวลา 06.00 น. ดังนี้ (กรมอุตุนิยมวิทยา) ร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทุกภาคของประเทศมีฝนกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย เช่นบริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์ ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ ยังต้องระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่อาจเกิดซ้ำได้อีกในระยะนี้ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ชาวเรือระวังอันตรายในการเดินเรือในวันที่ 22-24 ก.ย.นี้ ไว้ด้วย
2. ปริมาณน้ำฝน ตั้งแต่ 01.00 น. วันที่ 21 ก.ย.51 ถึง 01.00 น. วันที่ 22 ก.ย.51 ดังนี้
2.1 ข้อมูลรายภาค
ภาคเหนือ ที่ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ 31.5 มม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย 76.0 มม.
ภาคกลาง ที่ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี 7.7 มม.
ภาคตะวันออก ที่ อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี 11.9 มม.
ภาคใต้ฝั่งตะวันออก ที่ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา 77.5 มม.
ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ที่ อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ 12.3 มม.
2.2 ข้อมูลปริมาณฝนในพื้นที่เกิดสถานการณ์
จังหวัดพิษณุโลก (อ.วังทอง) 15.3 มม. จังหวัดลพบุรี (อ.เมือง) 55.1 มม.
จังหวัดขอนแก่น (อ.ชนบท) 78.0 มม. จังหวัดชัยภูมิ (อ.เนินสง่า) 52.0 มม.
จังหวัดอุบลราชธานี (อ.บุณฑริก) 49.0 มม. จังหวัดจันทบุรี (อ.เมือง) 74.7 มม.
จังหวัดสระบุรี (ไม่มีฝนตกในพื้นที่) จังหวัดหนองบัวลำภู (ไม่มีฝนตกในพื้นที่)
3. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ (ข้อมูล ณ วันที่ 21 กันยายน 2551) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ทั้งหมด 51,140 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ คิดเป็นร้อยละ 75 ของความจุอ่างฯ ทั้งหมด น้อยกว่าปี 2550 (51,893 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 753 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 1 ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ ทั้งหมดวันนี้ 475.1 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำระบายวันนี้ 107 ล้านลูกบาศก์เมตร
อ่างเก็บน้ำภูมิพลและอ่างเก็บน้ำสิริกิติ์มีปริมาตรน้ำในอ่างฯทั้งหมด 7,451 และ 7,699 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 55 และ 81 ของความจุอ่างฯ ทั้งหมดตามลำดับ โดยมีปริมาตรน้ำทั้งสองอ่างฯ รวมกัน จำนวน 15,150 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำระบายรวมกันทั้งสองอ่างฯ วันนี้ 10.01 ล้านลูกบาศก์เมตร
อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ จำนวน 9 อ่าง (หน่วย : ล้านลูกบาศก์เมตร ) ได้แก่
อ่างเก็บน้ำ ปริมาตรน้ำในอ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้การได้ ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ ระบาย ปริมาณน้ำ
รับได้อีก
ปริมาตรน้ำ %ของความจุ ปริมาตรน้ำ %ของความจุ เฉลี่ยทั้งปี วันนี้ สะสมตั้งแต่ 1 ม.ค.51 วันนี้ เมื่อวาน
1. สิริกิติ์ 7,699 81 4,849 51 5,391 38.50 6,047 5.01 6.98 1,811
2. กิ่วลม 94 84 90 81 578 7.70 222 5.27 4.46 18
3. ห้วยหลวง 112 95 107 90 161 4.40 131 0.13 0.13 6
4.น้ำอูน 481 92 438 84 443 5.80 357 0.86 0.85 39
