กรุงเทพฯ--9 ต.ค.--ออนไลน์ แอสเซ็ท
บล.บีฟิท จับมือ “ทรู ไลฟ์สไตล์ รีเทล” เปิดมิติใหม่ให้กับวงการโบรกเกอร์ ให้บริการระบบอินเทอร์เน็ต เทรดดิ้ง ผ่านสาขาของ ร้าน ทรู คอฟฟี่ ที่มีอยู่ในที่ประเทศไทยกว่า 28 แห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนองไลฟ์สไตล์ ของนักลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมครองความเป็นผู้นำในด้านการให้บริการด้านนี้ ขณะเดียวกันเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของการเตรียมตัวเพื่อรับมือกับการเปิดเสรีที่จะมีขึ้นในปี 2555
ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด (มหาชน) (BSEC) เปิดเผยว่าได้บรรลุข้อตกลงกับ บริษัท ทรู ไลฟ์ สไตล์ รีเทล จำกัด (บริษัทในเครือ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น หรือ TRUE) ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจ “ร้านทรู คอฟฟี่” ปัจจุบันมีสาขาเปิดให้บริการทั่วประเทศไทยจำนวน 28 แห่ง โดยความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าและตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากปัจจุบันนักลงทุนไม่ต้องฝ่าการจราจรที่ติดขัดเข้ามาในย่านใจกลางเมืองเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์อีกต่อไป แต่สามารถที่จะไปใช้บริการในร้าน ทรู คอฟฟี่ ในสาขาใกล้ๆ บ้าน โดยลูกค้าของ บล.บีฟิท สามารถเข้าไปใช้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตในร้านได้ตามสะดวก ในเวลาเปิดร้านทุกวันจันทร์-ศุกร์ไปจนถึงเวลา 17.00 น.
"เราถือว่าเป็นการเปิดมิติใหม่ให้กับนักลงทุนและวงการโบรกเกอร์ในด้านไอที เทคโนโลยี เพราะ BSEC คือผู้นำในการให้บริการด้านนี้ และมีเป้าหมายที่จะพัฒนาให้ก้าวหน้าต่อไปอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บริการที่ดีที่สุดกับลูกค้า ทั้งยังเป็นการสอดประสานกับเป้าหมายของบริษัทที่ต้องการจะก้าวขึ้นเป็นโบรกกอร์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศไทยด้วย"
เขากล่าวต่อว่าการเปิดไซเบอร์บรานซ์ โดยการจับมือกับ “ทรู ไลฟ์ สไตล์ รีเทล” นอกจากจะตอบสนองความต้องการของลูกค้าแล้ว ยังมีอีกประเด็นที่สำคัญคือเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือกับการเปิดเสรีในปี 2555 ซึ่งกำลังจะมาถึงนี้ ซึ่งทุกโบรกเกอร์ต้องพยายามบริหารต้นทุนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และการลงทุนครั้งนี้ต้นทุนต่ำมากเมื่อเปรียบเทียบกับผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับในอนาคต อีกทั้งเป็นการปูพื้นฐานให้กับลูกค้าเพื่อจะได้คุ้ยนเคยกับการใช้งานผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และนักลงทุนควรจะเรียนรู้ตั้งแต่วันนี้ เนื่องจากแนวโน้มในอนาคตคาดว่าการซื้อขายหลักทรัพย์โดยผ่านระบบอินเทอร์เน็ตคาดว่าจะได้รับความนิยมสูงเนื่องจากคิดอัตราค่าคอมมิสชั่นต่ำกว่าการส่งคำสั่งซื้อขายผ่านทางเจ้าหน้าที่การตลาด
นอกจากนี้ บล.บีฟิท ยังมีแผนการอื่นๆ เพื่อรองรับการเปิดเสรีในอนาคต คือพยายามที่จะกระจายความเสี่ยงโดยไม่พึ่งพารายได้จากธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เพียงอย่างเดียว โดยมุ่งเน้นรายได้ด้านอื่นๆ เพิ่มเติม อาทิ การหารายได้งานวาณิชธนกิจ พอร์ตลงทุน นายหน้าซื้อขายตราสารอนุพันธ์ นายหน้าซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าซึ่งดำเนินการโดยบริษัทเอเอ็นทีซึ่งเป็นบริษัทลูก รวมถึงธุรกิจจัดการกองทุนส่วนบุคคลที่อยู่ระหว่างการขออนุญาตการเตรียมจัดตั้งกองทุนรวม การหารายได้จากตลาดตราสารอนุพันธ์และตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า เป็นต้น
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : ณัฐิสินี ระเบียบนาวีนุรักษ์(เก๋) 081-4200753 หรือ 02-5549371