ผ่าทางตันน้ำมัน-ค่าครองชีพสูง :โครงการสวัสดิการผู้ประกันตน

ข่าวทั่วไป Monday July 31, 2006 09:36 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--31 ก.ค.--สปส.
น้ำมันพ่นพิษไต่สูงถึงลิตรละ 30 บาท ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นราคาสินค้าที่จำหน่ายทั้งปลีก-ส่งปรับตัวสูงตามไปด้วย ผลกระทบโดยตรงคือประชาชนที่เดือดร้อนกันถ้วนหน้ากับค่าครองชีพที่ถีบสูงขึ้นทุกขณะ รัฐบาลจึงมอบให้เจ้ากระทรวงทั้งหลายหาแนวทางช่วยเหลือประชาชน
กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคมร่วมกับภาคเอกชน จัดทำ ‘โครงการสวัสดิการผู้ประกันตน’ จำนวน 4 โครงการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนยามที่สินค้ามีราคาแพง และเป็นไปตามข้อเรียกร้องในวันแรงงานที่ต้องการให้มีสวัสดิการสินค้าราคาถูก และยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ประกันตนกว่า 8.6 ล้านคน กว่า 70%เป็นผู้ที่มีรายได้น้อยไม่ถึง 7,000 บาท/เดือน โครงการนี้สอดรับกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการช่วยประชาชนในยามที่น้ำมันราคาแพง นอกจากนี้ สิทธิประโยชน์ดังกล่าวยังครอบคลุมถึงข้าราชการกระทรวงแรงงานด้วย
เป็นเรื่องธรรมดามีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย วิพากษ์กันตั้งแต่ยังไม่เปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการด้วยซ้ำว่าทำให้ฟุ่มเฟือย ก่อหนี้สินเพิ่มให้ผู้ประกันตน ประโยชน์ตกกับพ่อค้ามากกว่าผู้ประกันตน ให้ส่วนลดมากกว่าจริงหรือ ฯลฯ
นายไพโรจน์ สุขสัมฤทธิ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า โครงการนี้ประกอบด้วย โครงการลดค่าครองชีพผู้ประกันตนด้านอุปโภคบริโภค ลดค่าใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิต โดยร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าชั้นนำหลายแห่ง อาทิ แม็คโคร บิ๊กซี ท็อปส์ คารฟูร์ และโลตัส ลดราคาสินค้าพิเศษ 10 รายการ ได้แก่ ข้าวสาร น้ำมันพืช น้ำตาล น้ำปลา ไข่ไก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง สบู่ผงซักฟอก แปรงสีฟันยาสีฟัน และนม
จากรายงานการสำรวจสภาวะเศรษฐกิจและสังคม โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าประชาชนมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนเดือนละ 3,565 บาท หากผู้ประกันตนร้อยละ 70 หรือประมาณ 6 ล้านคน ไปใช้สิทธิเพื่อรับส่วนลดค่าใช้จ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคเพียงเดือนละ 150 บาท /คน ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายผู้ประกันตนได้เดือนละ 9,000 ล้านบาท หรือ 10,800 ล้านบาท/ปี จะช่วยเพิ่มรายได้ลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกันตน
สำหรับโครงการติดตั้งอุปกรณ์ NGV เพื่อช่วยเหลือด้านราคาน้ำมันให้กับผู้ประกันตน และสนับสนุนนโยบายรัฐในการใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ ลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศ โดยร่วมมือกับ บมจ.ล็อกซ์เลย์ และบริษัทพี-เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ในการติดตั้งอุปกรณ์ NGV ราคาพิเศษ โดยร่วมมือกับสถาบันการเงินสนับสนุนสินเชื่อเงินกู้เพื่อการติดตั้ง ในอัตราดอกเบี้ย 0% ผ่อนชำระเดือนละ1,000 บาท
