กรุงเทพฯ--26 ก.ย.--พับบลิค ฮิต
บรรยากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมละมุน และอบอุ่นด้วยสัมผัสแห่งรักของแม่และลูก เมื่อ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จัดงาน “มหัศจรรย์แห่งสัมผัสรักจากจอห์นสัน เบบี้ มอยซ์เจอร์ไรซิ่ง วอช” เปิดตัว ครีมอาบน้ำจอห์นสัน เบบี้ มอยเจอร์ไรซิ่ง วอช ด้วย 2 คู่แม่ลูกคนดัง ที่มาร่วมกันไขความลับมหัศจรรย์ 4 ภาษารักของลูกน้อย ที่เกิดจากสัมผัสอันอ่อนละมุนของคุณแม่
เจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน คอนซูเมอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า “จอห์นสัน เบบี้ เป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์เด็กมาเป็นระยะเวลากว่า 100 ปี และ ทุกผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์จอห์นสันเบบี้ ได้ผ่านการทดสอบด้วยมาตรฐานสากล ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วโลก ในประเทศไทยเองก็เช่นกัน ผลิตภัณฑ์จอห์นสัน เบบี้ เป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพที่โรงพยาบาลส่วนใหญ่เลือกใช้มากที่สุด ในปี 2551 นี้ จอห์นสัน เบบี้ ยังคงเติบโตอย่างสวนกระแส มุ่งขยายความแข็งแกร่ง ในการเป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์เด็กอย่างต่อเนื่อง ด้วยการรุกตลาดครีมอาบน้ำ เปิดตัว จอห์นสัน เบบี้ มอยซ์เจอร์ไรซิ่ง วอช ครีมอาบน้ำที่มีส่วนผสมของเบบี้โลชั่น ซึ่งแตกไลน์มาจาก จอห์นสัน เบบี้โลชั่น สีชมพู ที่มียอดขายสูงสุดในกลุ่มโลชั่นสำหรับเด็กมาโดยตลอด เรามั่นใจว่าด้วยความอ่อนละมุนของครีมอาบน้ำจอห์นสัน เบบี้มอยซ์เจอร์ไรซิ่ง วอช ผสานกับกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของจอห์นสัน เบบี้ จะทำให้ จอห์นสัน เบบี้ มอยซ์เจอร์ไรซิ่ง วอช เป็นครีมอาบน้ำที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค”
ประมวลศรี คงยิ่งยง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน คอนซูเมอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า “จอห์นสัน เบบี้ มอยซ์เจอร์ไรซิ่ง วอช เป็นครีมอาบน้ำหนึ่งเดียวในตลาดครีมอาบน้ำเด็กของเมืองไทยที่มีส่วนผสมของเบบี้โลชั่น ทั้งนี้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคุณแม่ที่มีลูกน้อยวัย 0-3 ปี รวมไปถึงกลุ่มหญิงสาวที่ชอบความอ่อนละมุนและกลิ่นหอมอ่อนๆของครีมอาบน้ำเด็ก โดยคุณสมบัติเด่นคือเป็นครีมอาบน้ำที่อุดมไปด้วยมอยซ์เจอร์ไรเซอร์เพื่อช่วยบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื่น พร้อมด้วยกลิ่นหอมละมุนในแบบเฉพาะของจอห์นสัน เบบี้”
จากการศึกษาและค้นคว้าของผู้เชี่ยวชาญจากจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน พบว่า มหัศจรรย์ 4 ภาษารักของทารก เกิดขึ้นได้จากสัมผัสอันอ่อนละมุนของแม่ ภายในงานจึงได้เชิญผู้เชี่ยวชาญ แพทย์หญิงอดิศร์สุดา เฟื่องฟู กุมารแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็ก หน่วยงานพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี มาช่วยไขความลับอันน่ามหัศจรรย์นี้
“จากผลการวิจัยทางการแพทย์พบว่าความผูกพันที่แนบแน่นระหว่างแม่กับลูกนั้น ส่งผลดีต่อพัฒนาการทางร่างกาย การเรียนรู้ทางสังคม อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในตนเองของลูกน้อยเมื่อเขาเติบโตขึ้นอีกด้วย และยิ่งความผูกพันระหว่างแม่กับลูกแนบแน่นเท่าไร ก็จะยิ่งส่งผลดีต่อพัฒนาการด้านต่างๆของเขามากเท่านั้น”
คุณหมอยังได้กล่าวต่ออีกว่า “ความผูกพันที่แนบแน่นระหว่างคุณแม่กับลูกน้อยนั้น สามารถสังเกตง่ายๆได้จาก 4 ภาษารักอันเปี่ยมความหมายที่ลูกพยายามสื่อสารกับแม่นั่นเอง
ภาษาที่ 1 จ้องมองหน้าแม่ โดยทั่วไปแล้วทารกหรือเด็กเล็กมักจะมองสำรวจสิ่งต่างๆรอบตัวเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณแม่สังเกตให้ดี สายตาที่เขามองมายังคุณแม่หรือคนที่เขารู้สึกผูกพันเป็นพิเศษจะแตกต่างออกไป ยิ่งเขารู้สึกผูกพันกับคุณแม่มากขึ้นเท่าไร เขาก็จะยิ่งมองหาและสบตาแม่บ่อยขึ้นเท่านั้น
ภาษาที่ 2 เปล่งเสียงอ้อแอ้พูดคุย ถึงแม้ลูกจะยังพูดไม่ได้ แต่ความพยายามในการส่งเสียงต่างๆออกมา ไม่ว่าจะเป็นเสียงหัวเราะ เสียงอ้อแอ้ ล้วนเป็นการบ่งบอกความผูกพันที่เขาพยายามจะสื่อสารกับแม่ เค้าจะพยายามเลียนเสียงของแม่ ยิ่งถ้าคุณแม่พูดคุยกับลูกบ่อยเท่าไร เขาก็จะยิ่งพยายามสื่อสารกลับมามากขึ้นเท่านั้น ซึ่งจะช่วยเสริมพัฒนาการทางภาษาให้เขาได้เป็นอย่างดี
ภาษาที่ 3 เอื้อมมือหาแม่ นั่นแปลว่าเขากำลังพยายามจะบอกแม่ว่า กอดหนูหน่อย หรือเข้ามาใกล้หนูอีกนิด หากคุณแม่สื่อสารตอบด้วยการเขยิบเข้าไปใกล้ๆเขา สัมผัสเขา ก็จะช่วยส่งเสริมความมั่นคงทางอารมณ์ของเขาได้เป็นอย่างดี และสุดท้าย
ภาษาที่ 4 รอยยิ้มที่สดใส ไม่มีอะไรที่บ่งบอกให้คนเป็นแม่รับรู้ว่าเขามีความสุขได้ดีไปกว่ารอยยิ้มหวานๆของลูกน้อย ยิ่งคุณแม่โอบกอดเขาด้วยสัมผัสอันอ่อนละมุนบ่อยขึ้นเท่าไร ลูกก็จะยิ่งรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย มีความสุข ทำให้เขาเป็นเด็กเป็นเด็กอารมณ์ดียิ้มง่าย
