กรุงเทพฯ--17 มี.ค.--JGSEE
JGSEE เผยการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมไทยในปัจจุบันไม่ครอบคลุมปัญหาทุกด้าน โดยเฉพาะปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการใช้พลังงาน เหตุเพราะขาดแคลนบุคลากร และองค์ความรู้เชิงลึก แนะทุกฝ่ายเร่งแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในเมืองใหญ่อย่างเร่งด่วน และเป็นระบบก่อนส่งสภาพภูมิอากาศโลกจะแปรปรวนมากกว่าที่เป็นอยู่
ปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมกลายเป็นปัญหาที่ทวีความรุนแรงขึ้นทั้งระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ รวมถึงระดับโลก โดยเฉพาะปัญหาด้านสภาพอากาศแปรปรวนที่ทั่วโลกต่างประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้
รศ.ดร.สิรินทรเทพ เต้าประยูร ประธานสายสิ่งแวดล้อม บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (JGSEE) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีการเปิดหลักสูตรการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างบุคลากรที่จะมาช่วยแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมขึ้นมาก แต่ยังมีบางปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข เช่น มลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้นจากการใช้พลังงาน ซึ่งถือว่ามีความสำคัญมาก เนื่องจากมีการใช้พลังงานมากขึ้น นอกจากนี้การใช้พลังงานยังถูกมองอยู่ด้านเดียว คือ ในแง่ของประสิทธิภาพ และการใช้พลังงาน แต่ลืมมองถึงสิ่งที่ถูกปลดปล่อยออกมาหลังจากใช้พลังงาน ทุกคนจึงไม่รู้ว่าเมื่อมลพิษถูกปล่อยออกมาในอากาศเหล่านั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ไม่รู้ว่ามลพิษเหล่านั้นส่งผลกระทบอย่างไรกับตัวเรา ทั้งทางตรงและทางอ้อม ดังนั้นการสร้างบุคลากร และองค์ความรู้ดังกล่าว จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยตอบคำถาม และลดปัญหามลพิษลงได้
“การศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญควรเป็นการศึกษาที่เน้นการมองสิ่งแวดล้อมที่ควบคู่ไปกับการใช้พลังงาน และต้องมองอย่างเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่แหล่งใช้พลังงานที่ปล่อยมลพิษ การเปลี่ยนแปลงของมลพิษที่ถูกปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ ไปจึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับคนและเมือง นอกจากนี้การศึกษาด้านการจัดการเทคโนโลยีในระดับพื้นฐานจนถึงการทำวิจัยเชิงลึก จะช่วยจัดการกับปัญหาได้ในทุกระดับ เช่น หลักสูตรด้านเทคโนโลยีและการจัดการสิ่งแวดล้อมเป็นหลักสูตรที่ให้นักศึกษาได้เข้าไปคลุกคลีอยู่กับแหล่งใช้พลังงานที่มีการปล่อยมลพิษตามโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ การเข้าไปสัมผัสกับแหล่งปัญหาทำให้นักศึกษาได้รับรู้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริง และสามารถจัดการปัญหาได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะถูกส่งต่อไปวิจัยในหลักสูตรปรัชญามหาบัณฑิตและปรัชญาดุษฏีบัณฑิตเพื่อนำความรู้จากการวิจัยมาแก้ไขปัญหาได้ตรงตามเป้าหมาย ”
ทั้งนี้การศึกษาวิจัยหลักสูตรด้านสิ่งแวดล้อมของบัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมประกอบด้วยกลุ่มวิจัยหลัก 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มกลยุทธ์การประเมินด้านสิ่งแวดล้อม กลุ่มศึกษาด้านบรรยากาศและแบบจำลองทางวิทยาศาสตร์ กลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม กลุ่มศึกษาการเปลี่ยนแปลงบรรยากาศโลกและวัฏจักรคาร์บอน ซึ่งทั้งหมดเป็นหลักสูตรนานาชาติ ที่เน้นการปฏิบัติการ การทำวิจัย โดยนักศึกษาทุกคนจะได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยและทุนการศึกษา และร่วมทำวิจัยกับนักวิจัยชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ สำหรับผู้สนใจศึกษาในหลักสูตรของบัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (JGSEE) สามารถสมัครเข้าศึกษาต่อได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2549 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายการศึกษา JGSEE โทร.โทร.0-2470-8337-8 ในเวลาราชการ หรือที่ www.jgsee.kmutt.ac.th e-mail academic@jgsee.kmutt.ac.th
“ปัญหาสิ่งแวดล้อมในเมืองใหญ่นับเป็นปัญหาที่ซับซ้อนและแก้ไขได้ยาก ซึ่งการจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ควรแก้ปัญหาทุกด้านไปพร้อมๆ กัน ทั้งเรื่องน้ำ ขยะ ขยะอันตราย โดยเฉพาะอากาศ ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวมากที่สุด ควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาด้านการใช้พลังงาน เพราะหากเราไม่ป้องกันหรือแก้ไขปัญหาไม่ครบทุกด้าน ผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่เพียงแค่สุขภาพของเราเท่านั้น แต่ยังจะส่งผลไปถึงเรื่องระบบนิเวศที่เปลี่ยนไป และสภาพอากาศที่แปรปรวนเช่นปัจจุบัน”
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net