5. ลำพระเพลิง 113 103 112 102 184 2.50 141 2.07 2.12 -
6. ศรีนครินทร์ 15,213 86 4,948 28 4,339 24.30 2,806 8.14 10.41 2,532
7. ขุนด่านฯ 211 94 206 92 337 5.20 285 4.96 3.99 13
8. หนองปลาไหล 136 83 123 75 203 0.40 91 0.64 0.50 28
9. ประแสร์ 238 96 218 88 295 4.60 212 1.96 2.82 10
4. สถานการณ์อุทกภัย
สถานการณ์อุทกภัยเนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำกำลังแรงพาดผ่านภาคกลาง เข้าสู่หย่อมความ กดอากาศต่ำบริเวณภาคตะวันออกตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรงในห้วงระหว่างวันที่ 11-13 กันยายน 2551 ทำให้มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ดังนี้
4.1 พื้นที่ประสบภัย รวม 21 จังหวัด 102 อำเภอ 525 ตำบล 3,637 หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย ตาก เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ ลพบุรี เลย สระบุรี ขอนแก่น จังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมาหนองบัวลำภู อุบลราชธานี นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด และจันทบุรี
4.2 ความเสียหาย
1) ผู้เสียชีวิต 10 คน จ.สระบุรี 2 คน (อ.แก่งคอย 1 อ.มวกเหล็ก 1) จ.นครราชสีมา 2 คน (อ.ปากช่อง 1 อ.ปักธงชัย 1) จ.ลพบุรี 1 คน (อ.โคกสำโรง) จ.หนองบัวลำภู 4 คน (อ.เมือง 3 คน อำเภอนากลาง 1 คน ) จ.แม่ฮ่องสอน 1 คน (อ.แม่สะเรียง)
- สูญหาย 2 คน (อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก)
- ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 272,612 ครัวเรือน 714,719 คน
2) ด้านทรัพย์สิน (เบื้องต้น) บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 8 หลัง บางส่วน 1,887 หลัง สะพาน 25 แห่ง ทำนบ/ฝาย 22 แห่ง ถนน 659 สาย วัด 16 แห่ง โรงเรียน 10 สถานที่ราชการ 10 แห่ง ปศุสัตว์ 173 ตัว บ่อปลา/กุ้ง 62 บ่อ พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมประมาณ 188,835 ไร่
3) มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น ประมาณ 28,566,971 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 17 ก.ย.51)
5. สถานการณ์ปัจจุบัน ในขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว 13 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเพชรบูรณ์ นครราชสีมา ปราจีนบุรี ตาก นครสวรรค์ นครนายก เลย สุโขทัย ฉะเชิงเทรา ตราด ชลบุรี พิจิตร และแม่ฮ่องสอน ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก ลพบุรี สระบุรี หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ขอนแก่น อุบลราชธานี และจังหวัดจันทบุรี
5.1 จังหวัดพิษณุโลก เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 12 ก.ย.51 จนถึงช่วงเช้าของวันที่ 13 ก.ย.51 เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร พื้นที่การเกษตรใน 4 อำเภอ 20 ตำบล 88 หมู่บ้าน ได้แก่
1) อำเภอวังทอง 7 ตำบล 36 หมู่บ้าน ได้แก่ ตำบลวังนกแอ่น (หมู่ที่ 1,2,3,7,16,17) ตำบลชัยนาม (หมู่ที่ 2,3,5,9) ตำบลวังทอง (หมู่ที่ 4,7,12) ตำบลวังพิกุล (หมู่ที่ 1,2,4,8,14) ตำบลดินทอง (หมู่ที่ 1,2,3,5,7) ตำบล ท่าหมื่นราม (หมู่ที่ 1-4,6,9,10,11,13,14) และตำบลพันชาลี (หมู่ที่ 1-4) ระดับน้ำสูงประมาณ 0.10-0.30 ม.
2) อำเภอเนินมะปราง 2 ตำบล 5 หมู่บ้าน ได้แก่ ตำบลชมพู (หมู่ที่ 3,5,7,12) และตำบล บ้านมุง (หมู่ที่ 2) ระดับน้ำสูงประมาณ 0.10-0.30 ม.
3) อำเภอเมือง 4 ตำบล 18 หมู่บ้าน ได้แก่ ตำบลสมอแข (หมู่ที่ 1,2,3,8) ตำบลอรัญญิก (หมู่ที่ 4-6) ตำบลบ้านป่า (หมู่ที่ 2,3,5,6,7,8,10) และตำบลหัวรอ (หมู่ที่ 3,5,6,7) ระดับน้ำสูงประมาณ 0.10-0.40 ม.
4) อำเภอวัดโบสถ์ เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 19 ก.ย.51 เกิดเขื่อนดินกั้นน้ำบริเวณเหนือเขื่อนแควน้อย รับน้ำไม่ไหวพัง ทำให้น้ำพัดเจ้าหน้าที่ควบคุมงานก่อสร้างเขื่อนที่กำลังถ่ายรูปจมน้ำ สูญหาย 2 คน ทราบชื่อเบื้องต้นคือ นายเงิน ทองสุข และนายนฤชัย ชินวัณรัตน์ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 9 พิษณุโลก จัดส่งเจ้าหน้าที่ (ชุด ERT) และอุปกรณ์ร่วมกับมูลนิธิต่างๆ ในพื้นที่ เข้าค้นหาผู้สูญหาย ขณะนี้ยังไม่พบ
แนวโน้มสถานการณ์ หากไม่มีฝนตกเพิ่มคาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติใน 2-3 วันนี้
การให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น
- จังหวัด ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 9 พิษณุโลก สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก ชลประทานจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนเรือท้องแบน 7 ลำ กระสอบทราย จำนวน 500 กระสอบ ให้ทัณฑสถานหญิงเพื่อวางกั้นน้ำไม่ให้ไหลเข้าในพื้นที่ พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อสูบน้ำออกในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง
- สนง.บำรุงทางพิษณุโลกที่ 2 และกองพลพัฒนาที่ 3 สนับสนุนเรือท้องแบน จำนวน 3 ลำ พร้อมกำลังพลในการขนย้ายสิ่งของไปไว้ในที่ปลอดภัย
5.2 จังหวัดลพบุรี เมื่อวันที่ 11 ก.ย.51 เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดทั้งวัน จนถึงวันที่ 12 ก.ย.51 เวลาประมาณ 01.00 น. ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลันเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรใน 8 อำเภอ 65 ตำบล 530 หมู่บ้าน (เสียชีวิต 1 คน) ราษฎรเดือดร้อน 125,747 คน 35,135 ครัวเรือน ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอโคกสำโรง อำเภอบ้านหมี่ อำเภอสระโบสถ์ อำเภอโคกเจริญ อำเภอชัยบาดาล อำเภอหนองม่วง และอำเภอลำสนธิ ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่
1) อำเภอเมือง ยังคงมีน้ำท่วมบ้านเรือนราษฎร และพื้นที่การเกษตรใน 5 ตำบล ได้แก่ ตำบลเขาสามยอด (หมู่ที่ 4,5) ตำบลท่าแค (หมู่ที่ 1-10) ตำบลถนนใหญ่ ตำบลป่าตาล (หมู่ที่ 1,4-7) และตำบลโคกตูม (หมู่ที่ 2,11) ระดับน้ำสูง 0.20-0.40 ม.
2) อำเภอโคกสำโรง ยังคงมีน้ำท่วมบ้านเรือนราษฎร และพื้นที่การเกษตรใน 6 ตำบล ได้แก่ ตำบลโคกสำโรง (หมู่ที่ 1) ตำบลถลุงเหล็ก (หมู่ที่ 4) ตำบลวังจั่น ตำบลเกาะแก้ว (หมู่ที่ 1,2) ตำบลหลุมข้าว (หมู่ที่ 4-11) ตำบล วังขอนขว้าง (หมู่ที่ 6) ตำบลเพนียด ตำบลสะแกราบ ตำบลวังเพลิง และตำบลดงมะรุม (มีผู้เสียชีวิต 1 คน ชื่อ นายสายยล คลังผา อายุ 45 ปี) ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 8,555 ครัวเรือน 33,822 คน ระดับน้ำสูง 0.20-0.50 ม.