ซึ่งราคาน้ำมันเบนซินขณะนี้ลิตรละ 30.19 บาทแพงกว่าก๊าซ NGV 3.35 เท่า ดีเซลลิตรละ 27.94 บาทแพงกว่าก๊าซ NGV ประมาณ 3.28 เท่า หากผู้ประกันตนใช้ก๊าซ NGV จะประหยัดเงินเฉลี่ย 72% หรือ1.90 บาท/1 กิโลเมตร หากมีการเดินทางวันละ 100 กิโลเมตร จะประหยัดค่าใช้จ่ายเดือนละ 5,700 บาท/คน หรือปีละประมาณ 68,400 บาท/คน
ปกติของการกู้เงินผู้กู้จะมีภาระเพิ่ม แต่การกู้เงินเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ NGV จะมีเงินเหลือในกระเป๋า หากผู้ประกันตนต้องจ่ายค่าน้ำมันเดือนละ 5,000 บาท เมื่อใช้ก๊าซ NGV จะลดค่าใช้จ่ายลงประมาณ 3,500 บาท จ่ายเป็นค่าผ่อนอุปกรณ์ NGV เป็นเงิน 1,000 บาท แต่ละเดือนจะเหลือเงินในกระเป๋า 2,500 บาท ผู้ประกันตนที่สนใจติดตั้งถังแก๊ส NGV สปส.กำลังเจรจากับ ปตท ให้ได้รับส่วนลดจำนวน 10,000 บาท สำหรับผู้ประกันตน 20,000 คนแรก วงเงินที่เหลือผู้ประกันตนรับผิดชอบ โดยที่สปส.จะเจรจากับธนาคารในการให้สินเชื่อเพื่อการติดตั้ง ที่กำหนดแค่ 20,000 คนเพราะทีมติดตั้งมีจำกัดในอนาคตอาจขยายเพิ่มขึ้น
โครงการรถจักรยานยนต์ราคาพิเศษ เพื่อช่วยลดค่าครองชีพเนื่องจากค่าโดยสารและน้ำมันแพง ช่วยประหยัดพลังงานชาติด้วยการใช้พาหนะขนาดเล็กเดินทาง ได้ร่วมมือกับผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ ได้แก่ ฮอนด้า ยามาฮา ซูซูกิ ไทเกอร์ แพล็ททินัม การุด้า และวีราตะ นำสินค้าคุณภาพดีมาขายให้ราคาถูกกว่าท้องตลาด โดยมีธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน) และสยามธนภัทร ลีสซิ่ง จำกัด ให้สินชื่อเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษแก่ผู้ประกันตน
ปัจจุบันบันค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการเดินทางประมาณ 100 บาท/คน/วัน หากใช้จักรยานยนต์วันละ 50 บาท ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายประมาณเดือนละ1,500 บาท หากผู้ประกันตน 500,000 คนหันมาใช้จักรยานยนต์เดินทาง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ปีละประมาณ 9,000 ล้านบาท
สำหรับโครงการเครื่องใช้ไฟฟ้าราคาประหยัด เพื่ออำนวยความสะดวก และเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ผู้ประกันตน โดยให้สิทธิซื้อสินค้าราคาถูกกว่าท้องตลาด ร่วมมือกับบริษัทแอลจี ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตสินค้ายี่ห้อ LG ในการจัดหาสินค้าได้แก่ ตู้เย็น โทรทัศน์ เครื่องซักผ้า หม้อหุงข้าว ฯลฯ ให้ผู้ประกันตน
มีเสียงตำหนิว่า 2 โครงการนี้บ่มเพาะนิสัยฟุ่มเฟือยให้ผู้ประกันตน ซึ่งสปส.ได้คิดมาก่อนหน้านี้แล้วหากมองด้วยความเป็นธรรม พบว่ามอเตอร์ไซค์สิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้เมื่อจำเป็นต้องมีกับชีวิตของผู้ประกันตน ไม่ได้บังคับหรือส่งเสริมให้ผู้ประกันตนใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เพียงแต่ สปส.เพิ่มทางเลือกที่ดีกว่าทั้งสินค้า คุณภาพและราคา หากไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อ เพิ่มทางเลือกให้ผู้ประกันตนในการซื้อสินค้า ไม่ซื้อที่นี่ก็ซื้อที่อื่น
