กรุงเทพฯ--23 ก.ย.--สหมงคลฟิล์ม
เป็นอีกหนึ่งฉากไฮไลต์สุดมันส์ในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง “ปืนใหญ่จอมสลัด” กับฉากที่ “ปารี” (อนันดา เอเวอริ่งแฮม) ผู้นำของเหล่าชาวน้ำเปิดศึกล้างแค้นฝ่ายโจรสลัดด้วยการตัดสินใจ “ระเบิดถ้ำอีกาดำ” ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของฝ่ายโจรสลัดที่นำโดย “เจ้าชายราไว” (เอก โอรี) และ “อีกาดำ” (วินัย ไกร บุตร) ให้สิ้นซาก
โดยฉากนี้ “เอก เอี่ยมชื่น” ผู้ออกแบบงานสร้างมือหนึ่งของไทยได้เนรมิตฉากถ้ำอีกาดำขึ้นที่ถ้ำลูกเสือ จ. พังงา (ฉากภายใน) และที่ถ้ำสระยวนทอง จ. กระบี่ (ฉากภายนอก) ซึ่งผู้ชมจะได้เห็นการสร้างฉากที่คุมขังในและนอกถ้ำอย่างละเอียดสวยงามและสมจริงที่สุด แสดงให้เห็นถึงความพยายามและความตั้งใจจริงในการถ่ายทอดอีกหนึ่งฉากที่สุดพิถีพิถันของทีมงานสร้างเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี
“ฉากถ้ำโจรสลัดเนี่ย การเซ็ตอัพภายในถ้ำมันจะต้องทำขึ้นจากส่วนต่าง ๆ ของเรือ เราก็เลยไปหาซื้อเรือประมงมา 30 ลำ จากนั้นเราก็ถอดชิ้นส่วนมันออกมาทั้งหมดแล้วค่อยเอาไปต่อในถ้ำ เราคิดไว้ว่าถ้ำนี้มันจะอยู่ในหมู่เกาะที่ทางเข้ามันจะเต็มไปด้วยหินโสโครก แต่ว่าเรือของโจรสลัดมันลุยเข้าไปแล้วพบว่าข้างในเกาะมันมีอ่าวเล็ก ๆ ซึ่งในอ่าวนี้มันก็มีถ้ำที่ปลายอ่าว เลยทำหน้าถ้ำเป็นท่าเรือ และในถ้ำก็ใช้เป็นฐานทัพไป โดยต้นของการออกแบบเราก็คิดว่าจะทำอย่างไรให้ถ้ำนี้มันมีคาแร็คเตอร์เฉพาะตัว เราเลยคิดว่าโครงสร้างต่าง ๆ บริเวณถ้ำจะทำจากเรือที่พวกโจรไปปล้นมา แล้วจับมาแยกชิ้นส่วนเอาไปดัดแปลงทำเป็นส่วนต่าง ๆ ของถ้ำ เช่น พวกเสากระโดง ผ้าใบ เชือก ไม้เรือต่าง ๆ ก็จะมาประกอบเป็นท่าเรือหน้าถ้ำไป แต่เอาเข้าจริงเราก็ต้องดัดแปลงโครงสร้างฉากตามโลเกชั่นจริงที่เราไปถ่ายด้วยนะครับ”
ด้านผู้กำกับของเรื่องอย่าง “นนทรีย์ นิมิบุตร” ได้พูดถึงอีกหนึ่งฉากใหญ่นี้ว่า
“ถ้ำที่เราไปเซ็ตติ้งนะครับ เราใช้ถ้ำลูกเสือที่พังงากับถ้ำสระยวนทองที่กระบี่นะครับ ทั้ง 2 ถ้ำเนี่ยใช้เวลาประมาณ 5-6 เดือนในการเซ็ตฉากทั้งหมด เพราะว่ามันต้องไปสร้างเพิ่มนะครับ บางถ้ำที่มันมีรู เราก็ต้องปิด เราก็ต้องฉีดโฟมทำ Texture ให้มันเหมือนกับหินตรงนั้น ทำให้มันมีคาแร็คเตอร์เดียวกัน มันไม่ใช่เข้าไปแล้วใช้ได้เลยนะครับ ทุกอย่างมันต้องถูกเซ็ตให้เป็นรังโจร เป็นคุก เป็นที่ประชุมงาน แม้กระทั่งอุปกรณ์ที่ใช้ทั้งหมดในถ้ำ
