กรุงเทพฯ--3 ต.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานมีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม ๓๑ จังหวัด สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว ๒๖ จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน ๕ จังหวัด มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น ๕๕๗,๐๗๒,๖๐๙ บาท แนวโน้มสถานการณ์อุทกภัยในภาพรวม หากไม่มีฝนตกเพิ่มคาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน ๑ — ๒ สัปดาห์ แต่จะยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำในบางพื้นที่
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยว่า ขณะนี้มีพื้นที่ประสบอุทกภัย รวม ๓๑ จังหวัด ๒๔๖ อำเภอ ๑,๕๖๖ ตำบล ๑๒,๐๙๒ หมู่บ้าน ผู้เสียชีวิต ๒๐ ราย ราษฎรเดือดร้อน ๔๕๔,๓๐๔ ครัวเรือน ๑,๕๙๗,๓๗๑ คน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง ๘ หลัง เสียหายบางส่วน ๒,๗๐๔ หลัง สะพาน ๙๘ แห่ง ถนน ๓,๔๐๔ สาย พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมประมาณ ๕๔๗,๑๒๑ ไร่ มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น ๕๕๗,๐๗๒,๖๐๙ บาท สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว ๒๖ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเพชรบูรณ์ นครสวรรค์ ตาก พะเยา ลำปาง นครนายก เลย สุโขทัย ฉะเชิงเทรา ตราด ชลบุรี พิจิตร สระบุรี นครราชสีมา ชัยภูมิ อุบลราชธานี ยโสธร มุกดาหาร หนองบัวลำภู บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ มหาสารคาม แม่ฮ่องสอน สระแก้ว และจันทบุรี ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน ๕ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา ขอนแก่น และปราจีนบุรี ในพื้นที่ ๒๐ อำเภอ ๑๑๗ ตำบล ๑๗๕ หมู่บ้าน โดย พิษณุโลก ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ ๓ อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพิษณุโลก
๕ ตำบล อำเภอวังทอง ๑ ตำบล อำเภอบางระกำ ๖ ตำบล ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำการเกษตร ทำให้มีน้ำท่วมขังเป็นประจำทุกปี แนวโน้มสถานการณ์ หากไม่มีฝนตกเพิ่มคาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติใน ๑ — ๒ สัปดาห์ แต่จะยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ
ทางการเกษตรบางแห่ง ลพบุรี น้ำท่วมพื้นที่ ๑๐ อำเภอ ๙๗ ตำบล ๗๙๒ หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน ๑๒๗,๓๑๗ คน ๓๖,๗๐๕ ครัวเรือน ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอบ้านหมี่ และพื้นที่การเกษตร ๙ ตำบล ระดับน้ำสูง ๐.๓๐ — ๐.๖๐ ม. แนวโน้มสถานการณ์
ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีฝนตกเพิ่มคาดว่าอำเภอบ้านหมี่ จะเข้าสู่ภาวะปกติใน ๓ - ๕ วันนี้ พระนครศรีอยุธยา น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย แม่น้ำลพบุรี และแม่น้ำป่าสักมีระดับสูงเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตร ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มริมแม่น้ำบางพื้นที่ใน ๙ อำเภอ ๕๒ ตำบล ได้แก่ อำเภอผักไห่ บางบาล เสนา บางไทร มหาราช นครหลวง พระนครศรีอยุธยา
บ้านแพรก และบางปะอิน ขอนแก่น ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ ๔ อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองขอนแก่น ชนบท บ้านแฮด และแวงใหญ่ ปราจีนบุรี ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำทางการเกษตร ๓ อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปราจีนบุรี ๑๑ ตำบล อำเภอกบินทร์บุรี๘ ตำบล และอำเภอศรีมหาโพธิ๑๐ ตำบล ส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ฝนที่ตกหนักในพื้นที่ ทำให้น้ำในลำห้วยสำราญมีปริมาณสูงขึ้นเอ่อท่วมบ้านเรือนราษฎรในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ๙ ชุมชน ๑๘๕ ครัวเรือน ระดับน้ำสูงประมาณ ๐.๑๐ — ๐.๓๐ เมตร แนวโน้มสถานการณ์ หากไม่มีฝนตกเพิ่มจะเข้าสู่ภาวะปกติใน ๒ -๓ วันนี้
สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง โดยสนับสนุนเรือท้องแบนจำนวน ๑๒๘ ลำ เพื่อออกให้บริการขนย้ายทรัพย์สินสิ่งของ และอพยพประชาชนออกจากพื้นที่น้ำท่วม ติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน ๑๑ เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ประสบภัย พร้อมทั้งได้นำถุงยังชีพเครื่องอุปโภคและบริโภคจำนวน ๑๓,๒๕๐ ถุง ไปมอบให้กับผู้ประสบภัย รวมทั้งจัดรถผลิตน้ำดื่มสะอาด จำนวน ๖ คัน ออกให้บริการน้ำดื่มเพื่อการอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ต่างๆ ตลอดจนติดตั้งบ้านน็อคดาวน์ (มูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก) จำนวน ๑๐ หลัง และเต็นท์ที่พักอาศัย ๗๐ หลัง ให้ผู้ประสบภัยได้พักอาศัยชั่วคราว เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนในเบื้องต้นแล้ว สุดท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนสาธารณภัย ๑๗๘๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพื่อประสานและให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป