กรุงเทพฯ--3 ต.ค.--กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
“พาณิชย์”ลงพื้นที่ภาคตะวันออกจัดสัมมนาเผยข้อมูลความตกลงการค้าเสรีล่าสุดระหว่างอาเซียนและประเทศคู่เจรจา ย้ำการเปิดเสรีก่อให้เกิดทั้งผลดีและผลกระทบ แนะภาคธุรกิจและผู้ที่เกี่ยวข้องควรทราบข้อมูลความตกลงการค้าเสรี ความคืบหน้าและผลจากการเปิดเสรีที่อาจเกิดขึ้นกับธุรกิจต่างๆ
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ร่วมกับคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดสัมมนา หัวข้อ “ความท้าทายใหม่ของธุรกิจในชลบุรีและภูมิภาค ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีล่าสุด ระหว่างอาเซียนและประเทศคู่เจรจา” ในวันที่ 3 ตุลาคม 2551 ณ โรงแรมเดอะไทด์ รีสอร์ท บางแสน จังหวัดชลบุรี โดยเน้นที่กรอบอาเซียน-ญี่ปุ่น อาเซียน-เกาหลี อาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ และการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการใช้ประโยชน์ และปรับตัวรองรับผลที่อาจเกิดขึ้นสำหรับภาคธุรกิจและผู้ที่เกี่ยวข้อง
การสัมมนาจะแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเช้า เป็นการบรรยายหัวข้อ “การจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น (AJCEP) ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-เกาหลี (AKFTA) และความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ (AANZFTA)” เกี่ยวกับข้อตกลงและความคืบหน้าการเจรจาในแต่ละกรอบ ผลจากการเจรจาที่มีต่อสินค้าและบริการที่สำคัญของจังหวัดชลบุรี ใน 4 กลุ่ม คือ กลุ่มสินค้าเกษตร (ปศุสัตว์ ไม้ประดับ อ้อย และมะพร้าว) กลุ่มสินค้าเกษตรแปรรูป (น้ำมันปาล์ม แปรรูปข้าว และแปรรูปประมง) กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม (ชิ้นส่วนยานยนต์ แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี) และภาคบริการ (การท่องเที่ยว และการขนส่ง) ส่วนในภาคบ่ายเป็นการอภิปรายในหัวข้อ “ความท้าทายใหม่ต่อธุรกิจในชลบุรีและภูมิภาคภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรี”
“ในการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี โดยภาพรวมแล้วจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ แต่ในภาพย่อยพบว่าระบบเศรษฐกิจของประเทศมีความซับซ้อน การเปิดเสรีทางการค้าอาจส่งผลดีต่อภาคธุรกิจหนึ่งแต่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อภาคธุรกิจอื่นได้ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ภาคธุรกิจและผู้ที่เกี่ยวข้องควรจะรับทราบเกี่ยวกับการจัดทำความตกลงการค้าเสรี ความคืบหน้า ผลกระทบของการเปิดเสรีที่อาจเกิดกับธุรกิจ เพื่อวางแผนใช้ประโยชน์และเตรียมพร้อมปรับตัวกับการเปิดเสรีที่จะเกิดขึ้น” อธิบดีกล่าว