กรุงเทพฯ--25 ส.ค.--พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต
กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล แถลงผลประกอบการครึ่งปีแรกของกลุ่มฯ ว่าเติบโตขึ้น 12 % โดยมีเบี้ยประกันภัยรับรวม (APE) สูงถึง 1,513 ล้านปอนด์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา และมีผลกำไรสูงขึ้น 11% หรือคิดเป็นเงิน 602 ล้านปอนด์ ซึ่งรายรับราว 80% มาจากภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งนับว่าเป็นการเติบโตต่อเนื่องตลอด 3 ปี ที่ผ่านมา สำหรับในประเทศไทยมีเบี้ยประกันภัยรับรวม (APE) เติบโตขึ้น 17% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่น่าพอใจ
มร. มาร์ค ทัคเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลได้เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่องจากการดำเนินงาน โดยมีแผนความคุ้มครองเกษียณ อายุเป็นกลยุทธ์ ส่งผลให้ในช่วงครึ่งปีแรกกลุ่มพรูเด็นเชียลเติบโตก้าวหน้าตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในช่วง ครึ่งปีแรกของภูมิภาคเอเชีย บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับรวม (APE) เพิ่มขึ้นถึง 14% ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวม จะไม่เอื้ออำนวยนัก
สาเหตุที่กลุ่มพรูเด็นเชียลให้ความสำคัญกับแผนความคุ้มครองเกษียณอายุ เนื่องจากเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตในระยะยาว ประชาชนส่วนใหญ่หันมาให้ความสนใจกับแผนความคุ้มครองเกษียณอายุมากขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้นอย่างชัดเจน ในสหรัฐอเมริกาก็เช่นเดียวกัน ประชาชน ต่างก็พากันตื่นตัวเกี่ยวกับการออมเพื่อการเกษียณอายุอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จากพื้นฐานด้านความแข็งแกร่งทางการเงิน การลงทุน การบริหารความเสี่ยง ชื่อเสียงของบริษัทฯ และช่องทางการจัดจำหน่ายที่เป็นมืออาชีพ ทำให้กลุ่มพรูเด็นเชียลเป็นกลุ่มที่มีความแข็งแกร่งในตลาดเกษียณอายุนี้เป็นอย่างมาก
สำหรับพรูเด็นเชียล ประเทศไทย อัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวม (APE) สูงขึ้น 17% โดยมีเบี้ยประกันภัยปีแรก (FYP) เติบโตขึ้น 20% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยช่องทางการขายหลักยังคงเป็นช่องทางการขายผ่านทางโทรศัพท์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 60% ซึ่งเมื่อรวมกับผลงานจากทุกช่องทางจึงทำให้ ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ สามารถเติบโตได้มากกว่าอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยปีแรกในภาคธุรกิจประกันชีวิตที่เติบโตขึ้น 10% ตามรายงานของสมาคมประกันชีวิตไทย
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้พัฒนาคุณภาพการให้บริการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ได้เพิ่มช่องทางการรับชำระเบี้ยประกันเพิ่มเติมอีกหลายช่องทางโดยลูกค้าสามารถชำระเบี้ยประกันผ่านระบบ mPAY จากโทรศัพท์มือถือเครือข่ายเอไอเอส ชำระผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสทุกสาขา อาทิ ร้านเซเว่นอีเลเว่นที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม หรือเคาน์เตอร์โลตัสเอ็กซ์เพรสทุกสาขา รวมถึงที่ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงไทยที่สามารถชำระได้ถึง 4 ช่องทาง ทั้งที่เคาน์เตอร์ ระบบอินเตอร์เน็ต ATM และระบบโทรศัพท์อัตโนมัติของทั้งสองธนาคารอีกด้วย ซึ่งจะทำให้ลูกค้ามีอิสระในการเลือกชำระเบี้ยประกันภัยได้ตามไลฟ์สไตล์และความสะดวกของตนเอง และมั่นใจในความคุ้มครองที่ได้รับอย่างต่อเนื่อง
นอกเหนือจากการบริหารงานทางธุรกิจแล้ว บริษัทฯ ยังให้การดูแลแก่พนักงานอย่างทั่วถึง โดยล่าสุดได้จัดให้มีสวัสดิการเงินช่วยเหลือค่าครองชีพให้แก่พนักงานรายละ 1,200 บาทต่อเดือน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจใน การทำงานของพนักงานทุกคน เพราะบริษัทฯ ตระหนักดีว่าพนักงานทุกคนเป็นทรัพยากรอันมีค่าของบริษัทฯ ที่ต้องให้การดูแลเป็นอย่างดีโดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน