กรุงเทพฯ--24 ก.ย.--อาร์เอส
ร่วมรณรงค์อนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในฐานะ “ทูต WWF ประเทศไทย” อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บีม-กวี ตันจรารักษ์ ศิลปิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ก็ลงพื้นที่สานต่อภารกิจอีกครั้ง โดยร่วมกับ “WWF ประเทศไทย” ปลูกต้นไม้ฟื้นฟูระบบนิเวศใน “โครงการฟื้นฟูระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำและป่าที่ราบลุ่มภาคกลางอย่างผสมผสาน ในพื้นที่พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ” ซึ่งเป็นศูนย์ศึกษาธรรมชาติและระบบนิเวศเกษตรแห่งใหม่ ที่เปิดให้เยาวชนและประชาชนได้เรียนรู้ธรรมชาติ สนองต่อกระแสพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
โดยกิจกรรมนี้เริ่มจากการเปิดงานแบบเป็นทางการ และร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับระบบนิเวศเกษตร โดยมี คุณจรัลธาดา กรรณสูต ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, คุณธิติวุฒิ คชสารศีล ผู้จัดการส่วนงานสิ่งแวดล้อมศึกษา WWF ประเทศไทย พร้อมด้วย ทูต WWF (บีม-กวี ตันจรารักษ์) และ, คุณพิน สาเสาร์ นักนิเวศศิลป์ ซึ่งครั้งนี้ บีม ได้เจอะกับนักนิเวศศิลป์อย่าง คุณพิน ผู้ที่มีประสบการณ์การสัมผัสระบบนิเวศตลอดลุ่มน้ำโขง และยังสร้างงานศิลป์กระตุ้นให้คนไทยเกิดจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเเม่น้ำโขง งานนี้ บีม เลยไม่พลาดขอถามแบบเจาะลึก และแลกเปลี่ยนความคิดในฐานะผู้ที่ร่วมรณรงค์อนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเช่นกัน จากนั้น บีม ไม่รอช้ารีบสวมรองเท้าบูทแล้วนำทัพน้องๆ นักเรียนจากโรงเรียนไพรฟ้า กว่า 50 คน ร่วมกันปลูกต้นไม้ อาทิ ต้นยางนา , ต้นประดู่ เริ่มที่ บีม นำดินอินทรีย์เทใต้หลุมเพื่อลดความเปรี้ยวให้ดิน เพราะพื้นที่บริเวณนี้มีกรดมาก จากนั้นนำต้นไม้ลงดินและเทดินใส่จนเต็มหลุม ขั้นตอนสุดท้าย บีม เหยียบดินให้แน่นเพื่อป้องกันน้ำขังใต้หลุม เพราะจะทำให้ต้นไม้รากเน่า งานนี้ บีม ลุยโคลน โกยดิน วิดน้ำ ท่ามกลางแดดเปรี้ยงแบบไม่ห่วงหล่อกันเลยทีเดียว ทำให้ต้นไม้นับร้อยต้นที่นำมาปลูกกับน้องๆ ถูกลงดินในเวลาอันรวดเร็ว ก่อนกลับ บีม มาถ่ายรูปกับน้องๆ เป็นที่ระลึก พร้อมทั้งฝากให้น้องๆ ช่วยกันดูแลรักษาธรรมชาติกันด้วย
บีม เผย “วันนี้สนุกมากครับ ที่ได้ปลูกต้นไม้ฟื้นฟูระบบนิเวศในพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งที่นี่ถือเป็นศูนย์ศึกษาธรรมชาติและระบบนิเวศเกษตรแห่งใหม่ที่สมบูรณ์มากและอยู่แค่ จ.ปทุมธานี ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เลย เหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับน้องๆเยาวชน ซึ่งเป็นเรื่องโชคดีที่ในเมืองไทยเรายังเหลือระบบนิเวศที่สมบูรณ์ไว้ให้ศึกษาอยู่ ก็อยากให้ทุกคนมาร่วมกันรักษาไว้เพื่อเด็กรุ่นหลัง อย่างวันนี้พวกเราก็มาฟื้นฟูระบบนิเวศโดยปลูกต้นยางนาและประดู่ ไม้พันธุ์ใหญ่ที่ให้ร่มเงา และช่วยดูแลไม้เล็กๆ แบบพึ่งพาอาศัยกันตามระบบนิเวศ วันนี้ระบบนิเวศที่นี่ก็สมบูรณ์ มากขึ้น แต่ทั้งหมดนี้จะยังคงอยู่และดียิ่งขึ้นหากเยาวชนและคนไทยมีจิตสำนึกในการรักธรรมชาติครับ“