กรุงเทพฯ--29 ก.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศและให้แนวโน้มอันดับเครดิต (rating outlook) แก่หุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัท อีเทอนอล 3 นิติบุคคลเฉพาะกิจ จำกัด หรืออีเทอนอล 3 ดังต่อไปนี้
- หุ้นกู้ชุด A-1 มูลค่า 1.5 พันล้านบาท ที่ระดับ ‘AAA(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- หุ้นกู้ชุด A-2 มูลค่า 500 ล้านบาท ที่ระดับ ‘AAA(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- หุ้นกู้ชุด B มูลค่า 120 ล้านบาท ที่ระดับ ‘AA(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- หุ้นกู้ชุด C มูลค่า 160 ล้านบาท ที่ระดับ ‘A(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ
การประกาศคงอันดับเครดิตสะท้อนถึง คุณภาพและผลการดำเนินงานของกลุ่มลูกหนี้บัตรเครดิตภายใต้โครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ ส่วนช่วยสนับสนุนเครดิตของโครงการ (credit enhancement) และโครงสร้างทางกฎหมายที่รัดกุม ฟิทช์ติดตามผลการดำเนินงานของกลุ่มลูกหนี้บัตรเครดิตจากตัวแปรหลักสามตัวได้แก่ รายได้จากกลุ่มลูกหนี้และรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย (yield and excess spread) อัตราส่วนลูกหนี้ผิดนัด (default rate) และอัตราการชำระหนี้คืนรายเดือนเมื่อเทียบกับยอดลูกหนี้ (monthly payment rate) ซึ่งนับตั้งแต่วัน closing ในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ผลการดำเนินงานในส่วนของรายได้จากกลุ่มลูกหนี้และรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายรวมถึงอัตราส่วนลูกหนี้ผิดนัด อยู่ในระดับที่สอดคล้องกับสมมติฐานพื้นฐานของฟิทช์ ในขณะที่อัตราการชำระหนี้คืนรายเดือนเมื่อเทียบกับยอดลูกหนี้อยู่ต่ำกว่าระดับสมมติฐานพื้นฐานของฟิทช์ไม่มากนัก ทั้งนี้ นับตั้งแต่วัน closing โครงการสามารถรักษาระดับของส่วนช่วยสนับสนุนเครดิตให้อยู่ในระดับที่สอดคล้องกับอันดับเครดิตของหุ้นกู้ทุกชุดได้
จากการที่หุ้นกู้ชุด A-1 ได้เริ่มเข้าสู่ช่วงสะสมคืนเงินต้นในเดือนมิถุนายน 2551 ส่งผลให้ระดับของส่วนช่วยสนับสนุนเครดิตในเดือนสิงหาคม 2551 อยู่ที่ระดับ 31.1% สำหรับหุ้นกู้ชุด A-1 และ A-2 ที่ระดับ 25.4% สำหรับหุ้นกู้ชุด B และที่ระดับ 17.7% สำหรับหุ้นกู้ชุด C เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับระดับ 24.5% สำหรับหุ้นกู้ชุด A-1 และ A-2 ระดับ 20% สำหรับหุ้นกู้ชุด B และระดับ 14% สำหรับหุ้นกู้ชุด C ณ วัน closing ระดับของส่วนช่วยสนับสนุนเครดิตคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงสะสมคืนเงินต้นของหุ้นกู้ชุด A-1 และจะค่อยๆ ลดลงหลังจากหุ้นกู้ชุด A-1 ได้รับการชำระคืนเงินต้นเต็มจำนวนแล้ว เนื่องจากโครงการสามารถชำระคืนเงินกู้ด้อยสิทธิบางส่วนหลังจากมีการไถ่ถอนหุ้นกู้ชุด A-1 ทั้งหมด หลังจากนั้น เมื่อเงินกู้ด้อยสิทธิได้รับการชำระคืนตามจำนวนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ระดับของส่วนช่วยสนับสนุนเครดิตคาดว่าจะลดลงมาต่ำสุดอยู่ที่ระดับ 44.9% สำหรับหุ้นกู้ชุด A-2 ระดับ 31.6% สำหรับหุ้นกู้ชุด B และระดับ 14% สำหรับหุ้นกู้ชุด C
