กรุงเทพฯ--24 ก.ย.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
เปิดประสบการณ์ดีๆ ครั้งยิ่งใหญ่ ให้เยาวชนชาวไทยภูเขา 30 ชีวิต จากศูนย์การเรียนชุมชน ชาวไทยภูเขา (แม่ฟ้าหลวง) 15 แห่งในอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงจากดอยมาสัมผัสชีวิตเมืองกรุงเทพมหานคร ในกิจกรรม “น้องๆ อมก๋อย ตะลุยกรุงเทพฯ” ที่จัดขึ้นโดย บริษัท เซ็นคาร์ จำกัด หรือ คาร์ฟูร์ ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย วีซ่า เมืองไทยประกันชีวิต และเมืองไทยประกันภัย มาช่วยกันสร้างประสบการณ์อันมีค่าให้แก่น้องๆ ชาวไทยภูเขา ได้ตื่นตา ตื่นใจ กับสถานที่สำคัญต่างๆ อย่าง วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามวรวิหาร หรือวัดโพธิ์ นาฎยศาลา หุ่นละครเล็ก (โจหลุยส์เธียเตอร์) และยังเพลิดเพลินกับนานาสัตว์หลายชนิดที่เขาดินวนา ฝูงปลาใต้ท้องทะเลลึกที่โอเชี่ยนเวิลด์ และสนุกสนานกับเครื่องเล่นต่างๆ ที่ดรีมเวิลด์
จุฑามาศ วิภากรวิทย์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นคาร์ จำกัด เผยถึงการจัดกิจกรรมดูแลสังคมในครั้งนี้ว่า “มูลนิธิคาร์ฟูร์ได้มีส่วนช่วยสนับสนุนศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา (แม่ฟ้าหลวง) อำเภออมก๋อย โครงการพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาตั้งแต่ปี 2544 โดยได้บริจาคเงินอย่างต่อเนื่องรวมกว่า 30 ล้านบาท ในการสร้างศูนย์การเรียนชุมชนไปแล้วถึง 92 แห่ง พร้อมมอบทุนการศึกษาแก่เด็กๆ ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ครั้งแรกแก่เด็กดอย ในการเรียนรู้ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นอกห้องเรียน พร้อมได้สัมผัสชีวิตในเมืองหลวง และสิ่งใหม่ๆ ในเมือง”
บรรยากาศในวันแรกของการเดินทางลงจากดอยอันสูงชันสู่เมืองกรุงของน้องๆ ชาวไทยภูเขา เริ่มต้นการเดินทางไปถวายสักการะพระศพของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในพระบรมมหาราชวัง จากนั้นเดินทางต่อเพื่อนมัสการพระแก้วมรกต ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ที่ไม่เพียงได้มาชมความงดงามของพระแก้วมรกต น้องๆ ยังได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของกรุงเทพมหานครอีกด้วย ต่อด้วยการไปชมพระนอนองค์ใหญ่ ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามวรวิหาร หรือวัดโพธิ์ และเพลิดเพลินกับสัตว์นานาชนิดในเขาดินวนา และน้องๆ ยังสนุกสนานกับโชว์กายกรรมจากเคนย่า บอย ที่น่าตื่นเต้น พลบค่ำชมการแสดงละครเล็ก หรือหุ่นกระบอก ที่นาฎยศาลา หุ่นละครเล็ก (โจหลุยส์เธียเตอร์) ความสนุกยังไม่จบลงเพียงเท่านี้ เพราะในวันที่สองของการตะลุยกรุงเทพฯ ต่อ น้องๆ ยังได้ตื่นตา ตื่นใจ ไปกับฝูงปลาที่หาดูได้ยากใต้ท้องทะเลลึก ที่โอเชี่ยนเวิลด์ ที่นี่เด็กๆ ได้พบกับปลาฉลามตัวใหญ่ที่มีฟันแหลมคม ปลาการ์ตูนแสนน่ารัก จากนั้นช่วงบ่ายเด็กๆ ดูมีความสุขที่สุดเพราะได้สนุกสนานกับเครื่องเล่นมากมายที่สวนสนุกดรีมเวิลด์
การเดินทางมาตะลุยกรุงเทพฯ ในครั้งนี้ สร้างความประทับใจ และเปิดประสบการณ์อันมีค่า ที่ไม่ได้อยู่เพียงแค่น้องๆ ชาวไทยภูเขาทั้ง 30 คน จากศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา (แม่ฟ้าหลวง) อำเภออมก๋อย ทั้ง 15 ศูนย์ฯ แต่ยังรวมถึงคุณครูจากศูนย์ฯ ที่ติดตามมาดูแลน้องๆ กันอีกด้วย โดย อ.ยุพิน บัวคอม ผู้อำนวยการศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา (แม่ฟ้าหลวง)อำเภออมก๋อย เผยถึงการพาเด็กๆ ชาวไทยภูเขามาเที่ยวกรุงเทพฯ ในครั้งนี้ว่า “เป็นครั้งแรกในชีวิตของเด็กๆ เหล่านี้ที่ได้มีโอกาสลงจากดอยมาใช้ชีวิตในเมือง ซึ่งเด็กๆ ที่มาเที่ยวกรุงเทพฯทั้ง 30 คน จาก 15 ศูนย์นี้ คัดเลือกจากศูนย์การเรียนฯ 102 ศูนย์ทั้งหมดในอำเภออมก๋อย โดยการคัดเลือกเด็กๆ ชาวไทยภูเขา จะต้องอ่าน เขียน พูด ฟัง ภาษาไทยได้ ซึ่งก่อนจะเดินทางมา เด็กๆ เหล่านี้มีความสนใจ และตื่นเต้นที่จะมากรุงเทพฯ มาก เพราะพวกเขาเห็นจากโทรทัศน์ ซึ่งบนเขาโทรทัศน์มีอิทธิพลมากๆ ค่ะสำหรับเด็ก เพราะเขาได้เรียนรู้หลายๆ อย่างจากโทรทัศน์ และมักจะชอบถามครูเสมอว่ามันเป็นแบบนี้จริงๆ เหรอ เช่นตอนที่เด็กๆ ได้เข้าไปชมวัดพระแก้ว เขาจะตื่นเต้นกันมาก เพราะเด็กๆ จะไม่เคยเห็นวัดที่ใหญ่โตขนาดนี้ กิจกรรมในครั้งนี้เป็นการเปิดโลกทัศน์ที่กว้างขึ้น และเขายังได้เห็นวิถีการใช้ชีวิตแบบคนเมืองเป็นอย่างไร รวมถึงมารยาทในการเข้าสังคม การรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น การใช้ช้อนส้อม เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นประสบการณ์ที่ดี อาจส่งผลสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของ คนบนดอยให้ดีขึ้นค่ะ” ด้าน อ.จิราวัณย์ วงค์วิชัย ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา (แม่ฟ้าหลวง) อำเภออมก๋อย บ้านห้วยบง เผยว่า “ทุกๆ สถานที่ที่ได้ไป โดยเฉพาะวัดทั้ง 2 แห่ง พระบรมมหาราชวัง และโรงละครที่ได้ไปดูการแสดงกันมา ครูจะอธิบายให้เด็กๆ ฟังตลอดค่ะ เพราะอยากให้เขาได้รับรู้และซึมซับความเป็นชาติไทยของเรา เอกลักษณ์มรดกความเป็นไทย จะพยายามสอดแทรกสาระความรู้ไปตลอด ซึ่งเด็กก็ให้ความสนใจในทุกสิ่งที่เราเล่าให้เขาฟัง อยากให้เขารับประสบการณ์ดีๆ เพราะเมื่อกลับไปที่อมก๋อยเด็กเหล่านี้จะเป็นเหมือนตัวแทนของชุมชน ถ่ายทอดเรื่องราวที่เห็นให้ผู้คนในหมู่บ้านได้ฟังกันผ่านภาษาท้องถิ่นของพวกเขาเอง ซึ่งครูมองว่าการมาเที่ยวกรุงเทพฯในครั้งนี้ เด็กๆ ได้ความรู้ที่ไม่ได้เรียนจากในห้องเรียน แต่เป็นการเรียนที่ได้มาเห็นกับตาของตัวเองค่ะ”
ในขณะที่เด็กๆ ชาวไทยภูเขาก็ตื่นเต้น และสนุกสนานกับทัศนศึกษาในครั้งนี้ โดย ด.ญ.ไพรทอง ไพรกันไพรบูลย์ และ ด.ญ.โสยา มิตรสาธิต ชั้นป.3 ที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าชอบวัดมากที่สุดเผยว่า “วัดที่ได้ไปมาทั้ง 2 แห่ง ใหญ่และสวยมาก ไม่เพียงได้มาทำบุญ ยังได้ถ่ายรูปกับยักษ์ตัวใหญ่ที่ยืนเฝ้าที่หน้าประตูอีกด้วย ก่อนมากรุงเทพฯ คิดว่ากรุงเทพฯ สวย แต่เมื่อมาถึงกรุงเทพฯ สวยมากกว่าที่คิด บ้านเมืองก็สะอาด คนแต่งตัวสวยๆ กันหมด เมื่อกลับไปบ้านจะไปเล่าให้เพื่อนๆ ได้ฟังกันค่ะ” ส่วน ด.ช.สมชาย ตวยซอ และ ด.ช.กาดิ๊ ระวีรุ่ง ชั้นป.3 เผยว่า “ชอบทุกที่ที่ไปมาครับ แต่วันนี้สนุกที่สุดคือมาเที่ยวสวนสนุก ที่นี่มีของเล่นเยอะมาก จนอยากยกสวนสนุกกลับไปไว้ที่อมก๋อย จะได้มีเพื่อนและคนอื่นๆ มาเล่นด้วยกัน เพราะอยู่ที่บ้านได้เล่นแต่ดีดลูกแก้วกับเพื่อนๆ แค่นั้น
แต่กรุงเทพฯ ก็สวยมาก ถนนก็สวย แต่ทำไมต้นไม้ถึงน้อยจังครับ” ด้าน ด.ช.ธนชัย มูเชอร์ และ ด.ช.บุญจันทร์ เคียงอมร ชั้นป.3 ที่บอกว่ากรุงเทพฯ เหมือนในทีวีเป๊ะ เผยว่า “กรุงเทพฯ สวยเหมือนในทีวีอย่างที่เคยดู และคนกรุงเทพฯ ยังดูสนุกสนาน เพราะมีสถานที่แปลกๆ ของหาดูยากเยอะมาก อย่างมีตู้ปลาขนาดใหญ่ และเหมือนเราเดินลงไปในน้ำ แต่ตัวไม่เปียก และยังมีปลาตัวใหญ่ว่ายกันเยอะแยะไปหมดอยู่บนหัวเราด้วย”
ความประทับใจเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ แต่เป็นประสบการณ์ที่มีค่าอันยิ่งใหญ่มากสำหรับเด็กๆ ชาวไทยภูเขาทั้ง 30 คนนี้ จากอมก๋อย ที่คาร์ฟูร์และพันธมิตรทางธุรกิจ ได้แก่ ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย วีซ่า เมืองไทยประกันชีวิต และเมืองไทยประกันภัย ร่วมกันสร้างความทรงจำอันน่าประทับใจในการมาเที่ยวชมกรุงเทพฯ ในกิจกรรม “น้องๆ อมก๋อย ตะลุยกรุงเทพฯ” คาร์ฟูร์ยังคงยึดมั่นในเจตนารมณ์ พร้อมกับการคิดหากิจกรรมดีๆ อย่างต่อเนื่องตอบแทนสังคม
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด
โทร.0-2434-8300 สุจินดา, แสงนภา, ภัควลัญชญ์