กรุงเทพฯ--23 ก.ย.--สหมงคลฟิล์ม
Disaster Movie เป็นผลงานเรื่องล่าสุด จากทีมงานสร้างที่อยู่เบื้องหลังหนังตลกล้อเลียนสุดฮิตอย่าง Scary Movie, Date Movie, Epic Movie และ Meet the Spartans โดยในครั้งนี้ พวกเขาก็ได้หยิบเอา genre ที่อาจจะเรียกได้ว่า ยิ่งใหญ่อลังการมากที่สุดในหนังทุกๆประเภท นั้นก็คือ "หนังหายนะ"
Disaster Movie เป็นเรื่องของการผจญภัยของสี่หนุ่มสาวสุดฮ๊อต ในวัยยี่สิบกว่าๆ ที่ต้องพยายามหาทางเอาตัวรอดในค่ำคืนอันน่าสะพรึงกลัว โดยที่มีหายนะในรูปแบบต่างๆ เช่นอุตกาบาศ, พายุหมุน, แผ่นดินไหว และการงาน คอยซัดถล่มเมืองและเส้นทางที่พวกเขากำลังมุ่งหน้าไป โดยที่พวกเขาเองนั้น ก็ต้องพยายามไขปริศนาและหยุดยั้งความพังพินาศที่กำลังเกิดขึ้นให้จงได้
ไม่ว่าจะเป็นหนังบล็อคบัสเตอร์ชั้นนำเรื่อง Indiana Jones หรือ Iron Man ป๊อป ไอคอนชื่อดังในขณะนี้อย่าง Amy Winehouse หรือแม้กระทั่งหนังทีวีสุดฮิต High School Musical ล้วนถูกหนังเรื่องนี้ หยิบจับไปล้อเลียนแทบทั้งสิ้น Disaster Movie อาจจะเป็นผลงานที่มีเพียงแค่เจสัน ฟรายเบิร์ค (Jason Friedberg) และ แอรอน ซอลเซอร์ (Aaron Seltzer) เท่านั้น ที่สามารถจิกกัดได้ยอดเยี่ยมถึงขนาดนี้
Lion Gate และ Grosvenor Park ร่วมด้วยบริษัท 3 in the Box ขอเสนอ Disaster Movie ซึ่งนำแสดงด้วยนักแสดงสุดฮ๊อตมากมายทั้ง แม๊ท แลนเตอร์ (Matt Lanter), วาเนสซ่า มินนิโล (Vanessa Minnillo), คิม คาดาชิอัน (Kim Kardashian), จี แท๊งค์ (G Thang), และคาเมน อีเลคตร้า (Carmen Electra) หนังเขียนบท, อำนวยการสร้าง และกำกับโดย เจสัน ฟรายเบิร์ค (Jason Friedberg) และ แอรอน ซอลเซอร์ (Aaron Seltzer) และร่วมสร้างโดย ปีเตอร์ ซาฟราน (Peter Safran)
โปรดักชั่น
ด้วยรูปแบบการสร้างสรรค์ที่เสียดสีไม่มีใครเทียบ เจสัน ฟรายเบิร์ค (Jason Friedberg) และ แอรอน ซอลเซอร์ (Aaron Seltzer) ทีมงานสร้างผู้อยู่เบื้องหลังหนังล้อเลียนสุดฮิตอย่าง Scary Movie, Date Movie, Epic Movie และ Meet the Spartans โดยในครั้งนี้ พวกเขาก็ได้หยิบเอา genre ที่อาจจะเรียกได้ว่า ยิ่งใหญ่อลังการมากที่สุดในหนังทุกๆประเภท นั้นก็คือ "หนังหายนะ"
Disaster Movie คือหนังที่เรียกตัวเองว่าเป็นหนัง คอมเมดี้/ดราม่า/แอดเวนเจอร์/โรแมนติค/แอ๊คชั่น ที่รวมมิตรอยู่ในเรื่องเดียวกัน โดยเป็นเรื่องของการผจญภัยของสี่หนุ่มสาวสุดฮ๊อต ในวัยยี่สิบกว่าๆ ที่ต้องพยายามหาทางเอาตัวรอดในค่ำคืนอันน่าสะพรึงกลัว โดยที่มีหายนะในรูปแบบต่างๆ เช่นอุตกาบาศ, พายุหมุน, แผ่นดินไหว และการงาน คอยซัดถล่มเมืองและเส้นทางที่พวกเขากำลังมุ่งหน้าไป โดยที่พวกเขาเองนั้น ก็ต้องพยายามไขปริศนาและหยุดยั้งความพังพินาศที่กำลังเกิดขึ้นให้จงได้
Disaster Movie ได้ล้อเลียนทุกสิ่งทุกอย่างที่ทีมงานผู้สร้างคิดออก ทั้ง Sex and The City และ Iron Man จนถึงดังร้องชื่อดังวัยกระเตาะ ไมลี่ ไซรัส (Miley Cyrus) และ พี่น้อง โจนาส (The Jonas Brothers) อีกทั้งยังล้อเลียนภาพยนตร์, ป๊อป คัลเจอร์ และคนที่มีชื่อเสียงอยู่ในปัจจุบัน
ฟรีดเบิร์กกล่าวไว้ว่า "ทุกหายนะที่คุณรู้จัก ทั้งปรากฏการณ์ธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้น จะถูกบรรจุอยู่เในเวลายี่สิบสี่ชั่วโมง ที่เกิดขึ้นอยู่บนจอหนัง มันไม่มีอะไรที่ประหลาดเกินไป ที่จะหยิบนำมาล้อเลียน ไม่ว่าจะเป็นหายนะที่เกิดขึ้นจากสภาพอากาศ หรือจากบุคคลที่บ้าอำนาจ ทุกๆอย่างสามารถหยิบมาล้อเลียนได้อยู่แล้ว"
Disaster Movie ได้ล้อเลียนหนังที่กำลังฮิตที่สุด และบุคคลที่มีชื่อเสียงในรอบปี โดยแต่ละมุขนั้น ระดมยิงใส่ผู้ชมด้วยความเร็วและแรง หนังเปิดเรื่องด้วยการล้อเลียนหนังเรื่อง 10,000 BC โดยแสดงให้เห็นถึงมนุษย์หินสมองทึบ ที่กำลังวิ่งหนีไดโนเสาร์ ระหว่างที่กำลังวิ่งหนีนั้น เขาได้เจอวูฟท์ จาก American Gladiators ที่ออกมาท้าสู้กับมนุษย์ยุคหิน และยังเจอกับ Amy Winehouse ที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเสือเขี้ยวดาบ ซึ่งแน่นอนว่าเธอกำลังเมาอยู่ และกำลังหยิบแล๊ปท๊อปออกมาจากผมทรงรังผึ้ง เพื่อมาเช็คเฟสบุ๊คของเธอ
และก็ยังมีตัวละครหลักอีกสองตัวก็คือจูเน่ย์ และเจ้าหญิง ที่ต่างก็ล้อเลียนหนังชื่อดังทั้งคู่ โดยจูเน่ย์นั้น มีความคล้ายคลึงกับหนังเด็กวัยรุ่นท้องชื่อดัง Juno ที่เลียนแบบนิสัยความฉลาดเกินผู้ใหญ่ และไหวพริบของเธอ ส่วนเจ้าหญิงนั้น ก็คือการเลียนแบบหนังเรื่อง Enchanted แต่ถึงแม้ว่าเธอจะมาจากนิทานชวนฝัน แต่บุคคลิกภาพของเธอนั้น ก็ทั้งหยาบคายและเซ็กซี่สุดๆในเวลาเดียวกัน และก็ยังมีการล้อเลียนที่โดดเด่นอีก เช่นกลุ่มนักแสดงที่พร้อมใจกันร้องเพลงเหมือนหนังเรื่อง High School Musical ซึ่งสุดท้ายแล้วก็จบด้วยการเสียชีวิตของ ฮานน่า มอนทาน่า ด้วยลูกอุตกาบาศที่หล่นมาทับเธอ
เพื่อที่จะดึงเอาลูกบ้าและความฮาออกมาได้อย่างเต็มที่ หนังเรื่องนี้ก็ต้องการทีมงานและกลุ่มนักแสดงที่มีลูกบ้าและความฮาไม่แพ้กัน โดยดารานักแสดงของหนังเรื่องนี้ ก็เปรียบเสมือนทีมงานอีกคนหนึ่ง ที่ต้องใช้ไหวพริบและเสน่ห์ของพวกเขา ในการช่วยให้หนังถึงเป้าหมายที่ต้องการ โดยนักแสดงนำหลักก็มี แม๊ท แลนเตอร์ (จาก Heroes, Star Wars: The Clone Wars) แสดงเป็น "วิลล์ โจนส์" ที่เป็นตัวผลักดันให้เนื้อเรื่องก้าวไปข้างหน้า ด้วยปัญหาเรื่องความรักที่เขาประสบ โดยตัวของแลนเตอร์นั้น มีผลงานทั้งในทีวี, ภาพยนตร์ หรือแม้กระทั่งละครเวที ก็ได้ก้าวเข้ามาในรับบทในหนังตลกล้อเลียนเป็นครั้งแรกอีกด้วย
แลนเตอร์กล่าวว่า "ผมไม่เคยเล่นหนังตลกล้อเลียนมาก่อน นี้จึงเป็นครั้งแรกที่ผมได้รับประสบการณ์จากการร่วมงานกับทีมงานชุดนี้ จริงๆแล้ว ผมเองก็อยากเล่นหนังประเภทนี้มานานแล้ว โดยที่ผมเติบโตมากับหนังเรื่อง Hot Shot และ Naked Gun ซึ่งก็เป็นหนังที่ผมชอบที่สุดแล้ว และการที่ได้เล่นหนังเรื่องนี้ ก็เหมือนกับความฝันที่เป็นจริง" ในธรรมเนียมของการล้อเลียนหนัง หนังเรื่องนี้ได้ล้อเลียนเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ในยุคปัจจุบัน "เนื้อเรื่องนั้น เกี่ยวกับการตามหาแฟนของตัวละครที่ผมเล่น ที่เกิดพลัดหลง ซึ่งหนังก็ได้พากลุ่มของเราไปผจญภัยแบบบวมๆ ที่ผมไม่สามารถไล่ใด้หมดเสียด้วยซ้ำ! ผมเองยังเล่นเป็นเจ้าหนุ่มจาก 10,000 BC ซึ่งเป็นฉากเปิดเรื่อง ผมต้องใส่ทั้งหนวดเคราปลอมและ dreads มันต้องยิ่งใหญ่แน่ๆ! และผมก็ยังได้เล่นเป็น แซ็ค เอฟรอน จาก High School Musical ซึ่งผมก็ต้องท่องจำเนื้อร้องของหนังเรื่องนั้น แต่จนบัดนี้ ผมก็ยังเอาเนื้อร้องพวกนั้นออกไปจากหัวไม่ได้ซะที"
