กรุงเทพฯ--2 มิ.ย.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
“แฟนต้ายุวทูต” ฝากความประทับใจ ตราตรึงชาวญี่ปุ่นไว้จนอยู่หมัด ไปเมื่อปีที่แล้ว ในงาน World Expo 2005 กับการแสดงศิลปวัฒนธรรม อันอ่อนช้อย สวยงามของประเทศไทย และอีกครั้งที่กลุ่มเยาวชนแฟนต้ายุวทูตแห่งประเทศไทยหลากหลายรุ่น ได้รวมตัวกัน หลังจากได้รับเชิญจาก สถานเอกอัครราชทูตไทยในญี่ปุ่น และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประจำกรุงโตเกียว ให้ไปร่วมแสดงนาฎศิลป์ไทย ในงาน เทศกาลไทย ครั้งที่ 7 (Thai Festival 2006) โดยมีผู้ให้ความสนใจเข้าชมงานกว่า 3 แสนคน ณ สวนสาธารณโยโยงิ เขตชิบูยา กรุงโตเกียว ที่ผ่านมา
ภายในงานเทศกาลไทย มีกิจกรรมที่เผยแพร่ประเทศไทยทุก ๆ ด้าน มีการจำหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภค อาหาร และผลไม้ไทยที่มีชื่อเสียง และยังได้จัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาส ทรงครองสิริราชย์สมบัติครบ 60 ปี ด้วย ส่วนในด้านกิจกรรมการแสดงบนเวที ฯพณฯ สุวิทย์ สิมะสกุล เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงโตเกียว กล่าวว่า “จากเมื่อปีที่แล้ว กลุ่มแฟนต้ายุวทูต ได้มาเผยแพร่แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ที่ญี่ปุ่น ทำให้ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบความสามารถของแฟนต้ายุวทูตเป็นอย่างมาก ซึ่งการผูกสัมพันธ์ที่ดีควรเริ่มตั้งแต่วัยเด็ก ดังนั้น ทางสถานทูตฯ และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานโตเกียว จึงได้เชิญกลุ่มเยาวชนที่มีความสามารถ ทางด้านศิลปวัฒนธรรมไทย และเป็นที่ยอมรับ คือ แฟนต้ายุวทูตแห่งประเทศไทย มาร่วมแสดงนาฎศิลป์ไทย และสานสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย และประเทศญี่ปุ่น ซึ่งการแสดงของเด็ก ๆ สามารถสร้างความประทับใจ ให้กับผู้ชม ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นอย่างดี ทุกคนชื่นชมในความสามารถของเยาวชนไทย ที่แสดงออกมาอย่างอ่อนช้อย สวยงาม และ สนุกสนาน ตามทำนองดนตรีไทย ที่สำคัญ คือการให้ผู้ชมได้ร่วมกิจกรรมแห่งความสุขในครั้งนี้ด้วย”
การเดินทางของแฟนต้ายุวทูตแห่งประเทศไทย ในฐานะทูตวัฒนธรรม เพื่อร่วมเผยแพร่วัฒนธรรมของไทย สู่สายตาชาวโลก และถึงแม้ครั้งนี้จะไม่ได้เป็นครั้งแรกของมาเยือนญี่ปุ่น แต่ก็เป็นครั้งแรกของแฟนต้ายุวทูตบางคนจนอดตื่นเต้นไม่ได้ ทุกคนก็ยังได้รับการต้อนรับอย่างดี จากชาวญี่ปุ่น พอไปถึงญี่ปุ่น ทุกคนก็ตระเตรียมตัว ช่วยเหลือตนเอง เพื่อพร้อมที่จะโชว์การแสดงที่ได้เตรียมมา ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า หน้า ผม พอถึงเวลาเด็ก ๆ ก็พร้อมลุย!
กิจกรรมในครั้งนี้แฟนต้ายุวทูตของเราก็ไม่สร้างความผิดหวังให้กับผู้เข้าชม เริ่มตั้งแต่การแสดงชุด “พ่อของแผ่นดิน” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระผู้ทรงทำให้แผ่นดินไทยเป็นแผ่นดินทอง ทั้งปีนี้เป็นปีที่พระองค์ทรงครองสิริราชย์สมบัติครบ 60 ปี สร้างความประทับใจให้ทั้งชาวไทยและชาวญี่ปุ่นที่มาร่วมงาน ซึ่งการแสดงชุดนี้ทำให้ผู้ชมปลื้มปิติจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ส่วนการแสดงชุดอื่นๆ ก็สามารถตรึงสายตาผู้ชม ที่มาชมงาน พร้อมเรียกเสียงปรบมือ และรอยยิ้ม ได้ทุกชุดการแสดง ซึ่งการแสดงที่เลือกมา เป็นการแสดงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นความอ่อนช้อยของท่วงท่า และความสนุกคึกคักของดนตรี ความสวยงามของเครื่องแต่งกาย เช่น รำวงลาวกระทบไม้, ตีกลองสะบัดชัย, ฟ้อนร่มสันกำแพง, เซิ้งศิลปวัฒนธรรมอีสาน, ฟ้อนนกกิงกะหล่า และที่โดดเด่นที่สุดในครั้งนี้ คือได้นำการแสดงที่หาดูยากมาก อย่าง รำโนราตัวอ่อน ที่เป็น การแสดงนาฎโยคะที่งามสง่า และท่ารำที่เฉียบขาด คมชัด เพราะมีการดัดตัวให้อ่อนตามลีลาท่ารำ ปิดท้ายด้วยการขับร้องเพลงหมู่ซูบารุ ทั้งภาคภาษาไทยและอังกฤษ เพื่อเป็นการสร้างสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศไทยและญี่ปุ่น ซึ่งทุกคนก็ช่วยกันร้อง ประสานเสียงดังกระหึ่มรวมกันเป็นหนึ่ง ที่ประทับใจชาวอาทิตย์อุทัยยิ่งกว่านั้นคือ การได้เข้าร่วมฟ้อนรำ กันอย่างสนุกสนานของแฟนต้ายุวทูต และผู้ชมชาวญี่ปุ่น
เสร็จจากภารกิจการแสดง เหล่าแฟนต้ายุวทูตก็ได้ผ่อนคลายด้วยอาหารสุดแสนอร่อย จากแดนปลาดิบ อิ่มหนำได้ที่ก็ออนทัวร์กันต่อ แวะชมร้านขายของที่ระลึก ตลอดระยะทางของการท่องเที่ยว สัญชาตญาณความเป็นยุวทูต ยังไหลเวียนอยู่ทุกลมหายใจของชาวแฟนต้าฯ ไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็จะมีแต่รอยยิ้ม และการสร้างสัมพันธไมตรีที่ดี
ภารกิจของแฟนต้ายุวทูต ในงานเทศกาลไทยปีนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีของกลุ่มแฟนต้ายุวทูตได้มาแสดงความสามารถให้ชาวต่างชาติชม ทำให้เห็นว่าประเทศไทยเรามีศิลปวัฒนธรรม และมีการสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีไว้ให้เยาวชนรุ่นหลัง ที่สำคัญยังทำให้เห็นว่าประเทศไทยของเรามีเยาวชนที่เก่ง และมากความสามารถ อย่างแฟนต้ายุวทูต อีกด้วย
นานาทัศนะของแฟนต้ายุวทูต กับภารกิจทูตวัฒนธรรม
ฟองฟ้า ทองสมัคร์ แฟนต้ายุวทูต ปี 2545 จ.นครศรีธรรมราช
“หนูเห็นรอยยิ้มของชาวญี่ปุ่น ที่ชื่นชมการแสดงของพวกหนู รู้สึกภูมิใจที่เกิดมาเป็นคนไทย และมีศิลปวัฒนธรรมที่สวยงาม อยากให้คนไทยช่วยกันอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของเรา ขนาดชาวต่างชาติเขายังชื่นชอบวัฒนธรรมของเราเลย มาเยือนญี่ปุ่นครั้งนี้ ได้ไปเที่ยวบ้านเอกอัครราชทูตที่มีตำนานเก่าแก่ ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี และยังได้ไปใช้บริการรถไฟที่ญี่ปุ่น ตื่นเต้นค่ะ“
บดินทร์ ยืนชนม์ แฟนต้ายุวทูต ปี 2543 จ. ระยอง
“การไปญี่ปุ่นของพวกเราครั้งนี้ ดีใจที่ได้กลับมาทำหน้าที่อีกครั้ง ดีใจที่เราเป็นคนหนึ่งที่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นตัวแทนทำหน้าที่ทูตวัฒนธรรม ในครั้งนี้ผมประทับใจกับแฟนต้ายุวทูตทุกคน ที่ถึงแม้ว่าฝนจะตก อากาศหนาวแค่ไหน พวกเราทุกคนก็พร้อมจะแสดง ไม่มีถอย สิ่งที่ภูมิใจที่สุดกับตำแหน่งแฟนต้ายุวทูตคือ ก่อนที่จะได้เป็นตัวแทนเยาวชนไทย ทำหน้าที่เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม ที่นี่จะสอนอะไรเราหลายอย่าง ทำให้เราเรียนรู้ที่จะเข้าสังคมต่อไป”
จาราภิวันท์ ทวีสิทธิ์ แฟนต้ายุวทูต ปี 2533 จ.ขอนแก่น
“เป็นครั้งแรกที่ได้เดินทางไปเยือนญี่ปุ่น ถือว่าการมาครั้งนี้ เป็นการเรียนรู้วัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น ทำให้เรารู้ว่า ชาวญี่ปุ่นมีความเป็นระเบียบ พิถีพิถัน ดูจากเรื่องอาหารการกิน ที่เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง ส่วนในเรื่องการแสดง เรามีหน้าที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง แต่งตัวให้กับน้อง ๆ ดูความเรียบร้อยก่อนขึ้นเวที ถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ เพราะแต่ก่อนตอนเราเด็ก ๆ เราจะแต่งตัวเองและมีคนช่วยเรา ทุกอย่างสนุก ตื่นเต้น ต้องแข่งกับเวลา เรียนรู้การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ถือว่าเราได้ทำงานจริง ๆ ความภาคภูมิใจของการเป็นแฟนต้ายุวทูต คือการมีความสุขที่ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มใจ ไม่ใช่การบังคับ“
น้ำภูฟ้า เพชรแก้ว แฟนต้ายุวทูต ปี 2543 จ. เชียงใหม่
“น้องข่าวได้ฝึกซ้อมรำอยู่เป็นประจำ พอได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนไปเผยแพร่วัฒนธรรม รู้สึกดีใจ และเราก็มุ่งมั่น ตั้งใจซักซ้อมการแสดง การแสดงที่เราโชว์คือ การแสดงชุดพ่อของแผ่นดิน, ฟ้อนร่มสันกำแพง, รำลาวกระทบไม้, ฟ้อนนกกิงกะหล่า ที่สำคัญเรายังได้ทำหน้าที่ทูตวัฒนธรรม โดยพวกเรามีโอกาสได้ทักทายพูดคุยกับผู้ที่มาชมการแสดงของเรา และหนูก็สอนเขาพูดภาษาไทย เช่น การกล่าวคำว่าสวัสดี, ขอบคุณ และยังแนะนำการไหว้แบบไทยด้วย”
ชนม์ธิภา พิริยะกูลธร แฟนต้ายุวทูต ปี 2545 จ.นครปฐม
“ดีใจค่ะ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแฟนต้ายุวทูต เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทย ครั้งนี้พวกเราเตรียมการแสดงไป 15 ชุด ชุดการแสดงที่หนูได้แสดง และชอบที่สุดคือ ชุดฟ้อนนกกิงกะหล่า เครื่องแต่งกายโดดเด่น สวยงาม และอลังการมาก มีปีกใหญ่เหมือนนก มีคนญี่ปุ่นที่ชื่นชอบ มาขอถ่ายรูปเยอะแยะเลย ก่อนจะแสดงก็มีความกลัวบ้าง เพราะฝนตก ลมแรง อากาศหนาว แต่เพราะได้กำลังใจจากเพื่อนแฟนต้า ความกลัวก็หายไป และเมื่อเป็นแฟนต้ายุวทูตแล้ว ต้องสู้ ๆ “
ดุษฎี อารีย์ทาน แฟนต้ายุวทูต ปี 2545 จ. สงขลา
“น้องแอมป์เอาการแสดงที่เป็นเอกลักษณ์ของภาคใต้ คือ รำโนราตัวอ่อน ไปแสดงที่ญี่ปุ่นค่ะ เป็นการแสดงที่เราภูมิใจ ก่อนจะไปก็ซ้อมรำทุกวัน มีคุณครู และคุณพ่อคุณแม่เป็นกำลังใจให้ ทั้งยังเตรียมชุด และอุปกรณ์การแสดงไปด้วย พอได้เห็นชาวญี่ปุ่นที่มาดูเราก็เยอะมาก ก็หายเหนื่อยเลย ภูมิใจที่สุดที่ได้เป็นแฟนต้ายุวทูต ภูมิใจที่มีคนเรียกเราว่า “แฟนต้ายุวทูต” ตอนไปเผยแพร่วัฒนธรรมที่ญี่ปุ่น เรายังได้เป็นตัวแทนคนไทย ที่เป็นตัวอย่างที่ดี เช่น เราเดินกันเป็นแถว คนที่ญี่ปุ่นก็จะมองแล้วยิ้มชื่นชมเรา”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัทแม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร. 0-2434-8300
สุจินดา, แสงนภา, ชลธิชา
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net