ทริสเรทติ้งเพิ่มอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ “บ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น” เป็น “A+” จาก “A” ด้วยแนวโน้ม “Stable”

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 30, 2008 08:35 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 ก.ย.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและตราสารหนี้ของ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (TAC) เป็นระดับ “A+” จากเดิม “A” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงความแข็งแกร่งในการแข่งขันของบริษัทในฐานะผู้ประกอบการธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่อันดับ 2 ของไทย และความสามารถของคณะผู้บริหารในการรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดของบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในช่วงที่การแข่งขันมีความรุนแรง นอกจากนี้ การประเมินอันดับเครดิตยังพิจารณาถึงฐานะทางการเงินของบริษัทที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวมีข้อจำกัดบางประการจากการแข่งขันที่ยังคงรุนแรง ตลอดจนความต้องการเงินลงทุนจำนวนมากในอีก 2-3 ปีข้างหน้า และความไม่แน่นอนทางด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายว่าบริษัทจะยังคงความสามารถในการแข่งขันและสร้างเงินทุนจากการดำเนินงานที่เพียงพอสำหรับการขยายโครงข่ายได้โดยไม่ส่งผลให้ระดับของเงินกู้ยืมสูงมากขึ้นจากปัจจุบัน แนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความคาดหมายว่ากฎระเบียบด้านสื่อสารโทรคมนาคมจะไม่ส่งผลกระทบในด้านลบต่อผลประกอบการและฐานะทางการเงินของบริษัท
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่นมีรายได้ในปี 2550 จำนวน 65.6 พันล้านบาท บริษัทมีลูกค้า ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2551 จำนวนทั้งสิ้น 17 ล้านคน โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 30% ความแข็งแกร่งทางด้านธุรกิจของบริษัทมาจากความสามารถในการสร้างมูลค่าตราสินค้าและการรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดเอาไว้ได้ ความสำเร็จนี้แสดงถึงการดำเนินกลยุทธ์ที่ดีในตลาดที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บริษัทใช้กลยุทธ์ที่มุ่งเน้นความคุ้มค่าของราคา โดยบริการใหม่ๆ หลากหลายรูปแบบของบริษัทได้รับการตอบสนองอย่างดีจากผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ บริษัทได้รับประโยชน์จากการลงทุนของ Telenor ASA ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านการสื่อสารโทรคมนาคมจากประเทศนอร์เวย์ในรูปของความช่วยเหลือทางการบริหาร โดยผู้แทนจาก Telenor ASA ดำรงตำแหน่งสำคัญทางด้านบริหารและกรรมการในบริษัท คุณภาพอันดับเครดิตของบริษัทยังได้รับการสนับสนุนเพิ่มขึ้นจากฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง ในขณะที่โครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ก็ครอบคลุมกว่า 90% ของประเทศ ทริสเรทติ้งเห็นว่าสัดส่วนทางการตลาดที่แข็งแกร่งช่วยสร้างความได้เปรียบในด้านการประหยัดจากขนาด (Economies of Scale) เสริมความสามารถในการขยายบริการใหม่ ๆ อีกทั้งยังช่วยให้บริษัทมีรายได้และกระแสเงินสดที่มีความมั่นคงมากขึ้น บริษัทวางแผนในการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วยเทคโนโลยี 3G บนคลื่นความถี่ 850 เมกะเฮิรตซ์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2552 และจะให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศภายในอีก 3 ปีข้างหน้าโดยต้องใช้งบลงทุนประมาณ 5 พันล้านบาท
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า อุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทยมีลักษณะเป็นแบบผู้แข่งขันน้อยรายแต่มีการแข่งขันที่สูง ในครึ่งแรกของปี 2551 อัตราการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ต่อจำนวนประชากรในประเทศไทยอยู่ที่ระดับ 90% แรงขับเคลื่อนที่สำคัญในการเติบโตอยู่ที่กลยุทธ์การลดอัตราค่าโทร ซิมการ์ดราคาถูก และการขยายเครือข่ายสู่ต่างจังหวัด ขณะนี้ตลาดการให้บริการทางเสียง (Voice Service) น่าจะถึงจุดอิ่มตัวแล้ว ในขณะที่ตลาดการให้บริการทางด้านข้อมูล (Non-voice Service) ยังมีโอกาสในการเติบโตที่ดีอยู่ ในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า จำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือน่าจะเติบโตได้อีกประมาณ 8%-10% ต่อปี โดยรายได้ในอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้นประมาณ 4%-6% ต่อปี ส่วนตลาดบริการทางด้านข้อมูลซึ่งมีประมาณ 10% ของตลาดรวมจะมีบทบาทเพิ่มสูงขึ้นในระยะต่อไป ปัจจุบันกฎระเบียบด้านโทรคมนาคมยังคงเป็นปัจจัยที่มีผลกระทบในด้านลบต่ออุตสาหกรรมเนื่องจากยังไม่มีความแน่นอน อีกทั้งยังมีคดีฟ้องร้องอีกเป็นจำนวนมากที่ค้างอยู่ในศาล
บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่นมีความแข็งแกร่งทางการเงินที่เพิ่มสูงขึ้นด้วยสาเหตุหลักจากการใช้ค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (Interconnection Charge) มาแทนค่าเชื่อมโยงเครือข่าย (Access Charge) อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้จากการขายในครึ่งแรกของปี 2551 อยู่ที่ 32.3% ในขณะที่อัตราส่วนดังกล่าวเมื่อไม่รวม Interconnection Charge แล้วอยู่ที่ 40.9% เปรียบเทียบกับ 41.8% ในปี 2550 และ 36.3% ในปี 2549 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนปรับตัวดีขึ้นจากระดับที่เกินกว่า 50% ในปี 2548 เป็น 38.4% ณ เดือนมิถุนายน 2551 และอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมของบริษัทยังเพิ่มขึ้นเกือบเป็น 2 เท่าจากปี 2547 ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากผลประกอบการที่ดีขึ้นและเงินเพิ่มทุนจำนวน 3.1 พันล้านบาทที่ได้จากการเสนอขายหุ้น งบประมาณการลงทุนเพื่อรองรับเทคโนโลยี 3G คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคตอันใกล้ และอาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถนำเงินจากการดำเนินงานมาใช้ลดภาระหนี้ไปสักระยะหนึ่ง ทริสเรทติ้งกล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