ดังนั้นการโอบกอดลูกน้อยด้วยสัมผัสอ่อนละมุนจึงถือเป็นการเสริมสร้างความผูกพันระหว่างแม่กับลูกให้แนบแน่น ยิ่งขึ้น ซึ่งคุณแม่สามารถช่วยสร้าง 4 ภาษารักของลูกน้อยนี้ได้ง่ายๆด้วยการโอบกอดและสัมผัสอย่างอ่อนโยน หรือแม้แต่ในขณะอาบน้ำทุกๆวันคุณแม่ก็สามารถร้องเพลง พูดคุยและเล่นกับเขาได้ ง่ายๆเท่านี้ คุณแม่ก็จะสามารถช่วยสร้าง 4 ภาษารักจากเขาให้เกิดขึ้นได้ เพื่อความผูกพันที่แนบแน่นมากยิ่งขึ้น” แพทย์หญิงอดิศร์สุดา กล่าว
ทั้งนี้ เพื่อให้ทั้งคุณแม่และคุณลูกได้มีช่วงเวลาแห่งความสุขในการอาบน้ำร่วมกัน คุณหมอจึงได้แนะนำวิธีเสริมสร้างพัฒนาการขณะอาบน้ำของลูกน้อยง่ายๆ ว่า “เริ่มจากเลือกอุณหภูมิน้ำให้เหมาะสม ควรจะอยู่ระหว่าง 30-35 องศาเซลเซียส เลือกผลิตภัณฑ์สำหรับทารกโดยเฉพาะ และต้องเป็นชนิด No More Tear ที่สำคัญไม่ควรนำสบู่ของผู้ใหญ่มาอาบน้ำให้ลูกน้อย เพราะค่า PH ในสบู่ของผู้ใหญ่อาจทำให้ผิวของเด็กแห้ง และแพ้ง่าย หลังจากนั้นก็ถึงเวลาแห่งความสุข คุณแม่ควรหาฟองน้ำที่มีพื้นผิวหลากหลาย เช่น หยาบ เรียบ หรือลื่น มาให้ลูกน้อยได้สัมผัสถึงพื้นผิวที่แตกต่างกัน หรือหาของเล่น เช่น หนังสือลอยน้ำ หรือของเล่นลอยน้ำ เพื่อให้ลูกน้อยได้สำรวจของเล่นในรูปแบบอื่นๆ บ้าง และอย่าลืมที่จะร้องเพลง พูดคุย มองหน้า สบตาลูกในขณะอาบน้ำด้วย หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว ก็ควรจะนวดตัวให้ลูกน้อยผ่อนคลาย จะเลือกใช้โลชั่นหรือไม่ก็ได้ เพียงเท่านี้ทั้งคุณลูกและคุณแม่ก็ได้มีช่วงเวลาดีๆ ด้วยกันง่ายๆแล้วค่ะ”
บรรยากาศแห่งความรัก ความอบอุ่นอบอวลยิ่งขึ้น เมื่อ 2 คู่แม่ลูก “อูน” จิตตินี จอมปรัชญา (วานิชชา) เวิร์กกิ้ง มัม จากบริษัทเจียระไนเพชรชื่อดัง พรีเมียร์ ไดมอนด์ คัตติ้ง ซึ่งเป็นบริษัทผู้บุกเบิกวงการเจียระไนเพชรรายแรกของประเทศไทย มีงานเจียระไนเพชรที่สวยติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก และ”น้องมิวมิว” มาพิกา จอมปรัชญา วัย 1 ขวบ และ “ตุ๊ก” ชนกวนัน วัชรคุณ ดารา-นางแบบ กับ ลูกน้อยวัย 4 เดือน “น้องแพรว”แพรวพิชชา วัชรคุณ ได้มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเลี้ยงลูก พร้อมเผยช่วงเวลาแห่งความสุขฉบับแม่ลูก
เริ่มจากคุณแม่เจ้าตำรา “อูน” จิตตินี จอมปรัชญา (วานิชชา) เล่าว่า “ช่วง 3 เดือนแรกจะเป็นช่วงปรับตัวของน้องมิวมิวสู่โลกใบนี้ ทำให้เลี้ยงยากในช่วง 3 เดือนแรก เราต้องใช้ความพยายามในการปรับตัวเข้าหากัน พอหลังจาก 3 เดือนแล้ว เรารู้ว่าลูกอยากทำอะไร ก็เลยเลี้ยงง่ายขึ้น เพราะว่าเป็นลูกคนแรกด้วย เราก็เลยพึ่งตำราเป็นหลัก บวกกับคำแนะนำจาก ปู่ ย่า ตา ยาย ก็นำมาปรับใช้กับลูก ตั้งแต่มีน้องมิวมิว อูนมีความสุขมากเลยค่ะ แค่มองหน้าลูกน้ำตามันไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว แม้บางครั้งจะเหนื่อยมาก แต่มันก็คุ้มค่ากับการเหนื่อยค่ะ”