สำหรับเจ้าแม่หนังตลกล้อเลียน คาเมน อีเล็คตร้า ก็ได้กลับมาร่วมงานกลับเจสัน ฟรายเบิร์ค และ แอรอน ซอลเซอร์ อีกครั้ง นี้ยังเป็นผลงานเรื่องแรกของ วาเนสซ่า มินนิโล และคิม คาดาชิอัน และก็ยังมีดาราตลกไมโครโฟน อย่าง แท๊ด ฮิลเก็นบริงค์ รวมถึงแก๊งค์จาก Mad TV ที่มีนิโคล พาร์คเกอร์, คริสต้า ฟลานาแกน และไอค์ บารินโฮล์ท และร่วมด้วย แกรี่ "จี-แต๊งค์"จอห์นสัน
อีเล็คต้าที่เคยร่วมงานกับเจสัน ฟรายเบิร์ค และ แอรอน ซอลเซอร์มาแล้วใน Scary Movie, Date Movie, Epic Movie และ Meet the Spartans กล่าวว่า "ฉันรู้สึกโชคดีที่ได้ร่วมงานกับพวกเขาทั้งสองอีกครั้ง" "ฉันรักทั้งหนังและตัวของพวกเขา และมีความรู้สึกเป็นกันเอง คุณไม่มีทางได้ทำงานร่วมกับทีมงานที่ดี มุขที่ตลก และสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นในหนัง ได้เท่ากับทีมงานนี้อีกแล้ว"
เช่นในแม็ทส์มวยปล้ำ ที่เป็นการฉากที่ล้อเลียนค่ายมวยปล้ำชื่อดัง WWE อีเลคตร้าต้องเผชิญหน้ากับ คิม คาร์ดาชีอัน และแน่นอนว่าพวกเธอต้องปล้ำด้วยเสื้อผ้าที่น้อยชิ้นที่สุด
คาร์ดาชีอัน พูดถึงอีเล็คตร้า เอาไว้ว่า "เธอน่ารักมาก แต่แม๊ทส์การปล้ำระหว่างเราทั้งสองมันค่อนข้างน่าตกใจ ฉันสวมชุดลายเสือดาว และไม่มีอะไรอย่างอื่นสวมทับอีก และเราสองคนก็ลงปล้ำกัน ฉันรู้สึกตื่นเต้นเพราะเธอตัวเล็กกว่าฉันครึ่งนึง แต่เธอก็ยอดเยี่ยมมาก และเธอก็ยังช่วยให้ฉันผ่านฉากนี้ไปอย่างสบายๆอีก นี้อาจจะเป็นฉากที่ฉันชอบที่สุดในเรื่องแล้ว"
อีเล็คตร้าเสริมอีกว่า "ในระหว่างการถ่ายทำ มันเป็นช่วงเวลาที่สนุกจริงๆ เวลาที่คุณดูหนัง คุณจะรู้เลยว่าพวกเรากำลังมีความสุข ฉันคิดว่าผู้ชมคงจะมีความสุข ระหว่างการรับชมหนังเรื่องนี้ไม่น้อยไปกว่าเรา เพราะหนังแบบนี้ ความสนุกคือจุดประสงค์หลักอยู่แล้ว"
นี้อาจจะเป็นหนังเรื่องแรกของมินนิโล่ แต่เธอก็มีประสบการณ์บ้างแล้วด้านหน้ากล้อง "นี้คือหนังเรื่องแรกของฉัน ฉันดีใจที่ได้ร่วมงานกับ เจสัน ฟรายเบิร์ค และ แอรอน ซอลเซอร์ ฉันเป็นแฟนตัวยงของหนังตลกล้อเลียน และมันก็น่าขันจริงๆ ที่เห็นกลุ่มผู้หญิงใน mad tv ที่เคยล้อเลียนฉัน แล้วตอนนี้ฉันก็ต้องมาอยู่ร่วมในกองถ่ายกับพวกเธอ ฉันว่าตราบใดที่คุณยังมีไหวพริบและอารณ์ขันที่ดี มันก็จะไม่มีปัญหาเลย สำหรับเรื่องการถูกล้อเลียนดังนั้น...เชิญล้อเลียนฉันได้เต็มที่!!"
ถึงแม้ว่าคาดาชีอัน จะเป็นดาราดังในเรียลลิตี้ ทีวี แต่เธอก็ไม่เคยปรากฎตัวอยู่ในหนังโรงก่อนหน้า Disaster Movie มาก่อน "ฉันอยากจะแสดงหนัง และนี้ก็เป็นหนังที่เหมาะสมที่สุดในการเริ่มต้น ทั้งผู้สร้างและผู้กำกับ ก็ปฎิบัติตัวได้อย่างยอดเยี่ยมกับทุกๆคน และพวกเขาก็ช่วยเราในทุกขั้นตอน ฉันรู้สึกโชคดีจริงๆ"
แต่เรื่องมันก็อาจจะไม่ได้จะสนุกสนาน และทำเป็นเล่นไปซะทั้งหมด มีช่วงที่เกิดมีความกดดันในกองถ่ายเหมือนกัน เมื่อ ฟลานาแกน ที่เคยล้อเลียนคาร์ดาชีอัน ใน "Keeping Up with the Kardashians" บน Mad TV ต้องมาเจอกับคาร์ดาชีอัน ตัวจริงเป็นครั้งแรก
ฟลานาแกนกล่าวว่า "ฉันรู้สึกประหม่าจริงๆในการพบกับเธอ โดยเฉพาะสิ่งที่ฉันได้ทำกับครอบครัวของเธอในโชว์ ฉันกลั้นหายใจเมื่อพบกับเธอเป็นครั้งแรก ฉันคิดในใจว่า "ได้โปรด อย่าหยิบมันขึ้นมาพูดเชียวน่ะ" แต่แล้วคิมก็เดินมาหาฉัน แล้วพูดว่า "ฉันคิดว่ามันทั้งตลกและเท่สุดๆไปเลยน่ะ” ทันใดนั้นฉันก็คิดว่า "อ้าา หายนะได้ผ่านพ้นไปแล้ว"”
แต่เรื่องมันก็ยิ่งน่าขันมากกว่าเดิม เมื่อวันหนึ่งในกองถ่าย คาดาชีอัน มีใยแมงมุมเกาะที่ก้น เธอจึงตระโกนว่า "เอามันออกไป! เอามันออกไป!" ฟลานาแกนเล่าต่ออีกว่า "เท่าที่ฉันจำได้ต่อจากนั้น มือของฉันก็ไปอยู่บนก้นของเธอซะแล้ว มันเป็นความรู้สึกที่แปลก แต่มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมาก หลังจากนั้นแล้ว ทีมงานก็ยังล้อเลียนไม่หยุด โดยคอยย้ำให้ฉันฟังว่า "เธอจับก้นคิม!" มันช่างเป็นช่วงเวลาที่น่าภูมิใจจริงๆ"
ทั้งทีมนักแสดงและผู้สร้าง ก็ต่างรู้สึกตื่นเต้นสำหรับหนังเรื่อง Disaster Movie จริงๆ จี-แท๊งค์ กล่าวว่า "หนังเรื่องนี้นำพาหนังประเภทตลกล้อเลียนขึ้นไปสู่อีกระดับนึง เพราะมันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นในหนัง มีสิ่งของตก รถถูกไฟไหม้ อาคารบ้านเรือนระเบิด คือมันไม่เกิดมีหนังตลกล้อเลียนเรื่องไหน ที่จะทุ่มทุนสร้างกับฉากแอ็คชั่นต่างๆได้เท่ากับหนังเรื่องนี้อีกแล้ว"
หนึ่งในผู้สร้าง ปีเตอร์ ซาฟราน ก็ยังพูดถึงประสบการณ์ของเขาเอวไว้ว่า "ผมจะกลายเป็นคนบ้าในกองถ่ายจริงๆ เพราะในทุกๆวัน ทุกคนจะต้องขำจนน้ำตาไหลพราก พวกเรามีบุคคลากรที่มีความสามารถอยู่โดยรอบ และยังมีเรื่องของการดั้นสด ที่ดูแล้วช่างยอดเยี่ยมและอัจฉริยะจริงๆ จุดเด่นที่สุดของเจสันและอารอน นั้นก็คือการสร้างบรรยากาสที่เป็นกันเองบนกองถ่าย พวกเขาเป็นคนดีโดยกำเนิดจริงๆ สังเกตุได้จากที่พวกเขายังชอบใช้บุคคลากรที่เคยร่วมงานกันมาแล้ว ซึ่งเป็นเพราะว่าทุกคนจะรู้สึกสนุกเมื่อได้ร่วมงานกับพวกเขา"
ผู้กำกับทั้งสอง ที่ตามปกติแล้ว ไม่ค่อยชอบพูดถึงตัวเองและผลงานซะเท่าไร "จะให้พวกเราพูดว่ายังไงเหรอ? ให้บอกว่าพวกเราฉลาดและมีไหวพริบอย่างนั้นเหรอ? เซลเซอร์เสริมอีกว่า “หนังเรื่องนี้มีกลุ่มเป้าหมายอยู่ที่วัยรุ่น และกลุ่มคนที่อยู่ในช่วงอายุยี่สิบปี และสิ่งที่เราและผู้ชมมีเหมือนกัน นั้นก็คือเรามีความสนใจในป๊อป คัลเจอร์ และความรักที่มีต่อการเสียดสีวัฒนธรรมในยุคปัจจุบัน มันอาจจะเป็นรูปแบบของตลกที่ข่อนต้างพิเศษ แต่เราก็หวังว่ามันจะสามารถเชื่อมโยงกับนักดูหนังทั่วไปได้"
ทีมงานนักแสดง
แม๊ต แลนเตอร์ (รับบทเป็น วิลล์)
แม๊ตมีผลงานการแสดงอยู่ในซีรี่ย์ชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Heroes, Sharks, Commander in Chief ที่นำแสดงโดยนักแสดงรางวัลออสการ์ จีน่า เดวิส อีกทั้งยังได้รับบทเชิญใน Grey’s Anatomy, CSI: Miami, Big Love และ Monk
เขายังมีผลงานภาพยนตร์เรื่อง Wargames 2: The Dead Code, Bobby Jones: Stroke of Genius และเร็วๆนี้ เขาก็ยังมีผลงานการให้เสียงในหนังอนิเมชั่นเรื่องล่าสุดของจอช ลูคัส Star War: The Clone Wars โดยที่เขาจะรับบทเป็นอนาคิน สกายวอร์คเกอร์อีกด้วย
คิม คาดาชีอัน (รับบทเป็น ลิซ่า)
เธอกลายดาราดังในชั่วข้ามคืนจากเรียลลิตี้สุดฮิต เรื่อง Keeping up with the Kardashians ที่กำลังเข้าสู่ปีที่สาม ซึ่งเป็นรายการโชว์ที่ติดตามชีวิตของครอบครัวเธอใน Southern California และเธอกำลังที่จะแสดงในซีรี่ย์ Beyond the Break และจะปรากฏตัวใน The Simple Life ของปารีส ฮิลตัน/นิโคล ริชชี่ และมิวสิควีดีโอเพลง “Thanks for te Memories” ของ Fall Out Boy
วาเนสส่า มินนิลโล (รับบทเป็น เอมี่)
ในปี 2003 เธอได้รับหน้าที่เป็นพิธีกรร่วมใน MTV’s Total Request Live และยังได้รับหน้าที่เป็นพิธีกรในรายการพิเศษของช่อง MTV ไม่ว่าจะเป็น Prom Date, The Real Wprld San Diego Reunion และ Spring Break Celebrity Fantasies
มินนิลโลยังได้เป็นผู้สื่อข่าวพิเศษประจำนิวยอร์ตของ Entertianment Tonight เป็นเวลาสองปี นอกจากนั้น เธอก็ยังได้รับบทเชิญในซิตคอมชื่อดัง เช่น Maybe it’s Me, That’s Life, City Guys และยังมีบทเล็กๆใน Fantastic Four: Rise of Silver Surfer อีกด้วย
แกรี่ “จี-แต้งส์” จอห์นสัน (คาลวิน)
นักแสดงตลกคนนี้ มีผลงานเป็นนักแสดงประจำในซีรี่ย์เรื่อง In case of Emergency ที่แสดงคู่กับเดวิด อาร์เควท และหลัวจากที่ได้รับคำเชิญจากแอชตัน คุชเชอร์ เขาก็ได้ตกลงร่วมงานในซีรี่ย์สุดฮิตใน MTV Punk’d เขายังมีบทรับเชิญในหลายซีรี่ย์ ไม่ว่าจะเป็น Half & Half, All That, Girlfriends, The Game, Love Inc., All Of Us และรับบทในซีรี่ย์ดราม่าเรื่องดัง The Shields อีกด้วย
คาเมน อีเลคตร้า (เพชรฆาตสุดสวย)
ที่ผ่านมา คาเมนก็มีผลงานจากทั้งในทีวีและภาพยนตร์ ซึ่งเธอก็ได้ปรากฎตัวในหนังชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็นChristmas in Wonderland, Starsky and Hutch, My Bosses’ Daughter, Nothing But The Truth, Dirty Love, Getting Played, Searching for Bobby DeNiro, Lil Pimp, Sol Goode, Perfume, the British comedy I Want Candy, Cheaper by the Dozen 2, Get Over It, The Mating Habits of the Earthbound Human, Good Burger และ Scary Movie, Scary Movie 4, Epic Movie and Meet the Spartans, ซึ่งทั้งสี่เรื่องล่าสุดนั้น เธอก็ได้ทำงานร่วมกับทีมผู้สร้างของ DISASTER MOVIE
เธอยังมีบทรับชิญในซีรี่ย์ชื่อดังมากมาย เช่น Stacked, Mad TV, All That, Just Shoot Me, Two Guys and A Girl, Comedy Central’s Viva Variety, Off-Centre, Baywatch Nights, Joey, Summerland, Hope and Faith, Manhunt: The Search for America’s Most Gorgeous Male Model, Eve, It’s All Relative, MTV’s Monster Island, Livin’ Large และ Dance Fever Battle Bots
ทีมงานผู้สร้าง
เจสัน ฟรีดเบิร์ค และ อารอนเซลเซอร์ (ผู้กำกับ)
เป็นสองคู่หูนักเขียนที่ร่วมงานกันมากว่า 20 ปีแล้ว ทั้งคู่เกิดที่ Southern California และสามารถขายบทภาพยนตร์ของพวกเขา ได้เป็นครั้งแรกเรื่อง Spy Hard หลังจากที่จบจากมหาวิทยาลัย California/Santa Barbara แล้ว ทั้งคู่ก็ได้เขียนบทภาพยนตร์หนังตลกล้อเลียน ที่ประสบความสำเร็จอย่าง Scary Movie ซึ่งก็ตามมาด้วยภาคต่อๆมาใน Scary Movie 2,3 และ 4 ทั้งคู่ยังเขียนและกำกับ Date Movie, Epic Movie และ Meet the Spartans อีกด้วย
ปีเตอร์ ซาฟราน (ผู้อำนวยการสร้าง)
เป็นประธานบริษัทของ The Safran Company ซึ่งเป็นบริษัทสร้างภาพยนตร์ที่เขาก่อตั้งตั้งแต่ปี 2006
สองเรื่องล่าสุด ที่เขารับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างทั้ง Meet The Spartans และ Over Her Dead Body ที่นำแสดงโดย อีวา ลองโกรีย พาร์คเกอร์ ล้วนแต่ประสบความสำเร็จในเรื่องรายได้ และเขาก็ยังเป็นผู้อำนวยการสร้างของ Chilled in Miami ที่นำแสดงโดย เรเน่ เซลเวเกอร์ และแฮรี่ คอนนิค จูเนียร์ และสารคดีแฟชั่นของ ฌอง พอล ปี 2008 ที่ชื่อว่า If I Were King
ชอร์น เมาเรอร์ (ผู้กำกับภาพ)
เขามีผลงานในทีวี, ภาพยนตร์ และมิวสิควีดีโอที่ผ่านมามากมาย รวมถึง Black Dynamite, 73 Degrees, Meet the Spartans, Epic Movie, Caffeine, Date Movie, The Honeymooners, Boat Trip, Johnson Family Vacation, Shadow Man, When Zachary Beaver Came to Town, Like Mike, Run Ronnie Run, Our Time is Up, Bring It On, Lost Cause, Big Wheel, Show and Tell, La Cucaracha, Academy Boyz, The Big Empty, Bandwagon และ Magical Ride
คริสโตเฟอร์ เลนเนิร์ด (นักประพันธ์เพลง)
ถึงแม้ว่าเขาจะมีอายุเพียงแต่ 36 ปี แต่เขาก็มีผลงานการแต่งเพลงในหนังมาแล้วถึง 31 เรื่อง และยังมีซีรี่ย์อีก 4 ชุด โดยหนังที่เขาประพันธ์เพลงให้ก็มี Wedding Crashers, The Perfect Holiday, Alvin and the Chipmunks และ Meet the Spartans ซึ่งปีที่แล้วนี้เอง เขาก็ยังได้รับรางวัลจาก Filmmusic Award จากเรื่อง Tortilla Heaven ในสาขาบทประพันธ์สำหรับหนังอิสระยอดเยี่ยมอีกด้วย