กรุงเทพฯ--28 มิ.ย.--มาสเตอร์ มายด์
“กระเบื้องหลังคาตราเพชร” หรือ DRT ปรับแผนบุกครึ่งปีหลัง ขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ สวนกระแส ไม่หวั่นอสังหาฯ ชะลอตัว พร้อมเดินหน้าขยายสายการผลิตเพิ่มภายในปีนี้
นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายและการตลาด บริษัทกระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องหลังคาและไม้ฝาสังเคราะห์ “ตราเพชร“ ”อะดามัส” และ“เจียระไน” ผลิตภัณฑ์น้องใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวในงานสถาปนิก”49 เปิดเผยว่า แม้ว่าทิศทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังมีแนวโน้มชะลอตัว เนื่องจากปัจจัยลบ ทั้งราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย และเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงสถานการณ์การเมืองที่ยังไม่คลี่คลาย แต่ปัจจัยดังกล่าวก็ยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัทฯ มากนัก เพราะว่ายอดขายหลักของบริษัทฯ มาจากตัวแทนจำหน่ายถึง 90% ในขณะที่สินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ ‘เจียระไน’ ซึ่งประกอบไปด้วย ผลิตภัณฑ์หลังคาและไม้สังเคราะห์รูปแบบต่างๆ ที่เปิดตัวไปเมื่อไม่นานนี้ก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้บริโภค ซึ่งถือว่าเป็นนิมิตรหมายอันดี สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าว โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้ ที่ตอนนี้ทั้งรีสอร์ทและโรงแรมผุดขึ้นอย่างมากมาย
“สาเหตุที่พื้นที่ในเขตดังกล่าว มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์เจียระไน เนื่องมาจากหลายจังหวัดในภูมิภาคนี้เป็นโซนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐเป็นอย่างมาก ทำให้บ้านตากอากาศ โรงแรมและรีสอร์ตขนาดต่างๆเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จุดนี้เองก็ส่งผลดีกับเรา ผู้ประกอบการธุรกิจที่พักอาศัยก็ได้ให้ความไว้วางใจเลือกผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯเข้าไปใช้ในโครงการ ด้วยรูปลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ที่สวย โดดเด่น สีสันสะดุดตา มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนั้นยังผลิตด้วย Green Technology ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งนอกจากจะไม่มีส่วนผสมของใยหินแล้ว ยังมีนำหนักเบา ทำให้ประหยัดค่าโครงสร้างเมื่อนำไปติดตั้ง และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการสัมผัสกับความรู้สึกที่สงบ เป็นธรรมชาติ ซึ่งผลิตภัณฑ์ของเราเติมเต็มความรู้สึกดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ” นายสาธิตกล่าว
ปัจจุบันอุตสาหกรรมกระเบื้องหลังคาและไม้ฝาสังเคราะห์มีผู้ผลิตอยู่เพียงไม่กี่ราย การแข่งขันในอุตสาหกรรมกระเบื้องหลังคาจึงค่อนข้างรุนแรง โดยเป็นการแข่งขันทั้งทางด้านราคาและมีการเพิ่มมูลค่าในเชิงสีสัน รูปลักษณ์ โปรแกรมส่งเสริมการขาย บริการหลังการขาย เป็นหลัก
นอกจากนี้ อุตสาหกรรมกระเบื้องหลังคาก็มีขั้นตอนการผลิตที่ไม่ซับซ้อน ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีไม่สูง แต่ใช้เงินลงทุนสูง ผู้ผลิตจึงจำเป็นต้องเน้นการแข่งขันในด้านกลยุทธ์ทางการตลาดเป็นอย่างมาก
รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายและการตลาด บมจ.กระเบื้องหลังคาตราเพชร ยังกล่าวด้วยว่า ในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ เน้นการทำการตลาดแบบ CRM เข้ามากระตุ้นยอดขายและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างผู้แทนจำหน่ายและบริษัทฯ ให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ บริษัทมีตัวแทนจำหน่ายในประเทศกว่า 600 ราย ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังหวังเพิ่มฐานลูกค้าในส่วนงานโครงการ นอกเหนือจากเดิมที่มีอยู่ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของเรามีความหลากหลายสามารถรองรับความต้องการของลูกค้างานโครงการได้ครบทุกกลุ่มเป้าหมาย ยิ่งไปกว่านั้นในปัจจุบันเรามีบริการเหมามุงซึ่งถือว่าเป็นงานบริการหลังการขายที่จะช่วยให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะสะดวก รวดเร็ว ราคาประหยัด นอกจากนั้น เรายังมีผู้แทนจำหน่ายในตลาดเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา จีน ลาว พม่า เกาหลี ไต้หวัน และน่าจะเพิ่มมากขึ้นอีกในอนาคต เพราะบริษัทฯ มีแผนขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศในโซนตะวันออกกลาง ( Middle East ) เพราะกลุ่มประเทศดังกล่าวมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงอย่างต่อเนื่องมาตลอด
สำหรับภาพรวมส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทฯ แบ่งเป็นผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ 14% กระเบื้องหลังคาคอนกรีต 16% และโดยเฉพาะไม้ฝาสังเคราะห์ ซึ่งบริษัทฯ สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดถึง 24% อยู่เป็นอันดับ 2 ในตลาด
ทั้งนี้แผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้ บริษัทตั้งเป้าขยายไปยังตลาดต่างประเทศมากขึ้น จากเดิมที่ส่งออกเพียง 5% โดยจะขยับเพิ่มเป็น 10% ให้ได้ภายใน 1- 2 ปี และจะมีการผลักดันสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดเพื่อให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ส่วนทางด้านกำลังการผลิต ขณะนี้บริษัทมีกำลังการผลิตรวม 4.5 แสนตัน และอยู่ระหว่างการเพิ่มกำลังการผลิตคาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปีนี้
นายสาธิตยังกล่าวอีกว่า เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เราจะเดินไปตามแผนในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทฯ ได้เร่งที่จะดำเนินโครงการการติดตั้งเครื่องจักรสำหรับการผลิตกระเบื้องคอนกรีตสายการผลิตใหม่ (CT-5) ซึ่งจะติดตั้งเครื่องจักร พร้อมเดินเครื่องผลิตสินค้าได้ในไตรมาส 3 ของปีนี้ให้แล้วเสร็จตามช่วงเวลาที่กำหนด ในส่วนของสายการผลิตไม้ฝา (โครงการ NT-8) จะสามารถเดินเครื่องผลิตสินค้าได้ประมาณปลายไตรมาสที่ 4 ซึ่งหากเครื่องจักรทั้งหมดติดตั้งเรียบร้อย บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถรองรับความต้องการของตลาดได้อย่างแน่นอน
รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ:
คุณวารุณี คำไชย (แนน)
โทร: 0-2643-1191-2 หรือ 0-1496-6762
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net