กรุงเทพฯ--23 ก.ย.--รังสิตพลาซ่า
ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต สวนกระแสเศรษฐกิจซบคนเดินห้างเพิ่มทำยอดพุ่ง 23% คาดอานิสงค์จากการเมืองวุ่น น้ำมันแพง ทำคนซื้อของใกล้บ้านและใช้จ่ายเพื่อคลายความเครียด ทั้งยังได้ลูกค้ากลุ่มใหม่เพิ่ม หลังปรับภาพลักษณ์ยกระดับครั้งใหญ่เป็น “The Natural-Metro Shopping Park จุดนัดพบของธรรมชาติ ความล้ำสมัย และคุณ” พร้อมส่งแคมเปญ “Future Park 13th Anniversary Grand Splendor” อัดกิจกรรมทุกรูปแบบกระตุ้นกำลังซื้อโค้งสุดท้าย
นางสาวพิมพ์ผกา หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท รังสิตพลาซ่า จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต กล่าวถึงสถานการณ์ค้าปลีกในปัจจุบันว่า ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากปัญหาต่างๆ รอบด้าน ทั้งปัญหาค่าครองชีพ อัตราเงินเฟ้อ ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและค่าเดินทางที่เพิ่มขึ้น รวมถึงปัญหาราคาน้ำมันที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคโดยตรง นอกจากนั้นปัญหาความตึงเครียดด้านการเมืองยังส่งผลทางจิตวิทยาและทำให้อารมณ์ในการจับจ่ายซื้อสินค้าของผู้บริโภคลดลง เห็นได้จากการที่หลายภาคส่วนออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลหามาตรการแก้ไขและกระตุ้นเศรษฐกิจในขณะนี้ แต่สำหรับการดำเนินธุรกิจและการใช้จ่ายของลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าภายในศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต นั้น ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะดังกล่าว ตรงกันข้ามสิ่งที่เกิดขึ้นกลายเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ผู้บริโภคหันมาจับจ่ายซื้อสินค้าใกล้บ้านมากขึ้น ผนวกกับการขยายตัวของพื้นที่ในเขตกรุงเทพตอนเหนือและตะวันออก ที่มีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในระดับสูง ทั้งในส่วนของที่พักอาศัย, สถานประกอบการ และสถาบันการศึกษา ทำให้ปริมาณของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการของศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต โดยรวมเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 23% และกลุ่มลูกค้าระดับกลางบน (B+) ที่มีรายได้ 50,000 บาทขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงเพิ่มขึ้น 10% ทำให้ยอดรายได้รวมของศูนย์การค้าในไตรมาสสองของปี 2551 เพิ่มสูงขึ้น 8% และคาดว่าในสิ้นปี 2551 จะมีรายได้สูงถึง 10% เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
อีกปัจจัยซึ่งถือเป็นจุดดึงดูดสำคัญที่ทำให้กลุ่มเป้าหมายสนใจและเข้ามาพักผ่อนซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น เนื่องจาก ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต มีการปรับภาพลักษณ์ครั้งใหญ่เป็นศูนย์การค้าระดับพรีเมียมของกรุงเทพตอนเหนือ ภายใต้แนวคิด “The Natural-Metro Shopping Park จุดนัดพบของธรรมชาติ ความล้ำสมัย และคุณ” โดยใช้งบประมาณถึง 1 พันล้านบาท ส่งผลให้ร้านค้าภายในฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ขยายการลงทุนเพิ่มพื้นที่ในการขาย และมีร้านค้าใหม่ระดับพรีเมี่ยม มาลงทุนเปิดให้บริการเพิ่มขึ้น อาทิ กลุ่มร้านอาหาร เช่น อาหารอินเดีย Spicy Maharaja, Moss Burger, Red Mango, Secret Recipe กลุ่มแฟชั่น Puma, Levi’s เป็นต้น ตลอดจนมีกลุ่มพันธมิตรให้ความสนใจมาใช้บริการพื้นที่ในการจัดกิจกรรม เพื่อขยายสู่กลุ่มลูกค้ากลุ่มใหญ่มากขึ้น ทั้งกิจกรรมระดับประเทศ อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมประมง : งานวันประมงน้อมเกล้าฯ, กรมส่งเสริมสหกรณ์ : งานมหกรรมบริโภคผลไม้ไทย, มหกรรมสินค้าสหกรณ์ ฯลฯ) ช่อง 3 (จัดประกวด Singing Contents, กิจกรรมแข่งขันฟุตบอลรวมดารา ช่อง 3 และ ช่อง 7)
