เรื่องย่อเปาบุ้นจิ้น เทพผู้ทรงธรรม ตอน ม้ามังกรขาว (ไป๋หลงจี)

ข่าวบันเทิง Thursday September 25, 2008 10:35 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ก.ย.--ไทยทีวีสี ช่อง 3
นำแสดงโดย จินเชาฉิน ฟ่านหงซวน เหอเจียจิ้ง กวานหลี่เจี๋ย เจียงหัว
ฤดูใบไม้ร่วงกำลังจะมาถึง ศาลยุติธรรมของเมืองต่างๆจะต้องส่งรายชื่อนักโทษประหารต่อกรมอาญา เปาบุ้นจิ้นให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ด้วยเกรงว่าจะประหารคนผิด หลังจากที่อ่านคดีความต่าง ๆ ที่ส่งมาพบว่าคดีปล้นของซุนเฉียงที่เมืองซางโจวนั้นไม่ชอบมาพากล ด้วยเหตุนี้เปาบุ้นจิ้นจึงเดินทางไปที่ซางโจวเพื่อสืบหาความจริง
จั่นเจาได้รับคำเชื้อเชิญจากห้าหนูให้เป็นแขกที่เกาะเซี่ยนคง ต่อมาจั่นเจาได้รับคำสั่งจากเปาบุ้นจิ้นให้เดินทางไปที่ ซางโจวโดยด่วน ระหว่างทางจั่นเจาพบคนร้ายกำลังปล้นสะดม จั่นเจาจึงยื่นมือเข้าช่วยเสิ่นเตี๋ยและลี่จูนายบ่าวเอาไว้ จั่นเจา ไม่ยอมเปิดเผยชื่อแซ่ให้คนทั้งสองรู้ ทำให้ลี่จูเกิดความไม่พอใจ แต่เสิ่นเตี๋ยนั้นกลับรู้สึกประทับใจในตัวจั่นเจา ต่อมามีคนมารับ เสิ่นเตี๋ย จั่นเจาจากไปโดยไม่ใยดีว่าเสิ่นเตี๋ยจะฐานะสูงส่งเพียงใด จั่นเจาออกเดินทางไปที่ซางเจาเพื่อสมทบกับเปาบุ้นจิ้นและพวก
หลี่ฉวนนายอำเภอซางโจวเป็นคนที่ไม่มีความสามารถสักเท่าใดนัก เมื่อเห็นเปาบุ้นจิ้นเดินทางมาที่ซางโจวด้วยตัวเอง จึงเกิดความหวาดกลัวจนทำอะไรไม่ถูก หลี่ฉวนตอบคำถามของเปาบุ้นจิ้นถึงคดีซุนเฉียงได้ไม่ชัดเจน ทำให้เปาบุ้นจิ้นมั่นใจว่าคดีนี้ต้องไม่ชอบมาพากลอย่างแน่นอน เปาบุ้นจิ้นนั่งฟังคำไต่สวน ที่แท้ซุนเฉียงเป็นคนเลี้ยงม้าของกองทัพ ครึ่งปีมานี้ไม่มีการจ่าย เบี้ยหวัด ทำให้ซุนเฉียงทนไม่ได้ที่เห็นแม่ต้องหิวโหย ด้วยเหตุนี้เองซุนเฉียงจึงตัดสินใจปล้น เปาบุ้นจิ้นโกรธมากจึงมีคำสั่งให้หลี่ฉวนเรียกหยางเป้าผู้ดูแลม้าหน่วยซ้ายมาไต่สวน นึกไม่ถึงว่าหยางเป้ากลับต้องการใช้กฎทหารลงโทษประหารชีวิตซุนเฉียง โชคดีที่ จั่นเจาเข้าขัดขวางช่วยชีวิตซุนเฉียงเอาไว้ เปาบุ้นจิ้นนำตัวหยางเป้าและซุนเฉียงมายังที่ว่าการ เปาบุ้นจิ้นสอบถามหยางเป้าถึงเรื่องที่ไม่จ่ายเบี้ยหวัดให้ซุนเฉียง หยางเป้าปฏิเสธโดยบอกกับเปาบุ้นจิ้นว่าตนถูกใส่ร้าย หลังจากที่เปาบุ้นจิ้นสอบถามซุนเฉียง ซุนเฉียง ยืนกรานว่าไม่มีการจ่ายเบี้ยหวัดแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นหน่วยขวาหรือหน่วยซ้ายก็ตาม ผู้ที่ดูแลม้าหน่วยขวาคือหยางเปียวพี่ชายของหยางเป้า หยางเป้าและหยางเปียวให้การว่าราชสำนักส่งเบี้ยหวัดมาล่าช้า เปาบุ้นจิ้นไม่เชื่อว่าเป็นความจริง จึงสั่งให้หลี่ฉวนเชิญผู้บังคับการทหารม้ามาพบ
จั่นเจาพบเห็นเสิ่นเตี๋ยและลี่จูกำลังซื้อของ เสิ่นเตี๋ยดีใจมากที่ได้พบกับจั่นเจาอีกครั้ง ด้วยความตื่นเต้น ทำให้โรคร้ายที่ติดตัวกำเริบขึ้นมา จั่นเจาเห็นเช่นนั้นจึงช่วยชีวิตเสิ่นเตี๋ยเอาไว้ จากนั้นจั่นเจาก็ออกเดินทาง
เสิ่นย่างผู้บังคับการทหารม้าเดิมทีเป็นเพียงบัณฑิตบู๊ที่มีความสามารถในการบังคับม้าเท่านั้น ต่อมาได้รับการสนับสนุนจากเปาบุ้นจิ้น ทำให้เหยินจงฮ่องเต้ทรงวางพระทัยให้เสิ่นย่างฝึกม้าให้กองทัพ ด้วยความสามารถของเสิ่นย่าง ทำให้เสิ่นย่างได้ดำรงตำแหน่งผู้บังคับการทหารม้า เปาบุ้นจิ้นรู้สึกว่าเรื่องเบี้ยหวัดต้องมีเงื่อนงำซ่อนอยู่ เสิ่นย่างนำบัญชีเบิกจ่ายเบี้ยหวัดจาก หยางเปียวและหยางเป้าให้เปาบุ้นจิ้นตรวจสอบ หลังจากที่เปาบุ้นจิ้นตรวจสอบบัญชีเบี้ยหวัดแล้วกลับมีการลงนามรับเบี้ยหวัดแล้วซึ่งไม่เป็นไปตามคำให้การของซุนเฉียง สองพี่น้องสกุลหยางยินดีถูกคุมขังระหว่างที่เปาบุ้นจิ้นสืบหาความจริงเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ เปาบุ้นจิ้นซ้อนแผนโดยมีคำสั่งคุมขังสองพี่น้องสกุลหยางเอาไว้
แม้ว่าเสิ่นเตี๋ยมีใจให้จั่นเจา แต่นางรู้ดีว่าเป็นโรคร้ายจึงไม่กล้าเปิดเผยความในใจให้จั่นเจารู้ จากการรบเร้าของลี่จู ทำให้เสิ่นเตี๋ยยอมไปพบจั่นเจา จั่นเจาขอร้องกงซุนเช่อให้ช่วยรักษาโรคร้ายให้เสิ่นเตี๋ย กงซุนเช่อตกใจมากเมื่อพบว่าเสิ่นเตี๋ยมีชีวิตได้อีกไม่นานนัก เมื่อเห็นจั่นเจาและเสิ่นเตี๋ยต่างมีใจให้กัน ด้วยเหตุนี้เองกงซุนเช่อจึงตัดสินใจผ่าตัดทำการรักษาให้เสิ่นเตี๋ย จั่นเจาและเสิ่นเตี๋ยพบหน้ากันทุกวัน ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองแนบแน่นขึ้น
กงซุนเช่อตรวจสอบเบี้ยหวัดอย่างละเอียด ในที่สุดก็พบว่าบัญชีเบี้ยหวัดเป็นของปลอมที่ทำขึ้น ขณะที่เปาบุ้นจิ้นไต่สวนหยางเปียวและหยางเป้าสองพี่น้องนั่นเองก็พบว่าซุนเฉียงฆ่าตัวตายในห้องขัง เปาบุ้นจิ้น สั่งกงซุนเช่อให้ชันสูตรศพซุนเฉียงอย่างละเอียด ผลปรากฏว่าซุนเฉียงถูกฆาตกรรม ไม่ใช่ฆ่าตัวตาย ต่อมาทหารที่เฝ้าห้องขังก็ถูกฆ่าตาย หยางเปียวและหยางเป้าถูกคุมขังอยู่ในห้องขังจึงพ้นข้อหาผู้ต้องสงสัย เปาบุ้นจิ้นนำคนซึ่งสองพี่น้องสกุลหยางให้การว่าเป็นผู้ค้องสงสัยว่าเป็นฆาตกรคุมขังรวมกับสองพี่น้องสกุลหยาง เพื่อให้ทั้งสองเกิดความหวั่นหวาดจะได้พูดความจริงออกมา