ก็ถูกออกแบบใหม่ให้เหมือนจริงหมดเลย เพราะฉะนั้นมันเลยใช้เวลายาวนานในการสร้างฉากนี้นะครับ การถ่ายทำในถ้ำก็หัวแตกไปหลายคนครับ (หัวเราะ) เราก็พยายามเซฟตี้ให้ทุกคนใส่ไอ้หมวกแข็ง ๆ แต่มันก็รำคาญนะครับ แต่ก็ต้องใส่ไว้เพื่อจะเซฟตี้ทุก ๆ คน แล้วเวลาเดินก็ต้องระวังเพราะว่าในถ้ำมันมืดมาก เราไม่แน่ใจว่าอันไหนเป็นหินจริง ๆ อันไหนเป็นโฟม เพราะเขาทำเหมือนมาก ฉะนั้นเราต้องระวังหมด มันทำให้งานช้าลงมากอากาศก็ไม่ค่อยพอ มันอึดอัดพอสมควร ซึ่งเราก็กังวลมากทีมงานก็เป็นร้อย ๆ คนเข้าไปอยู่ในถ้ำนะครับ มันก็ทำให้ต้องระวังกันมากมาย
อย่างฉากไฮไลต์ที่ต้องมีการระเบิดถ้ำ อันนั้นเป็นอีกฉากที่ถ่ายยากมาก ๆ ครับ เราต้องเตรียมงานก่อนการถ่ายทำอยู่นานกว่าจะลงมือถ่ายทำจริง ต้องลองโน่นลองนี่ให้แม่นยำจริง ๆ ก่อน เพราะไม่เช่นนั้น หากเกิดพลาดขึ้นมานั่นหมายถึงต้องสร้างฉากใหม่ ก็เลยหวั่น ๆ อยู่เหมือนกัน พอมันระเบิดทีก็มองอะไรไม่เห็น ควันมันคลุ้งไปหมด มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยากมากกับการถ่ายทำในถ้ำ แต่พอถึงเวลาถ่ายทำจริง ทุกคนก็ให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี สุดท้ายก็ผ่านไปด้วยดีกับฉากนี้ครับ”
ส่วนพระเอกสุดฮ็อต “อนันดา เอเวอริ่งแฮม” ที่ฉากนี้คงจะฮ็อตจริงร้อนจริง เพราะเล่นกับไฟซะขนาดนี้ เปิดเผยเบื้องหลังฉากนี้ว่า
“โอ้โห...เท่าที่เจอมาไม่มีอะไรเทียบกับเรื่องนี้ได้เลยนะครับ เรื่องฉากเราก็คุยกันตั้งแต่เปิดกล้อง พี่เอกรับรางวัลไปเหอะ แกได้รางวัลตั้งแต่แกสร้างแล้ว (หัวเราะ) มันแบบโอ้โห...มันอลังการในทุก ๆ ฉากเลยก็ว่าได้ครับ อย่างฉากในถ้ำอีกาดำฝ่ายโจรสลัดนั่นก็เป็นฉากหนึ่งที่ผมชอบนะครับ มันอลังการมาก ๆ ผมยังอยากเข้าไปอยู่เลย แต่เสียดายได้เข้าไปถ่ายอยู่ไม่กี่ครั้ง ที่ยิ่งกว่านั้นคือช็อตสุดท้ายที่เขาจะใช้กับฉากนี้ คือระเบิดทิ้งเลยครับ แล้วก็ตัวละครของผมก็ต้องไปยืนตรงที่มันคล้าย ๆ สะพานปลา สะพานเรือที่มันยื่นออกมาจากเซ็ตตรงนั้น เลยเหมือนแบบได้อยู่ใกล้มันมาก และเขาก็ระเบิดมันทิ้งจริง ๆ นะครับ ระเบิดทิ้งหมดเลย มันก็ลุ้นมาก ทั้งลุ้นทั้งร้อนเลยครับ (หัวเราะ) คือทีมงานทุกคนก็ลุ้นกันมากว่ามันจะเหมือนจริง สมจริงหรือเปล่านะ โอ้โห...ฉากนี้มันมีรายละเอียดเยอะมากครับ ต้องไปดูกันเองครับ มีทั้งเสาล้ม มีทั้งระเบิดตูม ทุกอย่างพังกระจายหมดเลย ฉากนี้ผมชอบมากเลยครับ สะใจดีครับ”
เตรียมพบกับอีกหนึ่งฉากสำคัญของเรื่อง “ปืนใหญ่จอมสลัด” นี้ได้ในวันที่ 23 ตุลาคมนี้แน่นอน ทุกโรงภาพยนตร์