กรุงเทพฯ--25 ก.ย.--ซีพีเอฟ
นายนารายณ์ ฉิมมิ รองกรรมการผู้จัดการ ด้านธุรกิจโรงงานแปรรูปสุกร บริษัท กรุงเทพผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ภายหลังจากการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของเนื้อหมูอนามัยซีพี โดยการทำประชาสัมพันธ์ในสื่อต่างๆ มีกิจกรรมส่งเสริมการขาย และปรับปรุงจุดขายให้เด่นชัด ด้วยการทำการตลาดสู่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ทำให้เนื้อหมูอนามัยซีพี เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคอย่างแพร่หลาย และจากการจำหน่ายสินค้าแปรรูปจากเนื้อสุกร ภายใต้ตราสัญลักษณ์ซีพีที่วางจำหน่ายไปแล้ว คือ ขาหมูพะโล้ และขาหมูหั่นชิ้นพะโล้ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคจึงส่งอีก 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ ขาหมูตุ๋นเห็ดหอม ซี่โครงหมูตุ๋นเยื่อไผ่ และซี่โครงหมูตุ๋นยาจีน ซึ่งเป็นอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน (Ready meal) เข้าสู่ตลาด โดยอาหารทั้งหมดจะยึดถือคุณค่าสูงสุดที่ลูกค้าจะได้รับ คือ สินค้าดีมีคุณภาพ เมนูอร่อย หาซื้อง่าย และราคาไม่สูงจนเกินไป ภายใต้แบรนด์ “ซีพี” ซึ่งเป็นที่จดจำ
“การแปรรูปเนื้อหมูซีพี ด้วยเครื่องจักรอันทันสมัย เป็นอีกขั้นตอนสำคัญที่บริษัทมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์เนื้อหมูคุณภาพตราซีพีส่งถึงมือผู้บริโภค โดยสุกรเนื้อปลอดสารจากฟาร์มของ CPF จะถูกนำเข้าสู่กระบวนการแปรรูปภายในโรงงานที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน และถูกสุขอนามัย โดยสุกรที่ผ่านกระบวนการเลี้ยงแล้ว จะต้องผ่านการตรวจรับรองจากสัตว์แพทย์ของกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าไม่มีสารตกค้างใดๆที่จะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค หลังจากนั้นจะถูกส่งไปยังโรงชำแหละมาตรฐาน ก่อนที่จะนำเข้ามายังโรงงานแปรรูป ซึ่งจะทำการลดอุณหภูมิเนื้อสุกรให้เย็นลงที่ 4 องศาเซลเซียส จากนั้นจึงตัดแต่งแยกชิ้นส่วนภายในห้องที่ควบคุมความเย็นสม่ำเสมอตลอดเวลา โดยเนื้อสุกรจะไม่สัมผัสพื้นและมือคนโดยตรงตลอดกระบวนการ ก่อนบรรจุสำเร็จจากโรงงาน ภายใต้การเก็บรักษาในรูปแบบ Chill ที่ 0-4 องศาเซลเซียส และแบบ Frozen ภายใต้ขวนการที่ทำให้อุณหภูมิถึง -40 องศาเซลเซียส ทั้งนี้เพื่อให้แกนของเนื้อสุกรมีอุณหภูมิที่ -18 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ทำให้เนื้อสุกรยังคงคุณค่าทางอาหารไว้อย่างครบถ้วน และสามารถรักษาความสดของเนื้อไว้ได้ 100% หลังจากนั้นจะถูกขนส่งไปยังผู้บริโภคด้วยรถห้องเย็นที่มีการควบคุมอุณหภูมิตลอดเวลา เนื้อหมูสดอนามัยตราซีพี จึงสามารถรักษาความสด สะอาด และลดโอกาสเสี่ยงจากการปนเปื้อนใดๆที่จะเป็นอันตรายได้ตลอดจนกระทั่งถึงมือผู้บริโภค”
ลักษณะบรรจุภัณฑ์ของหมูอนามัยตราซีพี ตามโมเดิร์นเทรดทั่วไปจะอยู่ในลักษณะ CP Brand Wrap Packing, และ Top Seal ส่วนบรรจุภัณฑ์ในลักษณะ CP Brand บรรจุถุง จะวางจำหน่ายอยู่ที่ ซีพี เฟรชมาร์ท ทั้งนี้จะมีเนื้อหมูปลอดสารอีกส่วนหนึ่งถูกนำไปแปรรูปเป็นเนื้อสุกรปรุงสุกหลากหลายชนิด เช่น ไส้กรอก เพื่อจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
สำหรับผลิตภัณฑ์ เนื้อหมูสดอนามัยตราซีพี ขณะนี้มีวางจำหน่ายที่ร้าน CP Fresh Mart และ Modern Trade อาทิ Tops, Lotus Express, Tesco Lotus, Big C, Carrefour, และ Makro ส่วน 5 ผลิตภัณฑ์คุณภาพทั้ง ขาหมูพะโล้ ขาหมูหั่นชิ้นพะโล้ ขาหมูตุ๋นเห็ดหอม ซี่โครงหมูตุ๋นเยื่อไผ่ และซี่โครงหมูตุ๋นยาจีน มีจำหน่ายที่ร้าน CP Fresh Mart ทุกสาขา
ทั้งนี้ ในส่วนของผลิตภัณฑ์แปรรูปสุกรภายใต้แบรนด์ซีพีแบ่งเป็น 3 ตลาด คือโมเดิร์นเทรด 50% ฟู้ดเซอร์วิส 25% และอีก 25% คือตลาดสด โดยในปีนี้ (2551) มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 1,450 ตัวต่อวัน คาดว่าจะมียอดขายรวม 3,000 ล้านบาท จากการส่งออก 15% อีก 85% ส่งตลาดภายในประเทศ โดยส่งให้กับโรงงานภายในเครือ 50%
ด้านดร.สัจจา ระหว่างสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านการปรับปรุงพันธุ์สุกร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดเผยว่าด้วยวิสัยทัศน์ของซีพีเอฟที่มุ่งสู่การเป็นครัวของโลก (Kitchen of the World) จึงทุ่มเทในด้านการพัฒนาพันธุ์และการปรับปรุงสายพันธุ์สุกรมากว่า 30 ปี จนกระทั่งได้สุกรพันธุ์แท้ของซีพีเอฟ ซึ่งเป็นพ่อแม่สุกรสายพันธุ์ดี ที่สามารถผลิตลูกสุกรที่มีลักษณะเด่นคือ เลี้ยงง่าย โตเร็ว แข็งแรง โดยเลี้ยงในระบบโรงเรือนปิดปรับอากาศด้วยการระเหยน้ำ (อีแว๊ป) มีระบบควบคุมและป้องกันโรคอย่างเข้มงวด เพื่อผลิตเนื้อสุกรอนามัยซีพีเอฟที่สะอาด ปลอดภัยและเหมาะกับผู้บริโภคที่รักสุขภาพ ซึ่งนิยมบริโภคอาหารประเภท Food Safety เป็นอย่างยิ่ง
“การผลิตสินค้าด้วยความใส่ใจในทุกขั้นตอนถือเป็นหัวใจสำคัญ กระบวนการผลิตเนื้อสุกรสดอนามัยตราซีพี จึงเริ่มตั้งแต่การคัดเลือกสายพันธุ์สุกรชั้นดี ผนวกกับการเลือกใช้อาหารสัตว์คุณภาพสูง ด้วยการเลี้ยงในโรงเรือนมาตรฐาน ภายใต้ระบบการจัดการฟาร์มที่มีประสิทธิภาพ และการควบคุมป้องกันโรคอย่างเข้มงวด ทั้งหมดนี้ถือเป็นหลักการ 5 หัวใจการเลี้ยงสัตว์ ที่บริษัทยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอด ทั้งนี้เพื่อให้ได้สุกรที่มีคุณภาพ ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค ที่นิยมรับประทานเนื้อสุกรที่มีไขมันบาง และมีเนื้อแดงมาก เป็นที่มาของเนื้อสุกรตราซีพี ที่มีคุณภาพ ปลอดสาร ปลอดภัย สะอาด และสดใหม่เสมอ ที่สำคัญยังสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ในทุกขั้นตอนการผลิต ผู้บริโภคจึงเชื่อมั่นได้ในคุณภาพและเลือกบริโภคเนื้อสุกรซีพีได้อย่างมั่นใจ และปัจจุบันบริษัทสามารถผลิตสุกรสายพันธุ์ใหม่ที่มีลักษณะเด่นคือ มีไขมันแทรกในชั้นกล้ามเนื้อมากขึ้น ส่งผลให้เนื้อมีความนุ่มกว่าเนื้อสุกรปกติกว่า 30 % ทำให้มีรสชาติอร่อยถูกปากผู้บริโภค โดยซีพีเอฟจะเป็นผู้นำในประเทศที่สามารถผลิตเนื้อสุกรชนิดนี้ได้สำเร็จ ทั้งนี้กำลังเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่จากสายพันธุ์สุกรที่ได้พัฒนาขึ้น โดยเน้นฐานลูกค้าผู้พึงพอใจกับการบริโภคเนื้อที่มีความนุ่ม (tenderness) และชุ่มฉ่ำ (juiciness) เป็นหลัก” ดร.สัจจา กล่าว
นอกจากนี้ซีพีเอฟยังได้ร่วม “โครงการจัดทำระบบตรวจสอบย้อนกลับเนื้อสัตว์คุณภาพ” กับ กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นยิ่งขึ้นว่า ได้เลือกซื้อเนื้อสัตว์ที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง โดยกทม.ได้มอบตราสัญลักษณ์เนื้อสัตว์คุณภาพให้ติดบนบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์เนื้อไก่และเนื้อหมูคุณภาพซีพี ที่มีการตรวจสอบและผ่านเกณฑ์มาตรฐานทั้งกระบวนการผลิต ซึ่งผู้บริโภคสามารถตรวจสอบข้อมูลและแหล่งที่มา เพียงแค่นำรหัสสินค้าไปตรวจสอบผ่านทางอินเตอร์เน็ตที่ www.bangkok.go.th/vet และ www.vet-bma.com หรือผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยพิมพ์ TM ตามด้วยเลขชุดการผลิตและส่งที่หมายเลข SMS 4545111
ในอนาคตอันใกล้นี้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบย้อนกลับผลิตภัณฑ์คุณภาพของซีพีเอฟ ได้ด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซด์ของบริษัท www.cpfworldwide.com ด้วยระบบการตรวจสอบย้อนกลับอย่างสมบูรณ์แบบ เพียงแค่ระบุรหัสและบาร์โค้ดสินค้าเท่านั้น ซึ่งระบบนี้เป็นที่นิยมแพร่หลายอยู่ในประเทศญี่ปุ่น
สำนักสื่อสารและประชาสัมพันธ์ CPF
โทร.0-2625-7343-5,0-2638-2713,0-2631-0641