เมื่อรู้ว่า ลูกสาวมีความสุขในการได้อาบน้ำ เล่นน้ำ คุณแม่ก็เลยพยายามหากิจกรรมทางน้ำให้ลูกสาวได้ฝึกพัฒนาการ “ตอนนี้ก็พาน้องมิวมิวไปว่ายน้ำที่สระโอโซน ซึ่งเค้าจะมีผู้เชี่ยวชาญฝึกให้ลูกตีแขนขา ดำน้ำ เรียนเบสิกในการพยุงตัวในน้ำ และตอนอาบน้ำให้ลูก อูนก็เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความชุ่มชื่น อย่าง ครีมอาบน้ำ จอห์นสัน เบบี้ มอยซ์เจอร์ไรซิ่ง วอซ ขวดสีชมพู อาบน้ำให้มิวมิว ที่ชอบว่ามีส่วนผสมของเบบี้โลชั่นซึ่งเหมาะกับน้องมิวมิวที่ชอบอาบน้ำนานๆ เวลาอาบน้ำเขาจะหัวเราะเสียงดัง พอมีฟองก็จะจับเล่น หรือไม่ก็เอาฟองมายื่นให้แม่ เหมือนกับว่าจะชวนแม่เล่นสนุกด้วยกัน เวลาที่เขามองตาเรา แววตาของเขาบอกทันทีเลยว่าเขากำลังมีความสุขอยู่ ช่วงเวลาอาบน้ำเลยเป็นเวลาที่เราสองคนแม่ลูกมีความสุขด้วยกันค่ะ
ด้าน คุณแม่ 24 ชั่วโมง อย่าง “ตุ๊ก” ชนกวนัน วัชรคุณ ก็ควงทั้งคุณพ่อและน้องแพรว มาไขความลับภาษารักของลูกน้อย “น้องแพรวเลี้ยงง่าย กลางคืนก็นอนยาวแล้วค่ะ ตุ๊กเลี้ยงลูกเอง 24 ชั่วโมงเลย โดยเน้นการเลี้ยงลูกแบบวิชาการ ตุ๊กจะอ่านคู่มือเลี้ยงลูกจนเป็นกังวล จนเพื่อนๆ แซวว่า จับผิดพัฒนาการลูกมากกว่า ชื่นชม (หัวเราะ) เวลาเลี้ยงลูกเอง เราก็จะสังเกตอากัปกิริยาของลูก ตั้งแต่ หลับตากินนม ลืมตากินนม แล้วก็สบตาเราแล้วก็ดูดนม เวลาลูกสบตาเราครั้งแรก น้ำตาจะไหลเลยค่ะ ไม่อยากเชื่อว่าลูกสบตาเราจริงเหรอ ตุ๊กก็เลยร้องเพลงที่เคยร้องตอนเค้าอยู่ในท้องให้ฟัง เค้าก็จ้องหน้าเราจนจบเพลง คราวนี้กว่าจะร้องจบน้ำตาแม่ไหลเปียกทั่วหน้าเลยค่ะ”
“ช่วงเวลาที่ตุ๊กชอบมากคือเวลาที่ได้อาบน้ำให้น้องแพรว เขาจะมีความสุขทุกครั้งเวลาที่ได้อาบน้ำ เขาจะอารมณ์ดี ชอบเล่นน้ำ ยิ้มและคอยจ้องหน้าแม่ตลอด เหมือนๆลูกจะบอกตุ๊กว่ามีความสุขจัง ตุ๊กก็เลยรู้สึกดี มีความสุขไปกับเขาด้วย กับลูกตุ๊กใช้ครีมอาบน้ำจอห์นสัน เบบี้ มอยซ์เจอร์ไรซิ่ง วอซ ขวดสีชมพู เพราะมีส่วนผสมของเบบี้โลชั่น หลังอาบน้ำน้องแพรวก็จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆติดตัวด้วยค่ะ ชอบมากเลย” คุณแม่มือใหม่กล่าวปิดท้าย
จอห์นสัน เบบี้ ชวนคุณแม่และลูกน้อยทุกคนร่วมสัมผัสมหัศจรรย์ 4 ภาษารัก ของลูกน้อย และแบ่งปันความหอม สดชื่นในขณะอาบน้ำ ด้วย จอห์นสัน เบบี้ มอยซ์เจอร์ไรซิ่ง วอซ ขวดสีชมพู ได้แล้ว ณ ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วไป
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
เพียงเพ็ญ พรายแสง (081 8608225)
ชาลิสา จิรตั้งมั่นเจริญ (084 165 2828)
ปรางสินี ลิ้มนพคณ (0813980311)
บริษัท พับบลิค ฮิต จำกัด
โทร. 02 2525699 แฟกซ์. 02 2525698