กบง. อนุมัติเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล ไบโอดีเซลและดีเซล เพิ่มอีกลิตรละ 40 - 50 สตางค์ต่อลิตร

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 22, 2008 17:00 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 ก.ย.--ก.พลังงาน
กบง. อนุมัติเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล ไบโอดีเซลและดีเซล เพิ่มอีกลิตรละ 40 - 50 สตางค์ต่อลิตร เสริมสภาพคล่องกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และจัดสรรน้ำมันดีเซลที่ได้รับการช่วยเหลือจากโรงกลั่นเพื่อช่วยเหลือให้กับหน่วยงานต่างๆเพื่อสาธารณะประโยชน์
นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระพลังงาน และประธานคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กบง. วันนี้ (22 กันยายน 2551) มีมติเห็นชอบปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 E 10 น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 น้ำมันดีเซล และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B 5 ในอัตรา 50 สตางค์ต่อลิตร และน้ำมันเบนซิน 91 ในอัตรา 40 สตางค์ต่อลิตร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2551 ซึ่งการเพิ่มเงินส่งเข้ากองทุนฯ ครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมันแต่อย่างใด ราคาขายหน้าสถานีบริการยังคงจำหน่ายเท่าเดิม
ทั้งนี้ การปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดังกล่าว เพื่อส่งเสริมการจำหน่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล E 20 เพิ่มมากขึ้น และเพิ่มเงินสำรองเพื่อใช้ในการส่งเสริมพลังงานทดแทน และลดผลกระทบในช่วงราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อรวดเร็ว รวมทั้งเพื่อรองรับราคา เอทานอลที่ปรับเพิ่มจากระดับ 18.01 บาทต่อลิตร ในช่วงไตรมาส 3 เป็น 22.12 บาทต่อลิตร ในช่วงไตรมาส 4 และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นอีกในอนาคต
สำหรับการส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่จะมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้ น้ำมันเบนซิน 95 จากเดิมเรียกเก็บ 4.00 บาทต่อลิตร ยังคงไม่เป็นเปลี่ยนแปลง น้ำมันเบนซิน 91 จากเดิมเรียกเก็บ 3.60 บาทต่อลิตร เป็น 4.00 บาทต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 (E10) จากเดิมเรียกเก็บ 0.85 บาทต่อลิตร เพิ่มเป็น 1.35 บาทต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซออล 95 (E20) จากเดิมเก็บที่ระดับ 0.30 บาทต่อลิตร ยังคงไม่เป็นเปลี่ยนแปลง น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 (E10) จากเดิมเรียกเก็บ 0.35 บาทต่อลิตร เพิ่มเป็น0.85 บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B2 จากเดิมเรียกเก็บ 0.70 บาทต่อลิตร เพิ่มเป็น 1.20 บาทต่อลิตร และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 จากเดิมชดเชย 0.70 บาทต่อลิตร เหลือการชดเชย 0.20 บาทต่อลิตร
นายพรชัย กล่าวว่า การประชุม กบง. ครั้งนี้ ยังได้มีมติให้จัดสรรน้ำมันดีเซลที่ได้รับการช่วยเหลือจากโรงกลั่นน้ำมันให้กับหน่วยงานต่างๆ ดังนี้ 1.กรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี เพื่อใช้ในการขุดลอกกร่องน้ำรวมกับน้ำมันที่เคยจัดสรรให้แล้ว 1,500 ลิตรต่อเดือนเป็นจำนวน 1,131,000 ลิตร ในระยะเวลา 3 เดือน (กันยายน — พฤศจิกายน 2551) 2.กรมประมง เพื่อใช้ในการขุดลอกหนองบึงและแหล่งน้ำธรรมชาติ จำนวน 36,000 ลิตรต่อเดือน ในระยะ 3 เดือน (กันยายน — พฤศจิกายน 2551) และ 3.มีมติเห็นชอบให้ความช่วยเหลือน้ำมันดีเซลให้เปล่าแก่จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยมาก ในขั้นแรก 5 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก พิจิตร สระบุรี ลพบุรี และนครราชสีมา จังหวัดละ 100,000 ลิตร เพื่อให้มีความคล่องตัวและทันเหตุการณ์ในการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยดังกล่าวด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