จั่นเจาและเสิ่นเตี๋ยพูดคุยกันถึงการแต่งงาน ทันใดนั้นเองเสิ่นย่างก็ปรากฏตัวขึ้น ที่แท้เสิ่นย่างเป็นพี่ชายของเสิ่นเตี๋ย เสิ่นย่างและเสิ่นเตี๋ยสองพี่น้องต้องสูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่ยังเล็ก เสิ่นย่างรักและทนุถนอมเสิ่นเตี๋ยมาก เสิ่นย่างชื่นชมความสามารถของจั่นเจา จึงมอบม้าพันธุ์ดีสีขาวให้จั่นเจา แต่จั่นเจากลับไม่ยอมรับม้าที่เสิ่นย่างมอบให้ นึกไม่ถึงว่าเสิ่นย่างใช้ข้ออ้างว่า เป็นของหมั้น ทำให้จั่นเจายากที่จะปฏิเสธ เสิ่นเตี๋ยดีใจมากที่เสิ่นย่างพี่ชายของนางชื่นชอบจั่นเจา
ในที่สุดแผนการของเปาบุ้นจิ้นก็ได้ผล หยางเปียวและหยางเป้าให้การว่าฆาตกรที่ฆ่าซุนเฉียงและผู้คุมคืออู่จิ้นผู้ช่วยของเสิ่นย่าง เดิมทีอู่จิ้นเป็นโจรที่เที่ยวปล้นสะดมไปทั่ว เสิ่นย่างนำกองกำลังไปกวาดล้าง ถ้ายึดถือตามกฎหมายบ้านเมือง อู่จิ้นจะต้องได้รับโทษประหาร แต่เนื่องจากเสิ่นย่างเสียดายความสามารถของอู่จิ้น ดังนั้นจึงปล่อยตัวอู่จิ้นไป อู่จิ้นเห็นแก่บุญคุณที่เสิ่นย่างไว้ชีวิตตน ทำให้อู่จิ้นอุทิศตัวรับใช้เสิ่นย่าง จนเวลานี้กลายเป็นผู้ช่วยของเสิ่นย่าง แม้ว่าการตายของซุนเฉียงเป็นฝีมือของอู่จิ้น แต่อู่จิ้นได้รับคำสั่งจากเสิ่นย่าง เสิ่นย่างเป็นคนรู้กฎหมาย แต่กลับทำผิดเสียเอง เสิ่นย่างเป็นคนรักม้าเป็นชีวิตจิตใจ ดังนั้นจึงใช้อำนาจ หาม้าดีๆมาเลี้ยงดู สั่วนม้าชั้นเลวก็ซื้อมาไว้ใช้งานในกองทัพโดยซื้อไว้ในราคาแพง เสิ่นย่างใช้อำนาจหน้าที่คบหากับพ่อค้าขายม้า โดยรับสินบนจากการซื้อม้าเข้ามาในกองทัพ
เปาบุ้นจิ้นเห็นเสิ่นย่างเข้ามาพัวพันคดี ดังนั้นจึงไม่อยากให้จั่นเจาตกที่นั่งลำบาก เดิมทีต้องการให้จั่นเจาไปจากซางโจว แต่จั่นเจากลับไม่ยอมไปจากเปาบุ้นจิ้น โดยยืนกรานว่าจะช่วยงานเปาบุ้นจิ้นต่อไป เปาบุ้นจิ้นเห็นจั่นเจายืนกรานเสียงแข็ง จึงอนุญาตให้จั่นเจาอยู่กับตนต่อไป ทุกคนพากันสืบหาความจริงของคดี แม้ว่าคดีนี้จะไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน แต่เสิ่นย่างก็มีความผิดฐานใช้อำนาจหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ ม้าขาวที่เสิ่นย่างเคยมอบให้จั่นเจานั้นเป็นม้าที่ไฉอ๋องประทานให้เสิ่นย่าง แต่ก็ไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะใช้เป็นหลักฐานได้ ต่อมาเปาบุ้นจิ้นนำคดีเก่าของอู่จิ้นขึ้นมาพิจารณาเพื่อบีบบังคับให้อู่จิ้นสารภาพว่าเป็นฆาตกร แต่อู่จิ้นยืนกรานเสียงแข็งว่าเสิ่นย่างไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมแต่อย่างใด
เนื่องจากจั่นเจาเป็นชาวยุทธ ดังนั้นจึงรู้เรื่องราวเกี่ยวกับการซื้อขายม้าเป็นอย่างดี การสืบหาหลักฐานการกระทำความผิดที่เสิ่นย่างฉ้อราษฏร์บังหลวงจึงไม่ใช่เรื่องยาก หลี่ฉวนนำความบอกอู่จิ้น อู่จิ้นรู้ดีว่าถ้าหากจั่นเจาได้บัญชีซื้อขายม้าไป เสิ่นย่างจะตกที่นั่งลำบาก ด้วยเหตุนี้เองอู่จิ้นจึงตัดสินใจแหกคุกเพื่อนำความไปแจ้งเสิ่นย่าง โดยเกลี้ยกล่อมเสิ่นย่างให้ไปจากซางโจว เพื่อรักษาชีวิตไว้ แต่เปาบุ้นจิ้นเตรียมการรับมือไว้แล้ว เสิ่นย่างรู้ดีว่าถ้าตนจากไปพร้อมด้วยม้าที่ตนรักก็จะเป็นเป้าสายตา แต่จะให้ทอดทิ้งม้าที่ตนรักไปก็ทำไม่ได้ อู่จิ้นเห็นว่าเกลี้ยกล่อมเสิ่นย่างไม่เป็นผล ดังนั้นจึงตัดสินใจลอบสังหารเปาบุ้นจิ้น
เนื่องจากเปาบุ้นจิ้นมีบุญคุณต่อเสิ่นย่างมาก่อน เสิ่นย่างจึงห้ามไม่ให้อู่จิ้นสังหารเปาบุ้นจิ้น อู่จิ้นไม่กล้าขัดคำสั่งเสิ่นย่าง อีกทั้งเกลี้ยกล่อมเสิ่นย่างก็ไม่เป็นผล อู่จิ้นรู้ดีว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจั่นเจา แต่ก็ต่อสู้จนสุดความสามารถจนต้องจบชีวิตด้วยคมกระบี่ของจั่นเจา แม้ว่าเสิ่นเตี๋ยจะเห็นแก่คุณธรรมเป็นสำคัญ แต่ก็ไม่สามารถทอดทิ้งพี่ชายไปได้ เสิ่นเตี๋ยร้องขอความเมตตาจากจั่นเจา จั่นเจาเจ็บใจยิ่งนักที่ไม่สามารถช่วยหญิงสาวที่ตนรักได้ เสิ่นเตี๋ยร้องไห้ด้วยความเศร้าโศกเสียใจ เสิ่นย่างรู้ดีว่าไม่สามารถหลบหนีความผิดได้ เสิ่นย่างจึงนำม้าพันธุ์ดีที่เก็บซ่อนเอาไว้นำไปที่คอกม้า
เปาบุ้นจิ้นพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุมตัวเสิ่นย่าง เสิ่นย่างขอร้องเปาบุ้นจิ้นอนุญาตให้ตนได้ล่ำลาม้าที่ตนรักเสียก่อน จากนั้นเสิ่นย่างก็ฆ่าตัวตาย เพราะไม่กล้าเผชิญหน้ากับเปาบุ้นจิ้น ตลอดจนหลบหนีความผิดที่ก่อขึ้น เปาบุ้นจิ้นลงโทษหยางเปียวและหยางเป้าสองพี่น้อง จากนั้นก็ลงโทษหลี่ฉวนนายอำเภอที่บกพร่องต่อหน้าที่ หลังจากที่ จัดงานศพให้ซุนเฉียงและให้เงินเลี้ยงดูแม่ซุนเฉียงแล้ว เปาบุ้นจิ้นก็เดินทางกลับเมืองหลวง เสิ่นเตี๋ยไร้ญาติขาดมิตร เดิมทีจั่นเจาคิดจะพาเสิ่นเตี๋ยเดินทางกลับเมืองหลวงไปด้วยกัน แต่การตายของเสิ่นย่าง ทำให้เสิ่นเตี๋ยปฏิเสธความปรารถนาดีของจั่นเจา สร้างความผิดหวังให้จั่นเจายิ่งนัก ขณะที่ทุกคนเตรียมตัวออกเดินทาง เสิ่นเตี๋ยมาส่งทุกคน โดยจูงม้าขาวมาด้วย เสิ่นเตี๋ยบอกจั่นเจาว่าม้าขาวตัวนี้เป็นของหมั้นของนางกับจั่นเจา ดังนั้นจึงตัดสินใจมอบม้าขาวให้จั่นเจา นางกล่าวว่าชาตินี้นางเป็นคนของจั่นเจา หลังจากกล่าวจบก็จากไป ความรักของจั่นเจาและเสี่นเตี๋ยต้องจบลงด้วยการพลัดพรากจากกัน
เปาบุ้นจิ้น ตอน ม้ามังกรขาว ( ไป๋หลงจี )
นำแสดงโดย
จินเชาฉิน รับบท เปาบุ้นจิ้น
ฟ่านหงซวน ” กงซุนเช่อ
เหอเจียจิ้ง ” จั่นเจา
กวานหลี่เจี๋ย ” เสิ่นย่าง
เจียงหัว ” เสิ่นเตี๋ย