สิทธิพิเศษทั้งหมดนี้เริ่มใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.’49 เป็นต้นไป เงื่อนไขการใช้สิทธิเพียงแสดงบัตรประกันสังคม หรือบัตรรับรองสิทธิฯ เมื่อซื้อสินค้า และขอยืนยันว่าไม่ได้ใช้เงินกองทุนเพื่อทำโครงการนี้แต่อย่างใด ผลพวงที่ตามมาคือทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ถ้วนหน้า
ด้านนายชวลิต อาคมธน ผู้แทนฝ่ายนายจ้าง กล่าวว่า โครงการนี้มีประโยชน์และไม่ได้ใช้เงินกองทุนแต่อย่างใด ในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนรัฐได้ใช้ความพยายามทุกวิถีทางเพื่อตรึงราคาสินค้าและบริการแต่ไม่ไหว ขณะที่อัตราค่าจ้างขั้นต่ำก็ขยับได้ไม่มากหรือขึ้นแล้วแต่ไร้ผล เพราะราคาสินค่าปรับไปแล้ว เงินที่ปรับจึงไม่มีประโยชน์
ในภาคนายจ้าง จะได้ประโยชน์ 2 ทาง ลูกจ้างในสถานประกอบการอยู่ได้โดยไม่ลำบาก ถ้าได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ นายจ้างมีหน้าที่ดูแลแบ่งเบาภาระ บางรายเรียกร้องนายจ้างให้ปรับค่าแรง หากมีผลกระทบช่วยผ่อนคลาย ประการที่สอง ได้ประโยชน์มากเนื่องจากนายจ้างที่ผลิตสินค้าได้ หากลูกจ้างไม่มีกำลังซื้อหรือซื้อได้น้อย ทำให้จำนวนการผลิตลดลง นายจ้างได้ประโยชน์มากในภาพรวม คนทั่วไปมองว่า เรากระตุ้นเศรษฐกิจเพราะนายจ้างเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้ซื้อ
เศรษฐกิจที่ชะงักงันเดินหน้าไปได้ ในภาพรวม โครงการนี้เป็นประโยชน์ ไม่ฟุ่มเฟือย
โครงการเติมก๊าซ NGV\ ช่วยลดการนำเข้าพลังงานได้ ข้อสังเกต โครงการนี้ไม่ใช่โครงการประจำของสปส. อาจมีช่องว่างช่องโหว่ในการให้บริการบ้าง ขอให้ผู้ประกันตนใจเย็นในการขอรับบริการ หากมีข้อสงสัยติดต่อโดยตรงที่ สปส.หรือสอบถามที่สายด่วน 1506 ในส่วนของผู้ให้บริการต้องทำความเข้าใจชี้แจง อย่ายึดกฎระเบียบจนตึงเกินไป ให้ทุกฝ่ายฝ่ายช่วยกันเพื่อโครงการนี้
ด้าน นายประเทือง แสงสังข์ ประธานสภาองค์การลูกจ้างสภาแรงงานแห่งประเทศไทย กล่าวว่า
การที่นักวิชาการคนหนึ่งออกมาพูดว่า โครงการนี้อาจส่งผลให้มีการใช้จ่ายเกินตัว เพราะการจูงใจด้วยการลดราคาทำให้ตัดสินใจซื้อโดยง่าย อาจก่อให้เกิดสภาพการเป็นหนี้ย่อมกระทบต่อความมั่นคงของวิถีชีวิต กลุ่มอื่นจะได้รับผลประโยชน์มากว่าลูกจ้างนั้น
นายไพโรจน์ฯ กล่าวว่า “เป็นการมองด้านเดียวเพราะการลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภคนั้นล้วนเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน จากตัวเลขดังกล่าวข้างต้นพบว่าช่วยลดค่าใช้จ่ายผู้ประกันตนได้จริง ทั้งประโยชน์ไม่ได้ตกเป็นของผู้ผลิตมากกว่าลูกจ้างแต่อย่างใด หากแต่ win-win ด้วยกันทุกฝ่าย ผู้ประกันตนได้ซื้อสินค้าคุณภาพดีราคาถูก ผู้ขายขายสินค้าได้มากขึ้นทำให้ยอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น ก่อให้เกิดการจ้างงานมากขึ้น และจะส่งผลต่อการมีเงินสมทบส่งเข้ากองทุนมากขึ้นด้วย”
สปส. ตระหนักจะมีทางเลือกทางรอดใดบ้างที่จะทำให้ประชาชนอยู่ดี กินดี มีความสุข ชดเชยกับภาวะที่ต้องต่อสู้กับของแพง คงไม่ผิดที่ สปส.จะส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้ประกันตน อย่างน้อยโครงการนี้ช่วยให้ผู้ประกันตนได้จับจ่ายซื้อสินค้าราคาถูก!
ศูนย์สารนิเทศ สายด่วน 1506 /www.sso..go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