3) อำเภอบ้านหมี่ เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนราษฎร และพื้นที่การเกษตรใน 9 ตำบล ได้แก่ ตำบลหนองทรายขาว ตำบลพุกา ตำบลหนองเมือง ตำบลหินปัก ตำบลดงพลับ ตำบลบางกะพี้ ตำบลบ้านทราย ตำบลหนองกระเบียน และตำบลบ้านกล้วย ระดับน้ำสูง 0.30-0.80 ม.
แนวโน้มสถานการณ์ หากไม่มีฝนตกเพิ่มคาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติใน 1-2 สัปดาห์
การให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น
- จังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลพบุรี ศูนย์ป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยเขต 2 สุพรรณบุรี อำเภอ สาธารณสุขจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสนับสนุนเรือท้องแบน จำนวน 72 ลำ รถแบ็คโฮ 2 คัน พร้อมมอบถุงยังชีพ จำนวน 1,500 ชุด ชุดยาเวชภัณฑ์ 4,000 ชุด
- กรมชลประทาน สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ จำนวน 35 เครื่อง พร้อมนำเครื่องจักรทำการกำจัดวัชพืชที่กีดขวางทางน้ำในคลองชัยนาท-ป่าสัก
5.3 จังหวัดสระบุรี เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ของวันที่ 11 ก.ย.51 เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ในพื้นที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากใน 11 อำเภอ 38 ตำบล 1 เทศบาล ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอวังม่วง อำเภอบ้านหมอ อำเภอพระพุทธบาท อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอแก่งคอย อำเภอมวกเหล็ก อำเภอเสาไห้ อำเภอวิหารแดง อำเภอหนองแซง อำเภอหนองโดน ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมที่ อำเภอหนองโดน ตำบลหนองแก (หมู่ที่ 1) ระดับน้ำสูงประมาณ 0.10-0.30 ม.
แนวโน้มสถานการณ์ หากไม่มีฝนตกเพิ่มคาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติใน 1-2 วัน
การให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น
- จังหวัด อำเภอ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระบุรี ได้นำถุงยังชีพ และน้ำดื่มมอบให้แก่ผู้ประสบภัย จำนวน 2,750 ชุด เรือท้องแบน และเรือไฟเบอร์กลาส จำนวน 52 ลำ อำเภอหนองแซงนำทรายบรรจุกระสอบ จำนวน 500 คิว ปิดกั้นประตูน้ำบริเวณคลองระพีพัฒน์ เพื่อกั้นน้ำไม่ให้ล้นเข้าท่วมในพื้นที่ และเทศบาลตำบลทับกวางตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย และอพยพประชาชน จำนวน 150 คน ไปยังพื้นที่ปลอดภัย พร้อมทั้งจัดหาอาหาร น้ำดื่ม และเต็นท์ที่พักให้แก่ผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว ความเสียหายอื่นๆ อยู่ระหว่างการสำรวจ
- เทศบาลตำบลมวกเหล็ก องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานในพื้นที่ ได้จัดทำป้ายสัญญาณ แจ้งเตือนให้ระมัดระวังในการใช้ถนน พร้อมจัดทำทางเบี่ยงให้รถสามารถสัญจรไปมาได้ชั่วคราวแล้ว
- กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ สนับสนุนกำลังพลช่วยเหลือผู้ประสบภัยในการขนย้ายสิ่งของไปไว้ยังที่ปลอดภัย
5.4 จังหวัดหนองบัวลำภู เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ และน้ำจากภูเขาในพื้นที่จังหวัดไหลลงคลองพะเนียงเข้าท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่
5.1 อำเภอนาวัง มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลเนาเหล่า ตำบลนาแก ตำบล วังทอง และตำบลเทพคีรี
5.2 อำเภอนากลาง มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 9 ตำบล ได้แก่ ตำบลดงสวรรค์ ตำบลกุดแห่ ตำบลเก่ากลอย ตำบลนากลาง ตำบลด่านช้าง ตำบลอุทัยสวรรค์ ตำบลโนนเมือง ตำบลฝั่งแดง และตำบลกุดดินจี่ (เสียชีวิต 1 คน ชื่อ นายคำมี สามา อายุ 71 ปี)
5.3 อำเภอเมือง มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 14 ตำบล ได้แก่ ตำบลหนองภัยศูนย์ ตำบลหนองสวรรค์ ตำบลกุดจิก ตำบลพร้าว ตำบลบ้านขาม ตำบลโนนขมิ้น ตำบลหนองหว้า ตำบลโนนทัน ตำบลหนองบัว ตำบลหัวนา ตำบลป่าไม้งาม ตำบลนาคำไฮ ตำบลมะเฟือง และตำบลโพธิ์ชัย (เสียชีวิต 3 คน ชื่อ นายโชคชัย นันทะ อายุ 35 ปี นายจักคำ พรมต๊ะ อายุ 68 ปี และ นางสาวอุทัย ท้าววัน)
5.4 อำเภอศรีบุญเรือง มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 11 ตำบล ได้แก่ ตำบลศรีบุญเรือง ตำบลนากอก ตำบลโนนสะอาด ตำบลยางหล่อ ตำบลหนองกุงแก้ว ตำบลโนนม่วง ตำบลกุดสะเทียน ตำบลหนองแก ตำบลหนองบัวใต้ ตำบลหันนางาม และตำบลทรายทอง
5.5 อำเภอโนนสัง มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 10 ตำบล 57 หมู่บ้าน
5.6 อำเภอสุวรรณคูหา มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 8 ตำบล 67 หมู่บ้าน
การให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น
จังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาธารณภัยจังหวัดหนองบัวลำภู อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจความเสียหายเพิ่มเติม เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2546 (งบ 50 ล้านบาท) ต่อไป
5.5 จังหวัดชัยภูมิ เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมใน 15 อำเภอ 106 ตำบล 513 หมู่บ้าน ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ 15 ชุมชน ระดับน้ำสูงประมาณ 0.50-0.80 ม.
การให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น
จังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยภูมิ กาชาดจังหวัด องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น สนับสนุนเรือท้องแบน 10 ลำ ถุงยังชีพ จำนวน 280 ถุง น้ำดื่ม 100 โหล กระสอบทราย จำวน 30,000 กระสอบ โครงการชลประทานชัยภูมิ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 9 เครื่อง เพื่อระบายน้ำลงสู่ลำห้วยประทาน ตลอด 24 ชั่วโมง
5.6 จังหวัดขอนแก่น เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องทำให้น้ำเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ 10 อำเภอ 66 ตำบล 576 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองขอนแก่น อำเภอบ้านแฮด อำเภอชนบท อำเภอมัญจาคีรี อำเภอบ้านไผ่ อำเภอซำสูง อำเภอโคกโพธิ์ไชย อำเภอพล อำเภอหนองนาคำ และอำเภอภูผาม่าน ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขัง ในพื้นที่ อำเภอเมืองขอนแก่น ตำบลดอนหัน (หมู่ที่ 3,4,12) ระดับน้ำสูงประมาณ 0.50 — 1.00 ม.
การให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น
- จังหวัด จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาอุทกภัยจังหวัดขอนแก่น ณ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดขอนแก่น
- จังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดขอนแก่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าสนับสนุนเรือท้องแบน จำนวน 24 ลำ ติดตั้งสะพานแบรี่ย์บริเวณคอสะพานที่ชำรุด แจกถุงยังชีพ 4,530 ชุด ข้าวกล่อง 200 กล่อง จัดหากระสอบทราย 4,000 กระสอบ เทศบาลนครขอนแก่นนำรถขุดไปเปิดทางน้ำหลังหมู่บ้านมิตรสัมพันธ์ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ อปพร. เข้าช่วยเหลือโรงเรียนการศึกษาคนตาบอดตลอด 24 ชั่วโมง
- มณฑลทหารบกที่ 23 จัดกำลังพล จำนวน 30 นาย ให้การช่วยเหลือประชาชนในการขนย้ายสิ่งของไปยังที่ปลอดภัย
5.7) จังหวัดอุบลราชธานี เกิดฝนตกหนักในพื้นที่และน้ำระบายไม่ทัน ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่
1) อำเภอพิบูลมังสาหาร บริเวณหน้าเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร ตำบลโพธิ์ไทร บ้านโพธิ์ไทร (หมู่ที่ 1) บ้านวังแคน (หมู่ที่ 7) และบ้านท่าช้าง (หมู่ที่ 3) ระดับน้ำสูงประมาณ 0.30-0.80 ม. คาดว่าถ้าไม่มีฝนตกหนักในพื้นที่ระดับน้ำจะลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ
2) อำเภอเมืองอุบลราชธานี ในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี ได้เกิดฝนตกหนักและมีน้ำเหนือไหลหลากทำให้น้ำในแม่น้ำมูลเอ่อล้นท่วมชุมชนวังแดงทีอาศัยอยู่ในพื้นที่ต่ำ และได้อพยพมายังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว 5 ครัวเรือน ราษฏรเดือดร้อน 16 คน
การให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น
จังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้อถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จัดเต็นท์ที่พักอาศัยชั่วคราว พร้อมน้ำอุปโภคบริโภค และห้องสุขาเคลื่อนที่ ให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว
5.8 จังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ 19 ก.ย.51 เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ต้นน้ำ ทำให้แม่น้ำจันทบุรีเอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ดังนี้
1) อำเภอมะขาม มีน้ำท่วมขังใน 5 ตำบล ได้แก่ ตำบลปัถวี ตำบลฉมัน ตำบลวังแช้ม ตำบลท่าหลวง และตำบลมะขาม ระดับน้ำสูงประมาณ 0.20-0.30 ม.
2) อำเภอเมือง ระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่งท่วมผิวถนนริมฝั่งแม่น้ำและพื้นที่ลุ่มต่ำ 4 ตำบล 2 เทศบาล ได้แก่ เทศบาลเมืองจันทบุรี เทศบาลตำบลจันทนิมิต ตำบลพลับพลา ตำบลคลองนารายณ์ ตำบลแสลง ตำบลท่าช้าง ระดับน้ำสูงประมาณ 0.50-0.80 ม.
การให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น
- จังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนเรือท้องแบน จำนวน 5 ลำ กระสอบทราย จำนวน 30,000 กระสอบ
- กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด สนับสนุนกำลังพล จำนวน 50 นาย ช่วยเหลือประชาชนในการขนย้ายสิ่งของไปยังที่ปลอดภัย
6. การให้ความช่วยเหลือ
6.1 สิ่งของพระราชทาน
1) มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ นำโดยประธานกรรมการบริหาร (นายดิสธร วัชโรทัย) และเลขาธิการฯ (นายประสงค์ พิฑูรกิจจา) และคณะเจ้าหน้าที่ เป็นผู้แทนพระองค์ นำสิ่งของและเครื่องอุปโภคบริโภคพระราชทานช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ ดังนี้
1.1) เมื่อวันที่ (20 ก.ย. 51) มอบเครื่องอุปโภคบริโภคพระราชทานช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดพิจิตร และจังหวัดเพชรบูรณ์ ดังนี้
- ที่ ศาลาการเปรียญวัดห้วยเขน ตำบลห้วยเขน อำเภอบางมูลนาก จำนวน 500 ชุด
- ที่ ที่ว่าการอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 500 ชุด
1.2) เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 51 มอบเครื่องอุปโภคบริโภคพระราชทานช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ดังนี้
- ที่ ที่ว่าการอำเภอบ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น จำนวน 1,000 ชุด
- ที่ เทศบาลตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น จำนวน 500 ชุด
- ที่ เทศบาลนครขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น จำนวน 500 ชุด
1.3) วันที่ 22 ก.ย. 51 มอบเครื่องอุปโภคบริโภคพระราชทานไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่เทศบาลตำบลโนนสูงเปลือย อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู จำนวน 1,000 ชุด
2) วันที่ 22 ก.ย. กองงานพระวรชายา ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร นำโดยพลอากาศเอก ทรงศักดิ์ ตะวันแจ้ง ผู้อำนวยการกองงานพระวรชายาฯ เป็นผู้แทนพระองค์ เดินทางไปมอบสิ่งของพระราชทานเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพิจิตร จำนวน 1,500 ชุด
3) วันที่ 20 ก.ย.51 มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก นำโดยนายอภัย จันทนจุลกะ รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ได้นำสิ่งของ พระราชทานเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น จำนวน 750 ชุด โดยนำไปมอบให้ที่ อำเภอบ้านแฮด จำนวน 266 ชุด และอำเภอบ้านไผ่ จำนวน 484 ชุด
4) สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย โดยนายกเหล่ากาชาดจังหวัดมอบสิ่งของพระราชทานช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี 1,000 ชุด จังหวัดปราจีนบุรี 400 ชุด จังหวัดนครนายก 500 ชุด จังหวัดนครสวรรค์ 800 ชุด จังหวัดลพบุรี 1,500 ชุด เรือท้องแบน 9 ลำ รถผลิตน้ำดื่ม 2 คัน
6.2 การตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัย
1) เมื่อวันที่ 20 ก.ย.51 ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี (นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์) พร้อมคณะ เดินทางไปตรวจการวางแนวป้องกันน้ำท่วมที่พระตำหนักสิริยาลัย และที่วัดไชยวัฒนาราม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
2) เมื่อวันที่ 20 ก.ย.51 รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ) รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (นายฉัตรชัย พรหมเลิศ) และคณะฯ เดินทางไปตรวจสถานการณ์อุทกภัยพร้อมกับมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ ดังนี้
- ที่ ชุมชนหนองบ่อ เทศบาลเมืองชัยภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จำนวน 280 ชุด
- ที่ อาคารลิ้มชัยอุทิศ เทศบาลเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู จำนวน 300 ชุด
- ที่ ศาลาการเปรียญวัดศรีวิไล ตำบลหนองหว้า อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู จำนวน 300 ชุด
- ที่ โรงเรียนศิรินทร์ ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น จำนวน 200 ชุด
- ที่ สถานีอนามัยบ้านเล็บเงือก ตำบลโคกสำราญ อำเภอบ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น จำนวน 200 ชุด
โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รับการตรวจเยี่ยม
6.3 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ได้จัดส่งกำลังพล จำนวน 691 นาย รถบรรทุก จำนวน 54 คัน เรือ 3 ลำ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ที่ประสบภัย และยังคงให้การช่วยเหลือประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะยุติ
7. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้แจ้งเตือนเกี่ยวกับสภาวะอากาศ ดังนี้
เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม อันเกิดจากฝนตกหนัก และลมแรง อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม สร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย จึงขอให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 1 (ปทุมธานี) เขต 2 (สุพรรณบุรี) เขต 3 (ปราจีนบุรี) เขต 5 (นครราชสีมา) เขต 6 (ขอนแก่น) เขต 7 (สกลนคร) เขต 8 (กำแพงเพชร) เขต 9 (พิษณุโลก) เขต 10 (ลำปาง) และจังหวัดตาก แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน พะเยา แพร่ น่าน กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เลย หนองบัวลำภู นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สระบุรี ลพบุรี ชัยภูมิ หนองคาย อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น เลย มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ไว้ให้พร้อมเพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันต่อเหตุการณ์
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากมีสถานการณ์คืบหน้าประการใด จักได้ติดตามและรายงานให้ทราบต่อไป