การให้แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพสำหรับหุ้นกู้ชุด A-1 หุ้นกู้ชุด A-2 และหุ้นกู้ชุด B สะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ที่คาดว่าระดับของส่วนช่วยสนับสนุนเครดิตจะสามารถรักษาอันดับเครดิตในปัจจุบันของหุ้นกู้ดังกล่าวได้ ถึงแม้ว่าผลการดำเนินงานในอนาคตของกลุ่มลูกหนี้บัตรเครดิตภายใต้โครงการจะได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนตัวลง ในขณะเดียวกัน การให้แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบสำหรับหุ้นกู้ชุด C บ่งชี้ถึงความกังวลของฟิทช์ต่อผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนตัวลงต่อหุ้นกู้ชุดนี้ เนื่องจากหุ้นกู้ชุด C มีความสามารถที่จะรองรับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนตัวได้น้อยกว่าเมื่อเทียบกับหุ้นกู้ชุดอื่นๆ
อันดับเครดิตของฟิทช์ แสดงถึงความสามารถในการชำระดอกเบี้ยตามที่กำหนดและชำระคืนเงินต้นได้ครบภายในวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้วันสุดท้าย (legal final maturity date) ในเดือนมีนาคม 2554 สำหรับหุ้นกู้ชุด A-1 และในเดือนมีนาคม 2556 สำหรับหุ้นกู้ชุด A-2 หุ้นกู้ชุด B และหุ้นกู้ชุด C โดยอันดับเครดิตไม่ได้สะท้อนถึงความน่าจะเป็นของการทยอยชำระคืนเงินต้นก่อนครบกำหนด (early amortisation) และระดับของส่วนช่วยสนับสนุนเครดิตไม่มีผลต่อความน่าจะเป็นของการทยอยชำระคืนเงินต้นก่อนครบกำหนดดังกล่าว
โครงการนี้เป็นการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ประเภทกลุ่มลูกหนี้บัตรเครดิตครั้งที่ 2 ของบริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน หรือ อิออน ซึ่งประกอบธุรกิจให้สินเชื่อแก่ลูกค้ารายย่อย และปัจจุบันมีอันดับเครดิตภายในประเทศอยู่ที่ ‘BBB+(tha)’/’F2(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ โดยหุ้นกู้ชุด A-1 อยู่ในช่วงสะสมคืนเงินต้น ในขณะที่หุ้นกู้ชุดอื่นๆ ยังอยู่ในช่วงการซื้อขายสิทธิเรียกร้องเพิ่มเติม อีเทอนอล 3 มียอดลูกหนี้บัตรเครดิตที่ระดับ 2.6 พันล้านบาท ในเดือนสิงหาคม 2551
ฟิทช์ได้มีการประกาศให้แนวโน้มอันดับเครดิตสำหรับโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2551 โดยแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นตัวบ่งชี้ถึงทิศทางการเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตในระยะ 1 — 2 ปีข้างหน้า ซึ่งต่างจากเครดิตพินิจ (rating watch) ที่เป็นตัวบ่งชี้ถึงการมีความเป็นไปได้ที่อันดับเครดิตจะมีการเปลี่ยนแปลงในระยะสั้นสืบเนื่องจากเหตุการณ์บางอย่าง
สำหรับรายงานฉบับนี้หาได้จาก www.fitchratings.com หรือ www.fitchratingsasia.com
ติดต่อ: อรวรรณ การุณกรสกุล, นภจักร ผาสุกวนิช, Vincent Milton + 662 655 4755
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) เป็นการวัดระดับความน่าเชื่อถือในเชิงเปรียบเทียบกันระหว่างองค์กรในประเทศนั้นๆ โดยจะใช้ในประเทศที่อันดับเครดิตแบบสากลของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ อันดับเครดิตขององค์กรที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ ‘AAA’ และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับองค์กรที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในตลาดในประเทศเป็นหลักและจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น ‘AAA(tha)’ ในกรณีของประเทศไทย ดังนั้นอันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฎข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน