กรุงเทพฯ--23 ก.ย.--สหมงคลฟิล์ม
ยืนยันว่าเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตที่เดี่ยวมือ1อย่าง “อุดม แต้พานิช” จะยอมทำอะไรที่มันเสี่ยงต่อชีวิต บั่นทอนต่อความรู้สึกเสียววาบตั้งแต่ปลายผมจรดปลายเท้าเฉกเช่นการ “จูจุ๊บปากประกบปากชนิดรดลมหายใจกับจระเข้ตัวใหญ่ยักษ์” ลูกหลานสายพันธุ์ชาละวันเป็นแน่ ถ้าไม่ใช่เพื่อ “อีติ๋มตายแน่” หนังโรแมนติคปนขำเรื่องใหม่ของ“สหมงคลฟิล์มฯ”ที่พระเอกโน้สทั้งเขียนบทและเล่นเองโดยไม่ใช้สลิงและปฎิเสธตัวแสดงแทนนัยว่าเพื่อทาบรัศมีจา พนม ผสมกับ “เล่นจริง เสี่ยงจริง”ในสไตล์ “จีจ้า ญาณิน”ให้กับผู้กำกับเพื่อนซี้อย่าง “ต้อม ยุทธเลิศ”
ยอมรับว่าเป็นอะไรที่หวาดเสียว และเหนือจากความคาดคิด หลังจากที่ทางทีมงานเสาะหาจระเข้สตัฟฟ์ ตัวใหญ่ยักษ์ตามโจทย์ที่เดี่ยวมือ1 จินตนาการมาในบทภาพยนตร์ที่ไอ้ตึ๋ง รับบทโดยโน้ส อุดม แต้พานิชในสไตล์ จีจ้าผสมจาพนมคือเล่นจริง เจ็บจริง โดยไม่ใช้สลิง ไม่ใช้ตัวแสดงแทน ในบทบาทของพรานจระเข้ไกรทองผู้สะกดและฟัดจระเข้อยู่หมัดโชว์นักท่องเที่ยว แต่มีข้อแม้ว่าทีมงานจะต้องหาจระเข้ที่ไร้เขี้ยวเล็บปราศจากภยันตรายทั้งหมดทั้งปวงโดยสิ้นเชิง ว่าวกันซื่อๆก็คือต้องไมใช่จระเข้ตัวเป็นๆที่ยังมีลมหายใจ หลังจากทีมงานออกเสาะหาแทบพลิกแผ่นดิน หาเท่าไรก็ไม่ได้อย่างที่ต้องการ ส่วนที่ได้ก็ผิดท่าผิดทางเป็นจระเข้ทาแชลแล็คสีสันมันวาววับ ไร้ความสมจริงไปเสียนี่ จนสุดท้ายมาลงเอยที่ฟาร์มจระเข้แห่งหนึ่งที่ได้ไซส์ใหญ่บึ้มอย่างที่ต้องการ เพียงแต่ว่ายังมีลมหายใจแถมฟันฟางเขี้ยวคมยังมีอยู่ครบถ้วน
“เป็นจระเข้ตัวจริงครับ ตัวเป็นๆอยู่เลย คือต้องบอกอย่างนี้ครับในระหว่างตอนที่เขียนบทไป ก็นึกถึงจระเข้สตัฟฟ์ที่เคยเห็นอยู่ที่เขาขายในฟาร์มจระเข้โชว์ ซึ่งเป็นจระเข้ตัวเล็กๆ ทีมงานก็บอกว่า พี่ครับจะไปหาอันที่เป็นตัวใหญ่ๆ2-3เมตรอย่างที่พี่ว่าได้ไง เราก็เฮ้ยขอร้องตัวจริงคงไม่มีใครไปเล่นหรอก พวกเราต้องไปหามาให้ได้ น้องทีมงานก็ดิ้นรนไปหากัน จนกระทั่งไปเจอจระเข้ยักษ์ตัวหนึ่ง ใหญ่มาก แต่พอไปถึงมันดันสตาฟ์ ดัดเป็นท่าอยู่ ทาเชลแล็ด้วย คดูแล้วไม่เหมือน มันยกขา ไอ้พวกตัวเป็นๆในบ่อมันตัวราบ แนบติดพื้น ที่นี้พอถึงตอนถ่ายไอ้ตัวผกก.คุณต้อมยุทธเลิศก็มาเลยมา กดดัน เอ้าเร็วๆ เดี๋ยวคนดูจะเข้ามาแล้ว คือตกกระไดพลอยโจรครับ ไม่มีห่วงเพื่อนว่าจะถูกจระเข้จับกินไหม กัดไหม ไม่มีเลย แถมให้กำลังใจว่าเรื่องนี้เขาไม่ได้เขียนบท ถ้าเขาเขียนเขาคงจะไม่เขียนให้ไปยุ่งกับจระเข้ๆแน่ๆ ดูมัน
จริงๆแล้วนักแสดงอย่างผมไม่ควรลงไปอยู่ตรงนั้น ที่มีจระเข้ 7-8ตัว แล้วแต่ละตัว ตัวใหญ่มาก แล้วในชีวิตผมกลัวอยู่ 2อย่างคือแมลงสาบ และจระเข้ ถึงเวลาถ่าย ต้องเข้าไปจริงๆ เหงื่อที่มือออกมาเยอะมาก จะอาเจียน มันไม่ไหวจริงๆ คือทำใจไม่ได้ แล้วตอนถ่ายเปิดให้คนดูจริงๆเข้ามาดูเราด้วย เหมือนเราเป็นพรานจระเข้จริงๆ พอถึงเวลาเลือดนักแสดงสูบฉีดเหรอครับ ไม่มีครับ แต่ต้องทำด้วยหน้าที่ครับ มีไปนอนบนตัวจระเข้ด้วย ที่เห็นจูจุ๊บจูบปากจระเข้ก็คือไม่มีในบทครับ แต่ไหนๆก็ไหนแล้วครั้งเดียวในชีวิต ผู้กำกับก็สบายไปครับ ก็อยากจะบอกพี่น้องชาวไทยว่าเรื่องนี้เรื่องสุดท้ายแล้ว ผมไม่ไหวแล้ว ที่จะทำงานกับคนที่หวังกล่องกับเงินอย่างคุณยุทธเลิศ สิปปภาค ไม่คิดถึงสวัสดิภาพ ถ่ายหนังจบแล้วผมคงต้องร้องเรียนไปยังสมาคมสวัสดิภาพของนักแสดงครับ (หัวเราะ)”
พบกับวินาทีเสี่ยงฮาต่อสถานะนักแสดง เดี่ยวมือ1ของอุดม แต้พานิชได้ในฉาก “จูจุ๊บจูบปากจระเข้”ที่ผู้กำกับต้อมยุทธเลิศในฐานะเพื่อนสนิทฝากบอกมาว่า “ฉากนี้เพื่อนโน้สนายกล้าอย่าเดียวไม่ได้ ต้องโง่ด้วย แต่ภาพที่ออกมาฮาอย่างสุดๆได้ใน อีติ๋มตายแน่ 9 ต.ค.นี้ทุกโรงภาพยนตร์