สร้างเสริมบุคลิกภาพ...บันไดสู่ความสำเร็จ

ข่าวทั่วไป Thursday October 2, 2008 10:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 ต.ค.--Ben Communications
หนุ่มสาวรุ่นใหม่หลายคนคงวาดฝันสู่ความสำเร็จ แต่จะมีสักกี่คนที่จะทำฝันนั้นให้เป็นจริงได้ ความมุ่งมั่น ความอดทน และความสามารถ จังหวะ โอกาสที่เอื้ออำนวย ล้วนแล้วเป็นหนึ่งในหนทางสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จนั้นได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ถือเป็นบันไดขั้นแรกที่จะพาเราฝ่าฝันให้เป็นจริงได้ นั่นคือ “บุคลิกภาพ” เพราะบุคลิกที่ดี สวยหล่อ สง่างาม ก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว และหากมีมารยาทที่ดีงามด้วยแล้ว นับเป็นเสน่ห์ที่ให้ผู้พบเห็นเกิดความประทับใจแรกพบ
โครงการ S’Club Talented Boys & Girls 2008 ได้จัดกิจกรรมสำหรับน้องๆ สมาชิก S’ Club ที่มีบุคลิก หน้าตาดี มีความสามารถรอบด้าน มาเข้าร่วมโครงการค้นหาดาวดวงใหม่มาประดับวงการบันเทิง ทั้งนายแบบ/ นางแบบ หรือเพื่อเป็นศิลปินในแขนงต่าง ๆ ต่อไป ระสะนาภรณ์ ดำรัสธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ซูพรีโม จำกัด ผู้ดูแลโครงการฯ จึงได้เชิญ โศรยา บุนนาค กรรมการ บริษัท ตวันนาโฮเต็ล จำกัด และผู้บริหาร โรงแรมตวันนา ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการพัฒนาบุคลิกภาพ มารยาททางสังคม และการรับประทานอาหารแบบตะวันตก มาบรรยายอบรมให้กับน้องๆ ในโครงการเรื่อง “การพัฒนาบุคลิกภาพ” คุณจ๋า-โศรยา ได้ให้ข้อคิดและคำแนะนำแก่น้องๆ ว่า- -
“มนุษย์เราสามารถพัฒนาเพิ่มเติมได้ตลอดเวลา ไม่มีวันสิ้นสุด ในเรื่องของภูมิปัญญา ทัศนคติ ความรู้ความคิด และยังต้องมีทักษะในการสื่อสารด้วย เพราะถ้าไม่รู้จักสื่อสารออกมาให้ดีได้แล้วบุคลิกภาพ ในส่วนนี้ก็ไม่มีวันเด่นออกมาได้ ทั้งยังต้องพัฒนาสำนึกในคุณธรรมและจริยธรรม เมื่อคิดดี การกระทำก็จะส่งผลออกมาดี และพัฒนาทัศนคติทางบวกคือ มองโลกในแง่ดี
ความสามารถในการคุมอารมณ์ มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลอย่างมาก ผู้ใดที่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดี ก็จะเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิตและการประกอบอาชีพ และยิ่งถ้ามีความสามารถในการสร้างอารมณ์ที่ดีให้แก่คนรอบข้างได้ก็จะยิ่งกลายเป็นเสน่ห์และเป็นที่นิยมชมชอบของคนทั่ว ไปด้วย
ความมีมารยาท เป็นเรื่องสำคัญที่สังคมไทยสมัยนี้ได้ละเลย การมีมารยาทดีเป็นเรื่องสำคัญที่สุด บทลงโทษสำหรับคนที่ไม่มีมารยาทหรือไม่ให้ความสำคัญกับส่วนนี้ก็คือ การไม่เป็นที่ยอมรับในสังคม และในที่สุดก็ไม่มีใครเลือกที่จะคบกับเรา
หลักในการพัฒนาบุคลิกภาพ เริ่มจากการพัฒนาทัศนคติเชิงบวก เพื่อให้เกิดความมั่นใจในตัวเอง ด้วยการรู้จัก ยอมรับและภูมิใจในสภาพร่างกายของตนด้วยความมั่นใจ พิจารณาหาเอกลักษณ์ ปรับปรุงส่วนเด่น ปกปิดส่วนด้อยของตัวเอง ทั้งพัฒนาสุขภาพพลานามัยให้สมบูรณ์แข็งแรง พร้อมพัฒนาปรับโฉม ของตนเองให้ดูดีที่สุด แล้วพัฒนาการแต่งกาย ควรแต่งให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยคำนึงถึงความสะอาด ความสุภาพเรียบร้อย ความประณีต มีรสนิยมดูดีมีคุณค่า ไม่คำนึงถึงยี่ห้อและราคา ไม่ตามแฟชั่น ต้องแต่ไปด้วยกันได้ตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า และให้เหมาะสมตามวัยตัวเอง กาลเทศะ ตำแหน่งหน้าที่การงาน ทั้งให้เกียรติสถานที่นั้นๆ ด้วย
มารยาทเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดของบุคลิกภาพ วัยรุ่นไทยในสมัยนี้ไม่ค่อยมี น่าเป็นห่วงมาก ซึ่งหากการมีมารยาทสามารถสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ที่เราติดต่อด้วยได้เป็นอย่างดี มารยาทที่ดีพึ่งปฏิบัติมีดังนี้ ควรนอบน้อมถ่อมตน ยกมือไหว้เมื่อพบผู้ใหญ่ ควรก้มศรีษะเมื่อผ่านผู้ใหญ่ อย่ายืนค้ำศรีษะผู้ใหญ่ หากจะเข้าหาผู้ใหญ่ให้ยืนทางซ้าย และควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน คือการเคารพและให้เกียรติผู้อาวุโส การให้เกียรติสตรี การให้เกียรติผู้เป็นแขก ทั้งการแนะนำบุคคลให้รู้จักกัน ควรแนะนำชายให้รู้จักหญิง ต้องขออนุญาตผู้หญิงแนะนำ ชายให้เธอได้รู้จัก ถ้าเป็นเพศเดียวกันต้องแนะนำผู้น้อยให้ผู้ใหญ่รู้จัก เป็นต้น
ฉะนั้นผู้ที่จะพัฒนาบุคลิกภาพให้มีคุณสมบัติทุกด้านเพียบพร้อม จะกลายเป็นผู้มีเสน่ห์และอำนาจสูงจะต้องพัฒนาบุคลิกภาพของตนเอง รู้จักคุณลักษณะที่มีค่าของตนเองในด้านต่าง ๆ ให้ถ่องแท้เสียก่อนแล้วจึงค่อยพัฒนาให้คุณลักษณะนั้นๆดียิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ ก็จะประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายได้อย่างสมบูรณ์”
และเพื่อให้เนื้อหาเข้มข้นขึ้นและเข้าใจง่าย น้องๆ บางคนต้องออกมาแสดงโชว์ให้เพื่อนๆ ชมเป็นตัวอย่าง เรียกว่างานนี้ได้ทั้งทฤษฎีความรู้และภาคปฏิบัติที่สามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวันของทุกๆ คน
น้องเตย-สุวพิชญ์ ไตรพรวรกิจ วัย 16 ปี โรงเรียนสตรีมหาพฤฒาราม ชั้นม. 4 ศิลป์-ภาษาจีน สาวน้อยวัยใสผู้พกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยมบอกเล่าว่า- -
“การทำกิจกรรมอบรมเรื่องนี้ได้ประโยชน์มาก เพราะเราสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงๆ ทำให้เรารู้เรื่องมารยาทต่างๆ ที่บ้างเรื่องเราก็ไม่รู้มาก่อน เช่น เวลาพูดคุยต้องพูดอย่างไรให้ดูดี ไม่เสียมารยาท การเดิน การเคารพผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากนะคะในเรื่องนี้ เราได้มาทำกิจกรรมในวันนนี้เหมือนกับเราได้มาศึกษาวัฒนธรรมไทยไปด้วย แล้วเรายังสามารถถ่ายทอดไปสู่คนอื่นๆ ได้อีกด้วย
ฉะนั้นความฝันที่จะไปถึงเป้าหมายของโครงการนี้ ซึ่งก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ”
วิน-วัชรสิทธิ์ ขุนสุวิศิษฎ์ อายุ 22 ปี ศึกษาอยู่ชั้นปี 4 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา สาขาศิลปกรรมออกแบบนิเทศศิลป์ ชายหนุ่มผู้มุ่งมั่น อยากเป็นอาร์ตไดเร็กเตอร์ และวันนี้ได้มาเพิ่มสีสันและประสบการณ์ให้กับชีวิต จึงสมัครเข้ามาร่วมโครงการนี้
“ ผมอยากทำกิจกรรมเวิร์คช็อปตรงนี้ มีหลากหลายดี และผมก็อยากจะเข้าวงการบันเทิงด้วย ผมได้ไปภาพโฆษณา-ภาพนิ่งของ Hi-Lux วีโก้ ด้วย สนุกดีครับ
ผมว่าการพัฒนาบุคลิกของเรา เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะเราจะต้องปรับตัวให้เข้ากับเพื่อน ผู้ใหญ่และสังคมอีกด้วย แม้ภายนอกบุคลิกอาจจะดูดี แต่ตรงนี้เป็นเรื่องที่มาจากข้างใน มันจะสื่อออกมากให้เห็นตัวตนของเราว่ามีเสน่ห์แค่ไหน คนอื่นอยากคบหาเรามั้ย อันนี้เป็นเรื่องที่สำคัญจริงๆ
จากที่ผมได้มาอบรมเรื่องนี้ ผมนำไปใช้จริงๆ เราสามารถที่จะปรับตัวต่างๆ ได้ เวลาเจอผู้ใหญ่เราก็ต้องเคารพ ยกมือไหว้ ทักทาย เดินผ่านผู้ใหญ่เราต้องก้มศรีษะ เรียกว่าเราต้องอ่อนน้อมถ่อมตน แม้ว่าผมจะมีคาแร็คเตอร์มีไสตล์เป็นตัวของตัวเอง แต่ก็อยู่ในสังคมอยู่กับเพื่อนๆ ที่นี่ได้อย่างมีความสุข”
พล-ศิรพล ศิริจรัสตระกูล อายุ 18 ปี เรียนปี 1 มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญบริหารธุรกิจ (เอแบค) สาขา อิงลิช ฟอร์ แอร์ไลน์ ( English for Airline ) เพราะโลกนี้สิ่งที่น่าค้นหาและแปลกใหม่สำหรับพลเสมอ พลชอบการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ ใฝ่ฝันเป็นสจ๊วตจึงเลือกเรียนสาขานี้ เพื่อชีวิตไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ ด้วยเหตุนี้เขาจึงมาสมัครเข้าร่วมโครงการนี้
“อยากใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เพราะตอนนี้ผมเรียนและทำงานด้วย เดินแบบบ้าง ไปแคสงานที่ต่างๆ บ้าง เป็นประสบการณ์ชีวิต และที่สำคัญเราได้แบ่งเบาภาระของคุณพ่อคุณแม่ อยากได้อะไร ไปเที่ยว ไปดูหนัง เราก็ต้องหาเงินเอง เป็นความภูมิใจด้วย
สิ่งที่เราได้ในการเข้าเข้าร่วมโครงการนี้คือ ได้พัฒนาตนเอง และยิ่งได้มาอบรมการพัฒนาบุคลิกภาพ มีประโยชน์มากครับ เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรจะต้องมีเป็นอย่างมาก เรื่องการวางตัว มารยาทต่างๆ ซึ่งการอยู่ในสังคมจะต้องมี การมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เวลาผมขึ้นรถไฟฟ้า BTS ผมไม่เคยนั่งเลย จะยืนตลอด เพราะตอนเวลาจะมีเด็ก มีผู้หญิง คนแก่ขึ้นมาเราต้องลุกให้นั่ง หากเรานั่งก็ต้องลุกตลอด ก็เลยคิดว่าไม่นั่ง ให้พวกเขาได้นั่งดีกว่า หรือบางทีผมเจอคนแก่ข้ามถนน ผมจะไปช่วยเสมอ พยุงและพาข้าม
เรื่องการเคารพผู้ใหญ่ ที่บ้านผมได้สอนมาอยู่แล้ว เพราะที่บ้านจะเป็นครอบครัวใหญ่ มีญาติผู้ใหญ่ไปมาสู่หาเสมอ ปกติก็ได้ปฏิบัติตัวแบบนี้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องมารยาทการพูด/สนทนก็ได้รับความรู้เพิ่มขึ้นว่าจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ทุกเรื่องเป็นสิ่งจำเป็นที่ใช้ในชีวิตประจำวันครับ”
การพัฒนาบุคลิกภาพและเสริมสร้างมารยาททางสังคม ไม่ใช่เป็นเรื่องยากไกลเกินตัว สามารถที่จะสรรค์สร้างได้ เพื่อนำทางสู่เป้าหมายความสำเร็จในชีวิต หากสนใจที่จะเข้ารับการพัฒนาเส้นทางสู่ความสำเร็จ ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร. 0 236 0361
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติม :
เบญจมา บินซูกอร์ / ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์
Ben Communications 081 733 1856

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