กรุงเทพฯ--9 ต.ค.--บลจ.แอสเซท พลัส
บลจ.แอสเซท พลัส ปรับแผนรุกกองทุนตราสารหนี้ ยืดหยุ่นรอบการลงทุนรับตลาดผันผวน เสนอขายกองทุนเปิดแอสเซทพลัสพันธบัตรรัฐบาล 2 (ASP-ACGOV2) ลงทุนพันธบัตร 3-4 เดือน ผลตอบแทน 3.20% ต่อปี*
บลจ.แอสเซท พลัส ปรับแผนบริหารกองทุนตราสารหนี้ช่วงตลาดตราสารหนี้ผันผวน ชูกลยุทธ์รอบระยะเวลาการลงทุนแบบยืดหยุ่น ส่งกองทุนเปิดแอสเซทพลัสพันธบัตรรัฐบาล 2 (ASP-ACGOV2) ลงทุนในพันธบัตรอายุ 3-4 เดือน ผลตอบแทน 3.20% เสนอขายครั้งแรก 10-20 ตุลาคม 2551
นางลดาวรรณ เจริญรัชต์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยถึงภาวะการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาผลตอบแทนของพันธบัตรโดยรวมปรับตัวลดลงอย่างมาก เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่ามีโอกาสที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง ประกอบกับภาวะความผันผวนในตลาดเงินทั่วโลกในช่วงเดือนที่ผ่านมาส่งผลให้ความต้องการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ปริมาณพันธบัตรไม่เพียงพอต่อความต้องการลงทุนจากการประกาศงดการประมูลตั๋วเงินคลังอายุ 1 เดือน 3 เดือน และ 6 เดือนของกระทรวงการคลัง เนื่องจากแผนบริหารหนี้สาธารณะยังไม่ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี
นอกจากนี้ ปริมาณการกู้ยืมระหว่างธนาคารผ่านตลาดเงินปรับตัวสูงขึ้นในขณะที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดมีแนวโน้มสูงขึ้นเช่นกัน โดยมีผลมาจากความวิตกกังกลเกี่ยวกับสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ในส่วนของตลาดเงิน ปริมาณการกู้ยืมปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดก็มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสภาพคล่องตึงตัวด้วย
“ในช่วงนี้สถาบันการเงินต่างต้องการถือสภาพคล่องไว้กับตัวเองมากที่สุด และลดการปล่อยกู้ให้กับสถาบันการเงินอื่นลง ซึ่งส่งผลให้สภาพคล่องในระบบตึงตัวมากขึ้น แม้ว่าประเทศไทยอาจจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงมากนัก แต่เนื่องจากปัจจัยภายในประเทศเองก็ยังไม่มั่นใจในเหตุการทางการเมือง นักลงทุนจึงชะลอการลงทุนในตลาดทุน และลงทุนในตราสารประเภทพันธบัตรรัฐบาลอายุสั้น ๆ เพื่อรอความชัดเจนจากสถานการณ์การเงินก่อน
ทั้งนี้ แรงกดดันเงินเฟ้อที่ลดลง ทำให้ธนาคารกลางหลายแห่งเริ่มใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ดังจะเห็นได้จากธนาคารกลางออสเตรเลียปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึง 1% เหลือ 6% ขณะเดียวกัน ประธานเฟดก็ส่งสัญญาณพร้อมปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อประคองการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ทำให้คาดการณ์ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีความยืดหยุ่นในเรื่องการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเช่นกัน แม้จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวานนี้ก็ตาม” นางลดาวรรณ กล่าว
สำหรับแผนการออกและเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ในช่วงนี้ บริษัทฯ ได้ปรับแผนการเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ โดยใช้กลยุทธ์การบริหารกองทุนแบบเปิดรอบระยะเวลาการลงทุน เพื่อรองรับให้กองทุนสามารถยืดหยุ่นระยะเวลาการลงทุนได้ตามภาวะตลาดตราสารหนี้ในแต่ละขณะ และสามารถสร้างโอกาสผลตอบแทนจากการลงทุนได้แม้ในช่วงภาวะตลาดตราสารหนี้ผันผวนในปัจจุบัน
“บริษัทฯ ได้ออกกองทุนตราสารหนี้แบบเปิดรอบระยะเวลาตามภาวะตลาดไปแล้ว 3 กองทุน คือ ASP-ACFIXED1, ASP-ACFIXED 2 และ ASP-ACGOV1 ซึ่งส่งผลดีต่อผู้ลงทุนในกองทุน โดยฉพาะในช่วงที่ปริมาณตราสารหนี้มีไม่เพียงพอต่อความต้องการในช่วงที่ผ่านมา แต่กองทุนดังกล่าวสามารถเลือกลงทุนในตราสารที่ให้ผลตอบแทนเหมาะสมที่สุด ในขณะที่กองทุนตราสารหนี้ที่กำหนดรอบตายตัวทุก 3 เดือน 6 เดือน แบบเดิมอาจไม่สามารถทำได้ ซึ่งผู้ลงทุนเริ่มยอมรับข้อดีของการเปิดรอบระยะเวลาแบบยืดหยุ่นดังกล่าวแล้ว” นางลดาวรรณ กล่าว
ในช่วงนี้ บริษัทฯ จะเสนอขายกองทุนเปิดแอสเซทพลัสพันธบัตรรัฐบาล 2 (Asset Plus Active Government Bond Fund 2 : ASP-ACGOV2) เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย เพื่อรองรับผู้ต้องการลงทุนในตราสารความเสี่ยงต่ำ รอบระยะเวลาการลงทุนแบบยืดหยุ่น ประมาณ 3-4 เดือน โดยเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 10-20 ตุลาคม 2551
“สำหรับกองทุน ASP-ACGOV2 นี้ คาดว่าจากผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลไทยที่จะลงทุนหลังหักค่าใช้จ่ายประมาณ 0.20% แล้ว จะสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุนประมาณ 3.20%* หรือเทียบเท่ากับเงินฝากก่อนหักภาษีประมาณ 3.75%” นางลดาวรรณ กล่าว
*ที่มา : สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย ณ 7 ตุลาคม 51 ทั้งนี้ หากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ระบุไว้
ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ :
ส่วนประชาสัมพันธ์ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ
นิตยา เลิศแสงเพชร โทร. 02-672-1000 ต่อ 3314 อีเมล์: nittaya_le@assetfund.co.th
มุกพิม จุลพงศธร โทร. 02-672-1000 ต่อ 3308 อีเมล์: mookpim_ch@assetfund.co.th