สร้างคน สร้างอนาคต สร้างชาติ ร่วมกันสมทบทุน ศูนย์อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม บ้านสว่างอารมณ์

ข่าวทั่วไป Wednesday October 1, 2008 08:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ต.ค.--โครงการศูนย์อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม
โครงการศูนย์อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมแห่งนี้ เริ่มดำเนินมาตั้งแต่ปีการศึกษา 2549 เป็นต้นมา จวบจนถึงปัจจุบัน โดยการดูแลของ พระชัยพัชร์ กิตติวโร พระเถระ คณะเหนือ วัดราชาธิวาส กรุงเทพมหานคร
พระชัยพัชร์ กิตติวโร วัดราชาธิวาส ประธานมูลนิธิเด็ก เยาวชน คนชรา และ ประธานมูลนิธิอาหารกลางวันนักเรียนขาดแคลน ประธานโครงการฯ กล่าวว่า ”หากมองไปรอบๆตัวในสังคมบ้านเราปัจจุบัน ด้วยสายตาวิเคราะห์และวิจารณ์ พบว่า มีเรื่องน่าเป็นห่วงมากมายนัก และยิ่งถ้าคิดไปไกลถึงอนาคตของชาติอย่างเด็กและเยาวชนของเราด้วยแล้ว ก็ยิ่งน่าเป็นห่วงเพิ่มมากขึ้นทวีคูณ เพราะเมื่อนำหลักชีวิตของสังคมที่ดีที่มีระเบียบวินัยและจิตสำนึกเพื่อส่วนรวม สุขภาพที่ดีทั้งกาย ใจ การยึดมั่นวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม เจตคติและค่านิยมไทยฯ มามองกันดีๆแล้วจะพบว่า .สังคมไทยเรานั้น กำลังอ่อนแอลงไปเรื่อยๆ อย่างน่าเป็นห่วง.”
”บางอย่างมีค่าเป็นสูญ เช่น เรื่องวินัยและภัยมืดบางอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภัยที่เกิดจากเหตุการณ์ในจังหวัดภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย รวมทั้งภัยจากยาเสพติด ภัยลัทธินิยมตะวันตกฯ ซึ่งกำลังเกาะกุมสังคมเราให้ทรุดโทรมลงไปทุกวัน และอาจถึงขั้นสิ้นชาติได้ในอนาคต หากทุกคนในชาติไม่ร่วมกันปลูกฝังสิ่งดีงาม ป้องกันปราบปรามอย่างจริงจังและต่อเนื่อง แม้เราจะมีพระพุทธศาสนาสถิตอยู่ ก็ไม่สามารถต้านทานกระแสโลกาภิวัตน์ฯ อันทรงพลังนี้ได้ เพราะเราขาดการจัดการที่เป็นระบบในบ้านเมือง ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ยิ่งผู้ด้อยกำลังและด้อยโอกาสตามธรรมชาติในสังคม เช่น เด็ก เยาวชน คนชรา ชาวนา ที่ยากจน กรรมกรผู้ใช้แรงงานที่หาเช้ากินค่ำแล้ว ก็จะยิ่งถูกละเลยทิ้งขว้างให้เผชิญชีวิตไปตามยถากรรมอย่างน่าสลดใจ เด็กๆเติบโตขึ้นมาแบบไร้จุดหมายปลายทาง หรือแม้แต่ผู้มีโอกาสที่มีกำลังเอง กล่าวคือประชาชนคนธรรมดาทั่วไปก็ตาม ก็ยังไม่สามารถดำเนินชีวิตตัวเองบนโลกใบนี้ได้อย่างราบรื่นและเป็นสุขเช่นกัน”
ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ รวมถึงประชาชนคนอื่นๆ จะยกให้เป็นภาระหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องแก้ไข แต่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องร่วมกันรับผิดชอบ เพราะทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของสังคม จึงควรจะเริ่มต้นที่ตนเอง ให้ได้ก่อน รวมถึงช่วยกันปลูกฝังไปยังเด็กและเยาวชนบุคคลที่เราถือให้เป็นอนาคตของชาติ ให้มีสำนึกเดียวกันด้วย
”ฉะนั้นแล้ว การกระทำใดๆ ของแต่ละคนหรือกลุ่มชนใดก็ตาม ไม่ว่าทางดีหรือทางร้าย ย่อมส่งผลกระจายถึงสังคมและเยาวชน ไปตามอัตราส่วนพลังของการกระทำนั้นๆ จึงถึงเวลาแล้ว ที่เราทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจกัน พัฒนาสังคมไทยให้ทัดเทียมกันกับสังคมอารยประเทศทั้งหลาย เพื่อให้พฤติกรรมของเด็ก เยาวชน ฯลฯ ที่ไม่พึงประสงค์ ไม่สร้างสรรค์ ได้เลือนหายไปจากสังคมไทย แล้วหันมาปลูกฝังเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม ปลูกจิตสำนึกค่านิยมไทย ศิลปวัฒนธรรม เอกลักษณ์ของชาติ แก่กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ เด็ก เยาวชน ลูกชาวนาที่ยากจน เด็กกำพร้า จากภาคใต้ตอนล่าง และจากตำบลชะแล้ ตำบลลางเขียด ตำบลรำแดง ตำบลท่าแดง ตำบลปากรอ ตำบลม่วงงาม ตำบลวัดขนุน ฯลฯ ในอำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ...โครงการฯ ดังกล่าวจึงเกิดขึ้น ด้วยมุ่งหวังที่จะสร้างคน สร้างอนาคต สร้างชาติ... ต่อไป” พระชัยพัชร์ กล่าวในตอนท้าย
สำหรับประชาชน ผู้ที่สนใจ หรือต้องการร่วมบริจาคเงินเพื่อเป็นงบประมาณในการบริหารจัดการโครงการ ”ศูนย์อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม” ดังกล่าว สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ พระชัยพัชร์ กิตติวโร วัดราชาธิวาสวิหาร ประธานมูลนิธิเด็ก เยาวชน คนชรา และ ประธานมูลนิธิอาหารกลางวันนักรียนขาดแคลน โทร. 02-668-8238 , 086-891-4650 คุณนิวิต หะนนท์ (074-324-253 , 085-077-0237) และ คุณธัญญพัฒน์ นวลศิลป์ (089-298-8718) กรรมการโครงการฯ หรือ คุณวสีนาท สุขทิศ 089-457-0567 ผู้ช่วยประสานงานโครงการฯ
รายละเอียดโครงการ “ศูนย์อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม
สถานที่
หมู่ 2 บ้านสว่างอารมณ์ ตำบลชะแล้ อำเภอสิงหนคร จังหวดสงขลา
วัตถุประสงค์
1. เพื่อเป็นศูนย์รวมชุมชนทางด้านจิตใจ และเป็นที่ประกอบกิจกรรมของชุมชนให้กับประชาชนทุกเพศทุกวัย
2. ใช้เป็นสถานที่ประชุม ฝึกอบรม จัดสัมมนา ขององค์กร หน่วยงาน นักเรียน นิสิตนักศึกษา กลุ่มสตรี แม่บ้าน ประชาชนทั่วไป
3. ใช้เป็นค่ายพักแรมลูกเสือ เนตรนารี หรือจัดบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน เข้าค่ายพุทธบุตรฯฝึกอบรมเด็กและเยาวชน คนชรา จากบ้านพักและบุคคลทั่วไป
4. เป็นศูนย์ศิลปวัฒนธรรมเพื่อฝึกอบรมเด็กและเยาวชน หรือบุคคลทั่วไป ที่มีใจรักทางด้านการแสดงต่างๆ รวมทั้งการกีฬา ให้ได้รับการฝึกอบรมจากภูมิปัญญาท้องถิ่น จากบุคลากรจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลาและอาสาสมัคร เพื่อให้มีโอกาสได้แสดงออกซึ่งความรู้ความสามารถ พรสวรรค์ ให้ประจักษ์แก่ชุมชนและสังคมประเทศชาติในอนาคต
5. ใช้เป็นที่ตั้งพิพิธภัณฑ์ภาคใต้ เพื่อการค้นคว้า ศึกษา เรียนรู้ของเด็กและเยาวชนรุ่นหลัง
6. ใช้เป็นศูนย์สงเคราะห์เด็กเยาวชน คนชรา และผู้ควรแก่การสงเคราะห์ทุกเพศทุกวัย รวมทั้งให้ทุนการศึกษาแก่บุตรหลานชาวนาที่เรียนดีแต่ยากจน
7. เป็นศูนย์ส่งเสริมสุขภาพอนามัย ที่ออกกำลังกาย เล่นกีฬา และเป็นที่พักผ่อน
8. เป็นที่ตั้งสำนักงานมูลนิธิเด็กและเยาวชน คนชรา และมูลนิธิอาหารกลางวันให้กับนักเรียนขาดแคลนโรงเรียนวัดชะแล้ฯ
9. เป็นที่ตั้งศูนย์รวมข่าว กระจายข่าว เสียงตามสายและห้องสมุดชุมชน
10. เป็นสถานที่ตั้งชมรมผู้สูงอายุ ชมรมอาสาสมัคร ฝึกอบรมลูกเสือชาวบ้านฯ
กลุ่มเป้าหมาย
1. เด็กกำพร้าผู้ด้อยโอกาส เด็กยากจน ในตำบลชะแล้และตำบลใกล้เคียง รวมถึงเด็กๆทั่วไปไม่จำกัดศาสนา
2. เด็กและเยาวชน รวมถึงผู้ที่สนใจและมีใจรักในศิลปวัฒนธรรมการแสดงต่างๆ และการกีฬาฯ
3. กลุ่มสตรี แม่บ้าน และผู้สูงอายุ
4. ภูมิปัญญาท้องถิ่น อาสาสมัคร
5. สาธุชนผู้มีจิตเป็นกุศล ผู้ใฝ่ธรรมะ ปฏิบัติธรรม และรักสันติ
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. เด็กกำพร้า เด็กด้อยโอกาส เด็กยากจน รวมทั้งผู้สูงอายุ จะได้รับการสงเคราะห์จากมูลนิธิฯ ทั้งสอง ตามอัตภาพ
2. เด็กและเยาชนผู้มีใจรักทางด้านการแสดง การศึกษา จะได้รับการฝึกอบรม จากบุคลากรต่างๆ จนเกิดทักษะ เพื่อความสำเร็จในภายภาคหน้า
3. เด็ก เยาวชน และผู้มีใจรักด้านการแสดง จะเกิดความหวัง กำลังใจ ความสุข และอาจมีอนาคตรุ่งโรจน์ ยึดเป็นอาชีพได้
4. สาธุชนผู้ใฝ่ธรรมะ จะมีโอกาสได้รักษาศีลปฏิบัติธรรม ฝึกสมาธิ บำเพ็ญ ภาวนาตามกำลังศรัทธา มีความหวัง มีกำลังใจ มีความสุข ความสงบ มี สุขภาพกาย สุขภาพจิตที่ดี มีอายุยืน
5. นักเรียน นิสิต นักศึกษา องค์กร หน่วยงานต่างๆ ที่สนใจและมีใจรัก
6. เป็นที่ตั้งของศูนย์ปฏิบัติธรรม ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม พิพิธภัณฑ์ภาคใต้
7. เป็นที่ตั้งของสำนักงานมูลนิธิทั้งสอง ห้องสมุด ศูนย์รวมข่าว ห้องสมุดชุมชน ที่ตั้งชมรมผู้สูงอายุ ชมรมอาสาสมัคร ลานดนตรีและกีฬา สถานที่พักผ่อนของ ชุมชนทุกเพศทุกวัย
8. จะมีส่วนร่วมกับภาครัฐบาล ภาคเอกชน ชุมชน สังคม ในการลดปัญหาครอบครัว สังคม เศรษฐกิจ รวมทั้งปัญหาของเด็กและเยาวชน เช่น ปัญหา ยาเสพติด การเลือกคบเพื่อนเกเร เที่ยวเตร่ การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร (ที่จะส่งปัญหาตามมาอย่างเช่น การติดโรคร้าย เด็กถูกทอดทิ้ง การถูกลงโทษ และทำร้ายทั้งทางร่างกายและจิตใจ) รวมถึงปัญหาผู้สูงอายุที่ถูกทอดทิ้ง
9. เป็นสถานที่เพื่อทำการประสานความรัก ความสามัคคี และประสานรอยร้าวฉานต่างๆของชุมชน สังคมฯ เพื่อจะได้เกิดความสงบสุขมากยิ่งขึ้น
ผู้รับผิดชอบโครงการฯ
1. พระชัยพัชร์ กิตติวโร
2. คณะกรรมการตำบลชะแล้
3. องการบริหารส่วนตำบลชะแล้
4. สถานศึกษาระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษาในตำบลชะแล้
5. กลุ่มวัฒนธรรมตำบลชะแล้ และกลุ่มสตรีแม่บ้านตำบลชะแล้
บุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
1. กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
2. ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา
3. องค์กรสงเคราะห์ จังหวัดสงขลา
4. นายอำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา
5. พัฒนาการอำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา
6. คณะกรรมการตำบลชะแล้ฯ
7. องค์การบริหารส่วนตำบลชะแล้ฯ
8. กลุ่มสตรี-แม่บ้าน
9. ภูมิปัญญาท้องถิ่น และอาสาสมัคร
งบประมาณก่อสร้าง (จนแล้วเสร็จตามแบบสถาปัตยกรรม) ประกอบด้วย
1. งานพื้น
2. งานผนัง
3. งานฝ้าเพดาน
4. งานหลังคา
5. งานทาสี
6. งานวิศวกรรมสุขาภิบาล
7. งานวิศวกรรมไฟฟ้า
รวมทั้งอุปกรณ์ครุภัณฑ์ สุขภัณฑ์ เวชภัณฑ์ และอาคารบ้านพักเด็กกำพร้า บ้านพักคนชรา บ้านพักพ่อบ้านและแม่บ้าน โรงอาหาร โรงครัว รวมทั้งอุปกรณ์และภาชนะหุงต้ม ถ้วยชาม อุปกรณ์การเกษตร อุปกรณ์กีฬา เครื่องดนตรี สนามกีฬา ชุดสระน้ำ ศาลาริมสระน้ำ และเงินทุนอาหารกลางวัน ทุนการศึกษา ฯลฯ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 20 ล้านบาทถ้วน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ พระชัยพัชร์ กิตติวโร วัดราชาธิวาสวิหาร ประธานมูลนิธิเด็ก เยาวชน คนชรา และ ประธานมูลนิธิอาหารกลางวันนักรียนขาดแคลน โทร. 02-668-8238 , 086-891-4650 คุณนิวิต หะนนท์ (074-324-253 , 085-077-0237) และ คุณธัญญพัฒน์ นวลศิลป์ (089-298-8718) กรรมการโครงการฯ หรือ คุณวสีนาท สุขทิศ 089-457-0567 ผู้ช่วยประสานงานโครงการฯ
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ:
พระชัยพัชร์ กิตติวโร วัดราชาธิวาสวิหาร ประธานมูลนิธิเด็ก เยาวชน คนชรา และ ประธานมูลนิธิอาหารกลางวัน
นักเรียนขาดแคลน โทร. 02-668-8238 , 086-891-4650 คุณนิวิต หะนนท์ (074-324-253 , 085-077-0237)
และ คุณธัญญพัฒน์ นวลศิลป์(089-298-8718) กรรมการโครงการฯ
หรือ คุณวสีนาท สุขทิศ089-457-0567 ผู้ช่วยประสานงานโครงการฯ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