ตอนที่ 1
ฤดูใบไม้ร่วงกำลังจะมาถึง ศาลยุติธรรมของเมืองต่างๆจะต้องส่งรายชื่อนักโทษประหารต่อกรมอาญา ขณะที่เปาบุ้นจิ้นกำลังตรวจสอบคดีต่าง ๆ นั่นเอง เปาบุ้นจิ้นพบว่าคดีซุนเฉียงนายทหารแย่งชิงทรัพย์สินชาวบ้านในเขตพื้นที่ซางโจวหนึ่งในเขตปกครองของศาลไคฟงนั้นไม่ชอบมาพากล เนื่องจากคดีนี้ไม่มีการพิสูจน์ความผิดซุนเฉียงแต่อย่างใดก็รีบร้อนปิดคดี เปาบุ้นจิ้นคำนึงถึงชีวิตคนเป็นสำคัญ ด้วยไม่อยากประหารคนผิดจึงให้ยับยั้งการประหารไว้ก่อน เสิ่นย่างผู้บังคับการทหารม้าเป็นคนที่ เปาบุ้นจิ้นทูลให้การสนับสนุนต่อฮ่องเต้ เนื่องจากเสิ่นย่างเป็นนายทหารที่เข้มงวด ไม่มีทางปล่อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชากระทำความผิดโดยไม่ลงโทษอย่างแน่นอน เชื่อว่าคดีนี้ต้องมีเงื่อนงำอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เปาบุ้นจิ้นตัดสินใจเดินทางไป ซางโจวเพื่อสืบหาความจริงโดยมีจั่นเจาร่วมเดินทางไปด้วย ระหว่างทางที่เดินทางไปซางโจว จั่นเจาพบเห็นเสิ่นเตี๋ยและลี่จูสาวใช้ถูกโจรปล้น เมื่อจั่นเจาเห็นเช่นนั้นจึงช่วยชีวิตหญิงสาวทั้งสองไว้ จากนั้นจั่นเจาก็จากไปโดยไม่ทิ้งชื่อแซ่ให้พวกนางรู้ หลังจากที่เปาบุ้นจิ้นเดินทางมาถึงซางโจวแล้ว เปาบุ้นจิ้นก็เอือมระอาต่อพฤติกรรมของหลี่ฉวนนายอำเภอซางโจวยิ่งนัก ด้วยเหตุนี้เปาบุ้นจิ้น จึงมีคำสั่งให้จางหลงจ้าวหู่ไปสืบว่าซุนเฉียงเป็นคนอย่างไร หลังจากที่สืบหาความจริงแล้วก็พบว่าซุนเฉียงเป็นลูกตัญญู ครอบครัวซุนเฉียงมีเพียงแม่ซึ่งชรามากแล้วเท่านั้น ที่สำคัญซุนเฉียงเป็นคนมัธยัสถ์มาก แต่เนื่องจากกองทัพไม่จ่ายเบี้ยหวัดมาครึ่งปีแล้ว เพื่อเลี้ยงดูแม่จึงทำให้ซุนเฉียงต้องแย่งชิงทรัพย์สินชาวบ้าน อีกด้านหนึ่งนั้น เสิ่นเตี๋ยประทับใจจั่นเจาเมื่อแรกพบ เปาบุ้นจิ้นรู้สึกว่าคดีของซุนเฉียงต้องมีเงื่อนงำอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงมีคำสั่งให้ไต่สวนใหม่ ซุนเฉียงให้การอย่างละเอียดตรงไปตรงมาว่ากองทัพ ไม่จ่ายเบี้ยหวัดมาครึ่งปีแล้วโดยอ้างว่าติดขัดอยู่ที่ราชสำนัก เปาบุ้นจิ้นกลับเห็นว่าไม่เป็นความจริง ซุนเฉียงเน้นย้ำว่าทุกถ้อยคำเป็นความจริง บรรดาทหารในค่ายต่างเป็นพยานได้ เปาบุ้นจิ้นโกรธมากที่หลี่ฉวนนายอำเภอซางโจวทำงานสะเพร่า หลังจากที่เปาบุ้นจิ้น มีคำสั่งให้คุมขังซุนเฉียงแล้วก็มีคำสั่งให้หยางเป้าเข้าพบเพื่อสอบปากคำ
ตอนที่ 2
เปาบุ้นจิ้นมีคำสั่งให้จั่นเจาจัดหาที่พักดูแลแม่ของซุนเฉียงเป็นอย่างดี จากนั้นก็รอให้ถึงวันพรุ่งเพื่อสอบปากคำหยางเป้า อีกด้านหนึ่งนั้น หลี่ฉวนได้ไปรายงานให้เสิ่นย่างรู้ว่าการที่เปาบุ้นจิ้นเดินทางมาซางโจวครั้งนี้นั้นด้วยมีเป้าหมายที่จะไต่สวนพิจารณาคดีซุนเฉียงใหม่ นึกไม่ถึงว่าหยางเป้ากลับต้องการรับซุนเฉียงกลับมาโดยใช้กฏทหารลงโทษซุนเฉียง หลี่ฉวนไม่สามารถยับยั้ง หยางเป้าไว้ได้จึงต้องปล่อยให้หยางเป้าพาซุนเฉียงไป หลังจากที่เปาบุ้นจิ้นรู้เรื่องนี้แล้วก็โกรธมาก ดังนั้นจึงมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ พากันไปขัดขวาง เพื่อรักษาชีวิตซุนเฉียงเอาไว้ ในค่ายทหาร หยางเป้ามีคำสั่งห้ามไม่ให้ทหารพูดถึงเรื่องเบี้ยหวัดอีกต่อไป มิฉะนั้นจะถูกลงโทษขั้นเด็ดขาด เปาบุ้นจิ้นพาซุนเฉียงกลับไปยังที่ว่าการ หยางเป้าปฏิเสธเรื่องการจ่ายเบี้ยหวัดให้ทหาร โดยกล่าวหาว่าซุนเฉียงใส่ร้ายป้ายสีตน หยางเป้าและซุนเฉียงให้การไปคนละอย่าง เปาบุ้นจิ้นตัดสินใจสืบหาความจริง จั่นเจาได้รับคำสั่งให้ไปสอบถามเรื่องการจ่ายเบี้ยหวัดจากทหาร แต่กลับไม่มีทหารคนใดกล้าเปิดเผยความจริงออกมาด้วยหวาดกลัวว่าจะต้องโทษตามคำสั่งของหยางเป้า หว่างทางที่จั่นเจาเดินทางกลับได้พบกับเสิ่นเตี๋ย และสาวใช้ เสิ่นเตี๋ยดีใจมากจนทำให้โรคติดตัวกำเริบขึ้นมาเป็นลมท่ามกลางอ้อมอกจั่นเจา จั่นเจาพาเสิ่นเตี๋ยเข้าไปพักที่โรงเตี๊ยม หลังจากที่เสิ่นเตี๋ยฟื้นได้สติขึ้นมาแล้ว แม้ว่านางจะมีความรู้สึกที่ดีต่อจั่นเจาก็ตาม แต่โรคร้ายของนางไม่มีทางเยียวยา ดังนั้นจึงไม่ยอมให้ลี่จูเปิดเผยฐานะที่แท้จริงของนาง ให้ จั่นเจารู้ เสิ่นเตี๋ยและลี่จูจากไปโดยไม่ร่ำลา ทั้งยังไม่ทิ้งชื่อแซ่และที่อยู่ให้จั่นเจารู้ จั่นเจาเองก็มีความรู้สึกที่ดีต่อเสิ่นเตี๋ยเช่นเดียวกัน แต่ก็เสียใจด้วยจนปัญญากับโรคร้ายของนาง เปาบุ้นจิ้นเรียกซุนเฉียงมาให้ปากคำด้วยต้องการความกระจ่างเรื่องการจ่ายเบี้ยหวัด ซุนเฉียงให้การยืนยันว่าไม่มีการจ่ายเบี้ยหวัดแต่อย่างใด เปาบุ้นจิ้นเชื่อว่าเสิ่นย่างผู้บังคับการทหารม้าต้องรู้เรื่องการจ่ายเบี้ยหวัดอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงสอบถามความจริงจากเสิ่นย่าง เมื่อหกปีก่อนเสิ่นย่างเป็นเพียงคนเลี้ยงม้าในค่ายทหารเท่านั้น เปาบุ้นจิ้นเสียดายความสามารถเสิ่นย่าง ดังนั้นจึงทูลสนับสนุนเสิ่นย่างต่อฮ่องเต้ หลายปีนี้ เสิ่นย่างสร้างความดีความชอบมากมายจนมีตำแหน่งสูงถึงเพียงนี้ เสิ่นย่างให้คำมั่นสัญญาว่า จะตรวจสอบเรื่องนี้ให้เปาบุ้นจิ้น หลังจากที่เสิ่นย่างสอบถามหยางเปียวและหยางเป้าแล้วถึงได้รู้ความจริง ที่แท้หยางเปียวและหยางเป้าเป็นหนี้พนันจำนวนมากจึงยักยอกเงินเบี้ยหวัดทหารในกองทัพ เสิ่นย่างตำหนิติเตียนการกระทำของทั้งสองเป็นการใหญ่ แต่เพื่อรักษาชื่อเสียงกองทหารม้าของซางโจวไว้ ดังนั้นจึงต้องรับฟังคำแนะนำของคนทั้งสองโดยการทำบัญชีการจ่ายเบี้ยหวัดปลอมขึ้นมา ต่อมา หลังจากที่เสิ่นย่าง รู้ว่าจั่นเจาเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเสิ่นเตี๋ยเอาไว้ เสิ่นย่างก็ห้ามไม่ให้คนทั้งสองคบหากันอีกต่อไป การที่เสิ่นย่างทำเช่นนี้นั้นด้วยไม่ต้องการให้เสิ่นเตี๋ยต้องเสียใจ
ตอนที่ 3
จั่นเจาจดบันทึกอาการป่วยของเสิ่นเตี๋ยไว้ กงซุนเช่อบอกจั่นเจาว่าตนอาจรักษาเสิ่นเตี๋ยให้หายเป็นปกติได้ กองทหารฝ่ายขวาอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาหยางเปียวพี่ชายหยางเป้า เสิ่นย่างมีคำสั่งให้หยางเปียวและหยางเป้านำบัญชีการจ่ายเบี้ยหวัดของกองทหารฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวาไปมอบให้เปาบุ้นจิ้นตรวจสอบ หลังจากที่กงซุนเช่อตรวจสอบบัญชีการจ่ายเบี้ยหวัดแล้วพบว่าได้มีการจ่ายเบี้ยหวัดให้ทหารทุกเดือนโดยไม่มีการติดค้างแต่อย่างใด เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของหยางเปียวและหยางเป้า ทั้งสองยินดีถูกคุมขังจนกว่าคดีถึงที่สุด เปาบุ้นจิ้นรู้ว่าเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงควบคุมตัวคนหยางเปียวและหยางเป้าไว้ก่อน เปาบุ้นจิ้นตรวจสอบความจริงเท็จของบัญชีการจ่ายเบี้ยหวัดอย่างละเอียดถี่ถ้วน อีกด้านหนึ่งนั้น แม้ว่าเสิ่นเตี๋ยมีใจให้จั่นเจา แต่ โรคร้ายสามารถคร่าชีวิตนางได้ทุกเมื่อจึงทำให้นางไม่กล้าเปิดเผยความในใจต่อจั่นเจา ลี่จูรู้ดีว่าเสิ่นเตี๋ยมีใจให้จั่นเจา ดังนั้นจึงเป็นแม่สื่อให้เสิ่นเตี๋ยและจั่นเจาพบหน้ากัน จั่นเจาขอร้องกงซุนเช่อให้ช่วยรักษาโรคร้ายให้เสิ่นเตี๋ย หลังจากที่กงซุนเช่อตรวจดูอาการป่วยของเสิ่นเตี๋ยแล้วก็พบว่านางไม่เพียงเป็นโรคร้ายที่ไม่สามารถเยียวยาได้แล้ว ที่สำคัญนางยังมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่มากนัก เสิ่นเตี๋ยขอใช้เวลาที่เหลืออยู่กับจั่นเจาให้คุ้มค่า จั่นเจาสะเทือนใจยิ่งนักเมื่อรู้ว่าสักวันหนึ่งเสิ่นเตี๋ยจะต้องจากไป กงซุนเช่ออดหลับอดนอนตลอดทั้งคืนเพื่อพิสูจน์ความจริงเท็จของบัญชีการจ่ายเบี้ยหวัด ในที่สุดกงซุนเช่อก็พบว่าบัญชีการจ่ายเบี้ยหวัดเป็นของปลอม หยางเปียวและหยางเป้าเกรงว่าเปาบุ้นจิ้นจะตรวจพบความจริง ทั้งสองจึงเพิ่มเบี้ยหวัดชดเชยให้ทหารทั้งสองค่าย เพื่อเป็นการยืนยันว่าซุนเฉียงใส่ร้ายป้ายสีพวกตนจึงได้ปลอมลายมือชื่อของซุนเฉียงไว้ โดยไม่ได้ฉุกคิดว่าในวันที่จ่ายเบี้ยหวัดนั้น ซุนเฉียงได้ถูกคุมขังที่ว่าการก่อนหน้านี้แล้ว หลังจากที่เปาบุ้นจิ้นมีหลักฐานแล้วก็เอาผิดหยางเปียวและหยางเป้าสองพี่น้อง ทันใดนั้นเองก็มีผู้คุมเข้ามารายงานว่าซุนเฉียงฆ่าตัวตายในห้องขัง หลังจากที่กงซุนเช่อชันสูตรศพซุนเฉียงแล้วก็พบว่ามีรอยฟกช้ำตามตัวซุนเฉียง เชื่อว่า รอยฟกช้ำเหล่านี้ต้องเกิดจากการต่อสู้ ดังนั้นจึงไม่ใช่เป็นการฆ่าตัวตายอย่างแน่นอน เมื่อตรวจสอบว่าในคืนเกิดเหตุเป็นความรับผิดชอบของผู้คุมคนใดแล้วก็พบว่าเดิมทีเป็นเวรยามของจางซุ่น แต่ฟู่ลี่อาสาเข้าเวรแทน แต่เมื่อถึงรุ่งเช้าฟู่ลี่ก็ไม่อยู่แล้ว เหลือแต่เพียงศพซุนเฉียงเท่านั้น เปาบุ้นจิ้นมีคำสั่งให้จับกุมตัวฟู่ลี่มาดำเนินคดีให้ได้
ตอนที่ 4
ถึงแม้ว่าสองพี่น้องสกุลหยางถูกคุมขัง แต่กลับไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างนักโทษ ทั้งสองได้รับการปฏิบัติเป็นอย่างดี แต่ถึงกระนั้นก็ตามเปาบุ้นจิ้นก็ยังไม่เอาผิดคนทั้งสอง เปาบุ้นจิ้นมีคำสั่งให้จางหลงจ้าวหู่ไปที่ค่ายทหารเพื่อหาหลักฐานการกระทำความผิดให้ได้เสียก่อนค่อยเอาผิดคนทั้งสอง เปาบุ้นจิ้นรู้ดีว่าหยางเปียวและหยางเป้านั้นทำบัญชีจ่ายเบี้ยหวัดปลอมขึ้นมาเพื่อให้พ้นผิด ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องฆ่าปิดปากซุนเฉียง เปาบุ้นจิ้นเชื่อว่าฆาตกรจะต้องเป็นคนอื่น ที่สำคัญฆาตกรจะต้องเกี่ยวพันกับ หยางเปียวและหยางเป้าอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้เปาบุ้นจิ้นจึงพักเรื่องที่ทั้งสองทำบัญชีจ่ายเบี้ยหวัดปลอมไว้ชั่วคราว แต่ตั้งข้อหาทั้งสองเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่าซุนเฉียง ฟู่ลี่เป็นคนเดียวที่สามารถให้ความกระจ่างคดีนี้ เปาบุ้นจิ้นต้องการให้จั่นเจามีเวลากับเสิ่นเตี๋ยมากที่สุด ดังนั้นจึงไม่ได้มอบหมายภารกิจให้จั่นเจา เสิ่นเตี๋ยเป็นน้องสาวที่เสิ่นย่างรักและหวงแหนมาก เมื่อเสิ่นย่างรู้ว่าเสิ่นเตี๋ยหายตัวไปก็ทำให้เสิ่นย่างร้อนรนกระวนกระวายใจมาก ดังนั้นจึงปิดประกาศตามหาคนไปทั่วเมือง ในที่สุด เสิ่นย่างก็พบว่าเสิ่นเตี๋ยอยู่กับเปาบุ้นจิ้น เมื่อเสิ่นย่างพบว่าเสิ่นเตี๋ยมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานนัก ที่สำคัญนางก็มีใจให้จั่นเจา ด้วยเหตุนี้เสิ่นย่างจึงปล่อยให้เสิ่นเตี๋ย อยู่กับเปาบุ้นจิ้นต่อไป จั่นเจาและเสิ่นเตี๋ยเปิดเผยความรู้สึกที่มีต่อกัน เสิ่นเตี๋ยบอกจั่นเจาว่านางจะกลับไปตายที่บ้านเกิด กงซุนเช่อปรุงยาแก้ปวดเพื่อระงับความเจ็บปวดให้เสิ่นเตี๋ย เนื่องจากจั่นเจาต้องอยู่ดูแลเสิ่นเตี๋ย ทำให้จั่นเจารู้สึกละอายใจที่ไม่ได้แบ่งเบางานของเปาบุ้นจิ้น เพื่อวาระสุดท้ายของเสิ่นเตี๋ย จั่นเจาจึงขอลางานจากเปาบุ้นจิ้น ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ฟู่ลี่ผู้คุมที่เกี่ยวพันกับคดีก็ถูกฆ่าปิดปาก เปาบุ้นจิ้นเห็นเช่นนั้นจึงมีคำสั่งให้หลี่ฉวนให้ความคุ้มครองหยางเปียวและหยางเป้าให้ดี เจตนที่แท้จริงของเป้าบุ้นจิ้นนั้นเกรงว่าทั้งสองจะพากันหลบหนีซึ่งจะทำให้คดียิ่งยุ่งยากไปมากกว่านี้ กงซุนเช่อพบว่าจั่นเจาและเสิ่นเตี๋ยกล้าเผชิญความตาย ดังนั้นจึงเสนอวิธีการผ่าตัดให้เสิ่นเตี๋ย แม้ว่าไม่มั่นใจสักเท่าใดนักก็ตามแต่ก็น่าเสี่ยง เสิ่นเตี๋ยต้องการครองรักกับจั่นเจา ดังนั้นจึงตัดสินใจยอมรับการรักษาจากกงซุนเช่อ กงซุนเช่อตระเตรียมงานสำหรับวันพรุ่งนี้ ส่วนเปาบุ้นจิ้นก็ไปสอบปากคำหยางเปียวและหยางเป้าสองพี่น้องอีกครั้ง
ตอนที่ 5
เปาบุ้นจิ้นเห็นว่าหยางเปียวและหยางเป้าเป็นนักโทษคดีสำคัญ ดังนั้นจึงมีคำสั่งให้ควบคุมนักโทษทั้งสองอย่างเข้มงวด ต่อมา เปาบุ้นจิ้นออกอุบายทำให้รู้เบาะแสบางอย่าง หลี่ฉวนนำความไปบอกเสิ่นย่าง กงซุนเช่อตระเตรียมการผ่าตัดให้เสิ่นเตี๋ย เป็นอย่างดี โดยให้จั่นเจาดูแลความเรียบร้อยห้ามไม่ให้ผู้ใดรบกวนสมาธิตนเป็นอันขาด การผ่าตัดรักษาเสิ่นเตี๋ยเป็นไปอย่างราบรื่น ถ้าหากเสิ่นเตี๋ยผ่านพ้นคืนนี้ไปได้ก็รักษาชีวิตนางไว้ได้ ทุกคนดีใจมากเมื่อเห็นเสิ่นเตี๋ยปลอดภัย จั่นเจาดูแลเสิ่นเตี๋ยเป็นอย่างดี โดยไม่ห่างนางแม้แต่ก้าวเดียว กองทหารฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวานั้นแม้ว่างานทั่วไปไม่มีปัญหาก็ตาม แต่บางเรื่องที่สำคัญก็ยากที่จะตัดสินใจได้ เนื่องจากเสิ่นย่างไม่สามารถขัดคำสั่งเปาบุ้นจิ้นได้จึงสร้างความกดดันให้หลี่ฉวนโดยต้องการพบหยางเปียวและ หยางเป้าสองพี่น้องให้ได้ เสิ่นย่างบอกหยางเปียวและหยางเป้าว่าจะขอความเมตตาจากเปาบุ้นจิ้นให้คนทั้งสอง หลี่ฉวนเป็นคนรักตัวกลัวตายโดยรู้ดีว่าเรื่องนี้ร้ายแรงมาก ดังนั้นจึงรีบนำความบอกเปาบุ้นจิ้น เปาบุ้นจิ้นเชื่อว่าการที่เสิ่นย่างจงใจขัดคำสั่งนั้นจะต้องเหตุผล ที่สำคัญเปาบุ้นจิ้นเชื่อว่าเสิ่นย่างจะต้องมาอธิบายความจริงให้ตนรู้แน่นอน แม้ว่าเสิ่นย่างวางใจที่เสิ่นเตี๋ยพักรักษาตัวอยู่กับเปาบุ้นจิ้นก็ตาม แต่ถึงกระนั้นก็ตามเสิ่นย่างก็มาเยี่ยมเสิ่นเตี๋ยด้วยความเป็นห่วงเป็นใย อีกด้านหนึ่งนั้น เสิ่นย่างเชื่อว่า หลี่ฉวนต้องนำเรื่องที่ตนไปเยี่ยมหยางเปียวและหยางเป้าไปรายงานให้เปาบุ้นจิ้นรู้แล้วอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงออกตัวยอมรับผิดต่อ เปาบุ้นจิ้น การเดินทางมาของเสิ่นย่างสร้างความประหลาดใจให้เปาบุ้นจิ้นยิ่งนัก เสิ่นย่างบอกเปาบุ้นจิ้นว่าเสิ่นเตี๋ยเป็นน้องสาวของตน ที่สำคัญการมาของเสิ่นย่างทำให้จั่นเจารู้ถึงฐานะที่แท้จริงของเสิ่นเตี๋ย ความจริงแล้วการที่เสิ่นย่างห้ามไม่ให้เสิ่นเตี๋ยและจั่นเจาคบหากันนั้นด้วยไม่ต้องการให้เสิ่นเตี๋ยต้องพบกับความเสียใจในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ และนี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งซึ่งเสิ่นเตี๋ยปกปิดฐานะ ที่แท้จริงไว้ไม่ให้จั่นเจารู้ จั่นเจาตัดสินใจปรับความเข้าใจกับเสิ่นเตี๋ย หลังจากที่เสิ่นย่างรู้ว่ากงซุนเช่อรักษาโรคร้ายให้เสิ่นเตี๋ยได้แล้ว ก็ทำให้เสิ่นย่างเบาใจ มีเพียงจั่นเจาเท่านั้นที่ยังไม่สามารถวางใจได้
ตอนที่ 6
หลังจากที่เสิ่นย่างรู้ว่ากงซุนเช่อรักษาโรคร้ายให้เสิ่นเตี๋ยได้แล้ว เสิ่นย่างไม่เพียงไม่ขัดขวางการคบหากันของเสิ่นเตี๋ยและ จั่นเจา ทั้งยังสนับสนุนคนทั้งสองอีกด้วย เสิ่นย่างประลองกับจั่นเจาเพื่อกระชับมิตร จากนั้นเสิ่นย่างก็ไปเยี่ยมคารวะเปาบุ้นจิ้น เปาบุ้นจิ้นวางใจเมื่อรู้ว่าความบาดหมางระหว่างเสิ่นย่างและจั่นเจาสูญสิ้นไปหมดแล้ว เสิ่นย่างรับผิดต่อเปาบุ้นจิ้นที่ลอบไปเยี่ยม หยางเปียวและหยางเป้าโดยพลการ หลังจากที่เปาบุ้นจิ้นรู้ถึงต้นสายปลายเหตุแล้วก็ไม่ติดใจเอาความเสิ่นย่างอีกต่อไปก่อนที่เสิ่นย่างจะจากไปนั้น เดิมทีเสิ่นย่างคิดที่จะพาเสิ่นเตี๋ยกลับไปด้วย แต่กลับถูกกงซุนเช่อขัดขวางไว้ด้วยเห็นว่าอาการป่วยของเสิ่นเตี๋ยยังไม่หายเป็นปกติดี นางไม่สะดวกที่จะเดินทางไกล เป็นไปได้ควรให้นางพักรักษาตัวที่นี่ไปก่อน เสิ่นเตี๋ยดีใจมากเมื่อรู้ว่าเสิ่นย่างไม่ขัดขวางที่นางจะคบหากับจั่นเจา เสิ่นย่างกำชับเสิ่นเตี๋ยให้รู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ดี อย่าได้เอาแต่ใจตนเอง จั่นเจารับปากว่าจะดูแลเสิ่นเตี๋ยไปชั่วชีวิต ทำให้เสิ่นย่างจากไปด้วยความสบายใจ หยางเปียวและหยางเป้าต่างอยู่ในคุกด้วยความอกสั่นขวัญแขวน ใครเป็นฆาตกรทั้งสองคดีฆาตกรรมกันแน่ ฆาตกรจะฆ่าพวกตนเป็นรายต่อไปหรือไม่ เรื่องนี้สร้างความวิตกกังวลให้คนทั้งสองยิ่งนัก เสิ่นย่างมอบหมายให้อู่จิ้นนำมังกรขาวม้าพันธุ์ดีไปมอบให้จั่นเจา เดิมทีจั่นเจาไม่ยอมรับมังกรขาวไว้ แต่แล้วก็ต้องรับไว้ด้วยเห็นว่าเป็นของหมั้นหมาย เสิ่นเตี๋ยรู้ว่าการที่เสิ่นย่างมอบมังกรขาวให้จั่นเจานั้นเท่ากับยอมรับการแต่งงานของคนทั้งสอง เสิ่นเตี๋ยดีใจมากจนสุดพรรณนา เปาบุ้นจิ้นใช้แผนรุกเร้าหยางเป้าและหยางเปียวโดยไม่มีการไต่สวนคนทั้งสองแต่อย่างใด การทำเช่นนี้นั้นเพื่อให้คนท้งสองหวั่นวิตกไปกันเอง ในที่สุดแผนการของเปาบุ้นจิ้นก็ได้ผล ทั้งสองซึ่งได้รับความทุกข์ทรมาณในห้องขังนั้น หยางเป้าซึ่งเป็นคนมุทะลุทำให้มีความอดทนต่ำ ไม่นานนักหยางเป้าจะต้องยอมรับสารภาพอย่างแน่นอน หลี่ฉวนรายงานความเคลื่อนไหวของหยางเป้าและหยางเปียวให้เปาบุ้นจิ้นรู้ เปาบุ้นจิ้นเชื่อว่าอีกไม่นานนักความจริงจะต้องกระจ่างอย่างแน่นอน เปาบุ้นจิ้นมีคำสั่งให้หลี่ฉวนจับตาดูความเคลื่อนไหวของคนทั้งสองต่อไป แต่ในเวลาเดียวกันพฤติกรรมของเสิ่นย่างนั้นกลับทำให้เปาบุ้นจิ้นเกิดความเคลือบแคลงสงสัยขึ้นมา เปาบุ้นจิ้นเชื่อว่าคดีของซุนเฉียงจะต้องเกี่ยวพันกับเสิ่นย่างอย่างแน่นอน แต่น่าเสียดายที่ไม่มีหลักฐาน ในที่สุดหยางเปียวก็สุดที่จะทนต่อไปได้จึงบังคับหลี่ฉวนไปบอกเสิ่นย่างให้หาทางช่วยเหลือพวกตนให้ได้ ถ้าหาก เสิ่นย่างดูดาย พวกตนก็จะให้การต่อเปาบุ้นจิ้นว่าเสิ่นย่างบงการอู่จิ้นฆ่าซุนเฉียงและฟู่ลี่
ตอนที่ 7
สุขภาพของเสิ่นเตี๋ยดีขึ้นมาก กงซุนเช่อจึงแนะนำให้นางออกไปเดินเล่นบ้าง หยางเป้าข่มขู่เสิ่นย่าง แต่เสิ่นย่างกลับ ไม่สะทกสะท้าน เนื่องจากหยางเป้าและหยางเปียวเกิดความหวาดกลัวเกรงว่าจะถูกฆ่า ดังนั้นจึงไม่ยอมกินข้าวปลาอาหาร หลี่ฉวนเกรงว่าตนจะมีความผิดจึงนำความไปบอกเปาบุ้นจิ้น เปาบุ้นจิ้นสงสัยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนทั้งสอง อู่จิ้นอาสาจะไปฆ่าหยางเป้าและหยางเปียว แต่กลับถูกเสิ่นย่างปฏิเสธ เสิ่นย่างบอกอู่จิ้นให้ไว้ชีวิตคนทั้งสองไปก่อน จากนั้นเสิ่นย่างก็ให้อู่จิ้นหาที่ใหม่สำหรับเลี้ยงม้า เปาบุ้นจิ้นเห็นโอกาสดีที่จะหยางเป้าและหยางเปียวยอมรับผิดเรื่องยักยอกเงินเบี้ยหวัดกองทัพ หยางเป้าและหยางเปียวขอร้องเปาบุ้นจิ้นให้ลดหย่อนผ่อนโทษให้พวกตน ดังนั้นจึงเปิดเผยความจริงเรื่องที่เสิ่นย่างเป็นผู้บงการฆ่าคนออกมา เปาบุ้นจิ้น ตกใจมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น หลี่ฉวนนำเรื่องที่เปาบุ้นจิ้นจะไต่สวนหยางเปียวและหยางเป้าไปบอกเสิ่นย่าง เสิ่นย่างต้องการเข้าไปเยี่ยมหยางเปียวและหยางเป้า แต่กลับถูกหลี่ฉวนปฏิเสธ อีกด้านหนึ่งนั้น จางหลงจ้าวหู่ได้ยินข่าวลือว่าเสิ่นย่างเลี้ยงม้าพันธุ์ดีไว้เป็นจำนวนมาก ในเวลาเดียวกัน ภายในสามปีมานี้ได้มีการซื้อม้านับพันตัวเข้ามาในกองทัพ เชื่อว่าจะต้องมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เปาบุ้นจิ้นเชื่อคำให้การของหยางเปียวและหยางเป้าไม่ใช่ความเท็จ เท่าที่ผ่านมานี้เสิ่นย่าง มีพฤติกรรมที่ส่อพิรุธหลายเรื่อง เปาบุ้นจิ้นเริ่มต้นสืบหาความจริงจากคอกม้า และเพื่อไม่ให้จั่นเจาลำบากใจ เปาบุ้นจิ้นตัดสินใจไม่ให้จั่นเจาเข้ามายุ่งเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้น เปาบุ้นจิ้นวางแผนให้จั่นเจาและเสิ่นเตี๋ยไปจากซางโจว นึกไม่ถึงว่าจั่นเจากลับรู้ถึงเจตนา ที่แท้จริงของเปาบุ้นจิ้น เปาบุ้นจิ้นไม่มีทางเลือกจึงเปิดเผยความจริงทั้งหมดให้จั่นเจารู้ จั่นเจารู้ดีว่าถ้าหากเสิ่นย่างกระทำความผิดจริงเชื่อว่าจะต้องกระทบความสัมพันธ์ของตนกับเสิ่นเตี๋ยอย่างแน่นอน เสิ่นเตี๋ยรู้จักแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับเรื่องส่วนรวม เพื่อไม่ให้เรื่องส่วนตัวทำลายส่วนรวม เสิ่นเตี๋ยตัดสินใจกลับไปพักฟื้นที่บ้าน เพื่อให้จั่นเจาได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจช่วยเหลืองานของเปาบุ้นจิ้น อีกด้านหนึ่งนั้น เสิ่นย่างมีลางสังหรณ์ว่าเปาบุ้นจิ้นระแคะระคายเรื่องของตนขึ้นมาแล้ว
ตอนที่ 8
หลังจากที่จั่นเจาส่งเสิ่นเตี๋ยกลับไปพักฟื้นที่บ้านแล้วก็กลับไปช่วยงานเปาบุ้นจิ้นดังเดิม เสิ่นย่างแปลกใจเมื่อเห็น เสิ่นเตี๋ยกลับบ้านมาโดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า เชื่อว่าต้องไม่ชอบมาพากลอย่างแน่นอน เปาบุ้นจิ้นอาจระแคะระคายเรื่องของตนแล้วก็เป็นได้ จั่นเจาฉวยโอกาสที่เสิ่นเตี๋ยพักฟื้นสืบหาเบาะแสต่างๆ จั่นเจาให้คำมั่นสัญญาต่อเปาบุ้นจิ้นว่าตนจะไม่ให้เรื่องส่วนตัวทำลายส่วนรวมเป็นอันขาด เปาบุ้นจิ้นได้ยินจั่นเจารับปากมั่นเหมาะเช่นนั้นจึงให้จั่นเจามาช่วยงาน จั่นเจาเกิดความสงสัยเรื่องที่เสิ่นย่างมีม้าพันธุ์ดีเป็นจำนวนมาก แต่ในเวลานี้ม้าพันธุ์ดีเหล่านั้นอยู่ที่ใด เหตุใดจึงเหลือม้ามังกรขาวเพียงตัวเดียวเท่านั้น ที่สำคัญม้าตัวนี้ได้รับมาจากไฉอ๋อง เพื่อพิสูจน์ความจริง เปาบุ้นจิ้นจึงมีคำสั่งให้จางหลงจ้าวหู่ไปขอคำยืนยันจากไฉอ๋อง เนื่องจาก อู่จิ้นเคยเป็นโจรมาก่อน ต่อมาเมื่ออู่จิ้นได้รู้จักกับเสิ่นย่าง อู่จิ้นก็ติดตามรับใช้เสิ่นย่างจนเป็นที่ไว้วางใจ เพื่อสืบหาที่ซ่อนม้าพันธุ์ดี เปาบุ้นจิ้นตัดสินใจสืบเรื่องนี้จากอู่จิ้น อู่จิ้นรู้ดีว่าจั่นเจามีวรยุทธลึกล้ำ ดังนั้นจึงคิดประลองกับจั่นเจาสักครั้ง เนื่องจากจั่นเจาต้องสืบคดีเสิ่นย่างจึงไม่มีเวลาให้เสิ่นเตี๋ย เปาบุ้นจิ้นเกรงว่าเสิ่นย่างจะไหวตัวทันเสียก่อน ดังนั้นจึงให้จั่นเจาไปมาหาสู่กับเสิ่นเตี๋ย เป็นปกติ จั่นเจาไปเยี่ยมเยียนเสิ่นเตี๋ย เสิ่นย่างฉวยโอกาสนี้หยั่งเชิงจั่นเจา แต่กลับคว้าน้ำเหลว เสิ่นเตี๋ยเชื่อว่าการที่เปาบุ้นจิ้นเรียกเสิ่นย่างเข้าพบจะต้องเกี่ยวพันกับคดีอย่างแน่นอน จั่นเจาขอร้องอู่จิ้นให้พาตนไปดูม้ามังกรขาว อู่จิ้นกลับมีเงื่อนไขโดยต้องการประลองกับจั่นเจาเสียก่อน จั่นเจาได้ยินเช่นนั้นจึงต้องจำใจประลองกับอู่จิ้น เปาบุ้นจิ้นมีคำสั่งให้กงซุนเช่อไปตรวจสอบบัญชีกองทหารม้าซึ่งเสิ่นย่างก็ให้ความร่วมมืออย่างดี กงซุนเช่อมีความจำดี ไม่มีสิ่งใดรอดพ้นสายตากงซุนเช่อไปได้ หลังจากที่กงซุนเช่อตรวจ สอบบัญชีกองทหารม้าแล้วก็พบพิรุธมากมาย
ตอนที่ 9
หลังจากที่กงซุนเช่อตรวจสอบบัญชีกองทหารม้าแล้ว พบว่ามีการซื้อม้าจำนวนมากเข้ามาในกองทัพด้วยราคาที่สูงลิ่ว เชื่อว่าเรื่องนี้จะต้องเกี่ยวพันกับผลประโยชน์มหาศาลอย่างแน่นอน ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ดีเท่าอู่จิ้น เนื่องจากอู่จิ้นเป็นผู้รับผิดชอบเรื่อง การจัดซื้อม้าแต่เพียงผู้เดียว เปาบุ้นจิ้นตัดสินใจสืบหาความจริงจากอู่จิ้น เปาบุ้นจิ้นสืบประวัติอู่จิ้น ที่แท้อู่จิ้นเคยเป็นโจรมาก่อน จากนั้นก็ถูกเสิ่นย่างจับกุมตัวได้ เดิมทีอู่จิ้นต้องโทษประหาร เนื่องจากเสิ่นย่างเสียดายความสามารถของอู่จิ้น ดังนั้นจึงไว้ชีวิตอู่จิ้น ทั้งยังมอบตำแหน่งขุนนางให้อู่จิ้นโดยเก็บอู่จิ้นไว้ใช้งานอีกด้วย อู่จิ้นเห็นแก่พระคุณเสิ่นย่าง ดังนั้นจึงอุทิศตัวเป็นข้ารับใช้เสิ่นย่างจนถึงทุกวันนี้ หลังจากที่เปาบุ้นจิ้นรู้ประวัติอู่จิ้นแล้ว เปาบุ้นจิ้นก็เรียกอู่จิ้นเข้ามาสอบปากคำ เปาบุ้นจิ้นหลอกล่อให้อู่จิ้นเปิดเผยฐานะที่แท้จริงออกมา รวมทั้งบีบบังคับให้อู่จิ้นยอมรับว่าเป็นฆาตกรฆ่าซุนเฉียงและฟู่ลี่อีกด้วย เปาบุ้นจิ้นรู้ดีว่าอู่จิ้นต้องการช่วยเสิ่นย่างพ้นผิด เนื่องจากไม่มีหลักฐานเอาผิดเสิ่นย่าง เปาบุ้นจิ้นจึงได้แต่คุมขังอู่จิ้นไว้ก่อนโดยให้หลี่ฉวนดูแลอย่างเข้มงวด ห้ามผู้ใดเข้าเยี่ยมเป็นอันขาด หลังจากที่เสิ่นย่างรู้ว่าอู่จิ้นถูกคุมขังก็รู้ดีว่าเปาบุ้นจิ้นกำลังหาทางเล่นงานตน เพียงแต่ยังไม่มีหลักฐาน เอาผิดตนเท่านั้น เสิ่นย่างหยั่งเชิงเสิ่นเตี๋ยว่าจะให้ความช่วยเหลือตนหรือไม่ เมื่อเสิ่นย่างรู้ว่าเสิ่นเตี๋ยยินดีให้ความช่วยเหลือก็วางใจ อีกด้านหนึ่งนั้น จางหลงจ้าวหู่กลับมารายงานเปาบุ้นจิ้นว่าเรื่องที่ได้รับม้ามาจากไฉอ๋องเป็นความจริง ถ้าหากนำบัญชีการซื้อม้าและบัญชีจำนวนม้ามายันกันแล้วก็จะพบความจริงว่าเสิ่นย่างฉ้อราษฏร์บังหลวงหรือไม่ เสิ่นย่างขอร้องหลี่ฉวนอนุญาตให้ตนเข้าไปเยี่ยมอู่จิ้น หลี่ฉวนไม่อนุญาตด้วยเกรงว่าจะมีความผิดฐานขัดคำสั่งเปาบุ้นจิ้น เสิ่นย่างเห็นว่าไม่มีทางที่จะไปเยี่ยมอู่จิ้น ดังนั้นจึงสอบถามข่าวคราวของอู่จิ้นจากหลี่ฉวน ในที่สุดเสิ่นย่างก็พบว่าอู่จิ้นสารภาพถึงความผิดที่ฆ่าซุนเฉียงและฟู่ลี่ต่อเปาบุ้นจิ้นแล้ว เปาบุ้นจิ้นมีคำสั่งให้จางหลงจ้าวหู่ไปชิงบัญชีการซื้อม้ากลับมาให้ได้ จั่นเจาเห็นว่าหากไม่ใช้วิธีการของชาวยุทธเชื่อว่าไม่มีทาง ชิงบัญชีการซื้อม้ามาได้อย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้จั่นเจาจึงอาสารับภารกิจนี้เอง
ตอนที่ 10
เปาบุ้นจิ้นให้กงซุนเช่อนำความไปบอกเสิ่นย่างว่าอู่จิ้นให้การรับสารภาพหมดแล้ว เสิ่นย่างทำทีตำหนิอู่จิ้นที่สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว หลี่ฉวนเป็นขุนนางที่ไม่มีความสามารถสักเท่าใดนัก แต่กลับได้รับมอบหมายจากเปาบุ้นจิ้นให้ไต่สวนอู่จิ้น หลี่ฉวน หลุดปากบอกอู่จิ้นว่าภายในยี่สิบวันนี้เปาบุ้นจิ้นจะหาหลักฐานเอาผิดผู้สมรู้ร่วมคิดกับอู่จิ้นให้ได้ อู่จิ้นรู้ดีว่าคนที่เปาบุ้นจิ้นพูดถึงนั้น ก็คือเสิ่นย่างนั่นเอง เมื่ออู่จิ้นรู้เช่นนั้นแล้วก็ตัดสินใจแหกคุกเพื่อนำความไปบอกเสิ่นย่าง หลังจากที่เปาบุ้นจิ้นรู้เรื่องนี้แล้วก็แปลกใจมาก ในเมื่ออู่จิ้นคิดจะตายอยู่แล้ว เหตุใดจึงแหกคุกออกไป เชื่อว่าอู่จิ้นต้องมีเรื่องสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจแหกคุกออกไปอย่างแน่นอน หลังจากที่อู่จิ้นและเสิ่นย่างได้พบกันแล้ว เสิ่นย่างก็มอบตั๋วเงินจำนวนหนึ่งให้อู่จิ้นเพื่อให้อู่จิ้นไปจากซางโจวโดยเร็วที่สุด อู่จิ้นแนะนำให้เสิ่นย่างฆ่าม้าทั้งหมดเพื่อทำลายหลักฐาน เพื่อไม่ให้ภัยมาถึงตัวในวันหน้า เสิ่นย่างซึ่งรักม้าเป็นชีวิตจิตใจมีหรือที่จะทำเช่นนั้นได้ลงคอ ที่สำคัญเสิ่นย่างมั่นใจว่าเปาบุ้นจิ้นไม่มีทางหาหลักฐานเอาผิดตนได้อย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้เสิ่นย่างจึงไม่รับฟังคำแนะนำของอู่จิ้น อู่จิ้นจะไปฆ่าเปาบุ้นจิ้น แต่กลับถูกเสิ่นย่างขัดขวาง เมื่อเป็นเช่นนั้นอู่จิ้นจึงลอบเข้าไปในห้องขังเพื่อฆ่าปิดปากหยางเปียวและ หยางเป้า หลี่ฉวนถูกเปาบุ้นจิ้นสั่งพักงานด้วยบกพร่องต่อหน้าที่เป็นเหตุให้อู่จิ้นแหกคุกหลบหนีไปได้ หลังจากที่ปิดคดีแล้วค่อยลงโทษหลี่ฉวน งานในซางโจวมอบหมายให้ผู้พิพากษารักษาการแทนไปก่อน จั่นเจาไปที่ค่ายโจรเพื่อช่วงชิงบัญชีม้า จั่นเจาต้องประลองกับโอวหยางชุนเสียก่อน ถ้าหากสยบโอวหยางชุนลงได้ โอวหยางชุนก็จะมอบบัญชีม้าให้จั่นเจาโดยดี วรยุทธของจั่นเจาและโอวหยางชุนทัดเทียมกันมาก ยากนักที่จะตัดสินแพ้ชนะกันได้ ด้วยความที่โอวหยางชุนเลื่อมใสในความเที่ยงธรรมของเปาบุ้นจิ้น รวมทั้งคุณธรรมของจั่นเจา ในที่สุดโอวหยางชุนก็มอบบัญชีม้าให้จั่นเจา หลังจากที่จั่นเจาขอบคุณโอวหยางชุนแล้วก็เดินทางกลับ อู่จิ้นเห็นว่าเกลี้ยกล่อมเสิ่นย่างไม่สำเร็จ ดังนั้นจึงลอบเข้าไปหาเสิ่นเตี๋ย อู่จิ้นเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เสิ่นเตี๋ยฟัง เสิ่นเตี๋ยราวกับถูกฟ้าผ่าเข้ากลางวันแสกๆหลังจากที่รับฟังเรื่องราวจากอู่จิ้น เสิ่นเตี๋ยขอคำยืนยันจากเสิ่นย่าง เสิ่นย่างยอมรับความจริง เสิ่นย่างบอกเสิ่นเตี๋ยว่าตนต้องลำบากเพียงใดกว่าจะมีวันนี้ เสิ่นเตี๋ยผิดหวังในตัวเสิ่นย่างยิ่งนัก
ตอนที่ 11
เสิ่นเตี๋ยเสียใจมากเมื่อรู้ว่าเสิ่นย่างทำความผิดมากมาย เสิ่นย่างไม่อยากให้เรื่องของตนกระทบต่อความสัมพันธ์ของ เสิ่นเตี๋ยกับจั่นเจา วันใดที่เปาบุ้นจิ้นมีหลักฐานเอาผิดตน เสิ่นเตี๋ยอย่าได้ร้องขอความเมตตาจากจั่นเจาให้ตนเป็นอันขาด เสิ่นย่างอาลัยอาวรณ์ต่อม้าที่เลี้ยงไว้ ดังนั้นจึงไม่สามารถไปจากซางโจวได้ ที่สำคัญไม่อนุญาตให้อู่จิ้นทำร้ายเปาบุ้นจิ้นเป็นอันขาด อู่จิ้นต้องการช่วยเสิ่นย่างผ่านพ้นวิกฤตให้ได้ ดังนั้นจึงลอบสังหารเปาบุ้นจิ้น แต่แล้วอู่จิ้นก็ต้องคว้าน้ำเหลวกลับไป อู่จิ้นลอบเข้าไปหาเสิ่นย่างอีกครั้ง เสิ่นย่างตำหนิอู่จิ้นที่เล่าเรื่องทั้งหมดให้เสิ่นเตี๋ยฟัง อู่จิ้นบอกเสิ่นย่างว่าบัญชีม้าเป็นหลักฐานสำคัญที่ใช้เอาผิดเสิ่นย่างได้ เชื่อว่าเวลานี้บัญชีม้าต้องตกอยู่ในมือของจั่นเจาแล้วอย่างแน่นอน เนื่องจากเสิ่นย่างยืนกรานไม่ยอมไปจากซางโจว ทำให้อู่จิ้นต้องไปขัดขวางจั่นเจาไม่ให้นำบัญชีม้าไปมอบให้เปาบุ้นจิ้น เปาบุ้นจิ้นเกรงว่าเสิ่นย่างจะหลบหนี ดังนั้นจึงมีคำสั่งให้ทหารไปปิดทางเข้าออกเมืองทุกเส้นทาง เนื่องจากเสิ่นย่างมีวรยุทธลึกล้ำ เปาบุ้นจิ้นได้แต่สั่งทหารสะกดรอยตามจับตาดูความเคลื่อนไหวของเสิ่นย่างเท่านั้น หลีกเลี่ยงการปะทะกับเสิ่นย่างเป็นอันขาด เสิ่นเตี๋ยทำใจไม่ได้เมื่อรู้ว่าเสิ่นย่างทำผิดกฎหมาย ดังนั้นจึงขอเข้าพบเปาบุ้นจิ้น เปาบุ้นจิ้นรู้เจตนาของเสิ่นเตี๋ยเป็นอย่างดีจึงให้กงซุนเช่อไปรับหน้าเสิ่นเตี๋ยแทนตน เสิ่นย่างยอมตายโดยไม่คิดขัดขืนแม้แต่น้อย เสิ่นย่างนำม้าพันธุ์ดีที่ไปซุกซ่อนไว้กลับมายังคอกม้าดังเดิม เปาบุ้นจิ้นมีคำสั่งให้หวังเฉาหม่าฮั่นตระเตรียมรถม้าเพื่อเดินทางไปที่คอกม้า เมื่อจั่นเจากลับมาแล้ว หลังจากที่ตรวจสอบบัญชีม้าแล้วก็ให้จั่นเจารีบไปสมทบทันที อู่จิ้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจั่นเจา ดังนั้น จึงต้องจบชีวิตด้วยน้ำมือจั่นเจา เสิ่นเตี๋ยวิงวอนขอร้องเปาบุ้นจิ้นไม่สำเร็จ ดังนั้นจึงไปขอความช่วยเหลือจากจั่นเจา เสิ่นเตี๋ยขอร้อง จั่นเจาให้ไว้ชีวิตเสิ่นย่างสักครั้ง จั่นเจารู้ดีว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจทำให้ตนต้องสูญเสียเสิ่นเตี๋ยไปก็เป็นได้ แต่เพื่อความถูกต้อง จั่นเจาต้องกัดฟันปฏิเสธคำขอร้องของเสิ่นเตี๋ย อย่าได้วิงวอนขอร้องตนอีกต่อไป
ตอนที่ 12
จั่นเจานำบัญชีม้ามอบให้กงซุนเช่อตรวจสอบ หลังจากที่กงซุนเช่อตรวจสอบบัญชีม้าแล้วก็พบว่าเสิ่นย่างฉ้อราษฏร์ บังหลวง ขายม้าให้กองทัพในราคาที่สูงลิ่ว นอกจากนี้ยังมีความผิดฐานรับสินบนอีกด้วย กงซุนเช่อและจั่นเจาพากันไปสมทบกับเปาบุ้นจิ้นที่คอกม้าเพื่อเตรียมการจับกุมเสิ่นย่าง จั่นเจาพบว่าเสิ่นย่างดักรอตนอยู่นานแล้ว เสิ่นย่างท้าประลองกับจั่นเจา วรยุทธของจั่นเจาและเสิ่นย่างสูสีกันมาก แม้ว่าจั่นเจาได้รับชัยชนะแต่ก็ชนะเพียงกระบวนท่าเดียวเท่านั้น ต่อมา เสิ่นย่างก็ท้าประลองกับจั่นเจาบนหลังม้า เสิ่นย่างเป็นฝ่ายได้เปรียบ ขณะที่จั่นเจากำลังเพลี่ยงพล้ำนั่นเอง เปาบุ้นจิ้นก็เดินทางมาถึง เสิ่นย่างยอมรับความผิดต่อเปาบุ้นจิ้นแต่โดยดี เสิ่นย่างขอร้องเปาบุ้นจิ้นให้ดูแลม้าของตนให้ดี เปาบุ้นจิ้นรับปากตามความต้องการของเสิ่นย่าง เมื่อเสิ่นย่างได้ยินเช่นนั้นก็ก้มลงกราบเปาบุ้นจิ้น เสิ่นย่างตำหนิตนเองว่าในอดีตตนได้รับการสนับสนุนจากเปาบุ้นจิ้น แต่แล้วตนกลับเป็นผู้ทำให้เปาบุ้นจิ้น ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง หลังจากที่เสิ่นย่างพูดจบก็ฆ่าตัวตาย เสิ่นเตี๋ยเสียใจมากที่นางมาถึงช้าไปจึงไม่สามารถยับยั้ง เสิ่นย่างไว้ได้ เสิ่นเตี๋ยกอดศพเสิ่นย่างร้องไห้ออกมาด้วยความเศร้าโศกเสียใจ ที่พักของเสิ่นย่างถูกยึดเข้าหลวง หลังจากที่สะสางคดีเสิ่นย่างแล้ว เปาบุ้นจิ้นก็เดินทางกลับเมืองหลวง เสิ่นเตี๋ยนำป้ายวิญญาณของเสิ่นย่างเดินทางกลับบ้านเกิด เสิ่นเตี๋ยหวนนึกถึงเหตุการณ์ต่างๆของนางกับจั่นเจา ไม่นึกเลยว่าจุดจบในวันนี้จะโหดร้ายถึงเพียงนี้ เนื่องจากจั่นเจาเป็นผู้มีพระคุณที่เคยช่วยชีวิต นางไว้ จั่นเจาทำไปเพราะหน้าที่จะเคียดแค้นชิงชังจั่นเจาก็ใช่ที่ แต่การตายของเสิ่นย่างกลับทำให้เสิ่นเตี๋ยตัดขาดความสัมพันธ์กับจั่นเจา เสิ่นเตี๋ยสาบานว่าชาตินี้จะไม่พบหน้าจั่นเจาอีกต่อไป จั่นเจายินดีให้ที่พักพิงแก่เสิ่นเตี๋ย เสิ่นเตี๋ยบอกจั่นเจาว่าชาตินี้นางไม่มีวันลืมจั่นเจาได้เป็นอันขาด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้นางไม่สามารถสู้หน้าจั่นเจาได้อีกต่อไป เสิ่นเตี๋ยขอร้องจั่นเจารับม้ามังกรขาวเอาไว้ โดยหวังว่าจั่นเจาจะไม่ลืมนางเช่นเดียวกัน จั่นเจาและเสิ่นเตี๋ยจากกันด้วยความขมขื่น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