สำหรับในส่วนของกิจกรรมพิเศษที่จะจัดขึ้นในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปี เพื่อเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อและสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้านั้น นางสาวพิมพ์ผกา กล่าวเพิ่มเติมว่า ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ยังคงรูปแบบและแนวคิดในการจัดกิจกรรมที่เป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสนับสนุนกิจกรรมลดภาวะโลกร้อน โดยเจาะกลุ่มวัยรุ่นและนักศึกษามากขึ้น พร้อมเพิ่มความถี่ในการจัดกิจกรรม โดยได้เตรียมจัดกิจกรรมไว้ตลอดในช่วง 4 เดือน เริ่มด้วยกิจกรรมใหญ่วันที่ 26 กันยายน — 5 ตุลาคม เป็นการจัดรายการโปรโมชั่นครั้งใหญ่ “Future Park 13th Anniversary Grand Splendor” ฉลองครบรอบ 13 ปี ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ซึ่งใช้งบประมาณการจัดงานถึง 15 ล้านบาท กิจกรรมประกอดด้วย Flora Blooming Fashion Show จากสุดยอดนางแบบของเมืองไทย พร้อมการลดราคาสินค้าครั้งใหญ่สูงสุดถึง 80% จากพันธมิตรภายในศูนย์การค้า อาทิ เซ็นทรัล, โรบินสัน, บิ๊กซี, ซุปเปอร์สปอร์ต, เพาเวอร์บาย, โฮมเวิร์ค และโฮมโปร พร้อมรับสิทธิ์ลุ้นเที่ยวชมดอกทิวลิป ที่ประเทศเนเธอแลนด์ และของรางวัลมูลค่ารวม 3,500,000 บาท เมื่อซื้อสินค้าครบทุก 1,000 บาท และเมื่อซื้อสินค้าครบ 5,000 บาท รับฟรีกระเป๋าผ้าลดโลกร้อน ส่วนกิจกรรมต่อเนื่องอื่นที่จะจัดขึ้น อาทิกิจกรรมฮาโลวีน ปาร์ตี้, ฟิวเจอร์พาร์ค อินเตอร์แนชชั่นแเนล เทคโฮม, การแข่งขันฟุตบอลดาราระหว่างทีมช่อง 3 ปะทะ ช่อง 7, กิจกรรม คิดส์ ฟิต ฟอร์ ฟัน, ไอ โก ยีนส์, งานเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ด้านสิ่งแวดล้อม และปิดท้ายปลายปีกับกิจกรรมการเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส และส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
ปัจจุบัน ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต นับเป็นศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพตอนเหนือ มีพื้นที่ดำเนินการถึง 510,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น 6 โซน ได้แก่ Digital Park โซนเทคโนโลยีจากแบรนด์ชั้นนำ, Banking Park โซนที่รวบรวมสถาบันการเงินไว้ถึง 14 ธนาคาร และ 4 สถาบันการเงิน, Fashion Park โซนที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของทุกวัย พร้อมรวบรวมสถาบันเสริมความงามและสถาบันสุขภาพชื่อดัง, Gourmet Park โซนที่ทำให้ทุกคนเต็มอิ่มกับความอร่อยจากร้านอาหารชั้นนำกว่า 60 ร้าน, Campus Park โซนสร้างสรรค์จินตนาการ และเสริมศักยภาพการเรียนรู้ ด้วยสถาบันเสริมทักษะการศึกษาและทักษะด้านต่างๆ กว่า 35 สถาบัน และ Alive Park โซนแห่งความบันเทิงของชีวิต ที่มีกิจกรรมและโชว์รูปแบบใหม่มากมาย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท รังสิตพลาซ่า จำกัด
คุณภัทรา โมรา, คุณจิรัฐยา เนื่องรุจิ, คุณศุชัชชล สวนเมือง
โทร.0-2958-0011 ต่อ 1162, 1886, 1036