กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกัน (NMG072A, NMG092A) ของ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB” พร้อมแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนสถานภาพทางการตลาดที่แข็งแกร่งของหนังสือพิมพ์ธุรกิจรายวัน “กรุงเทพธุรกิจ” และหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ “The Nation” ของบริษัท ตลอดจนความสามารถในการเป็นผู้ให้บริการด้านข่าวสารผ่านทางสื่อหลากหลายประเภท นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความสามารถของคณะผู้บริหาร อย่างไรก็ตาม จุดเด่นดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากอัตราการก่อหนี้ของบริษัทที่ยังสูง ตลอดจนความท้าทายในธุรกิจหนังสือพิมพ์ซึ่งประกอบด้วยภาวะตลาดโฆษณาผ่านหนังสือพิมพ์ที่ชะลอตัว และราคากระดาษหนังสือพิมพ์ที่สูงขึ้น
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทเนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จะยังคงรักษาสถานภาพทางการตลาดที่แข็งแกร่งสำหรับหนังสือพิมพ์ธุรกิจรายวันเอาไว้ได้ โดยที่การใช้จ่ายด้านโฆษณาน่าจะกลับมาฟื้นตัวในระยะปานกลาง โดยทริสเรทติ้งคาดว่าผู้บริหารของบริษัทเนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จะยังคงดำเนินนโยบายลดค่าใช้จ่ายต่อไปและภาระหนี้ของบริษัทรวมมูลค่าปัจจุบันของค่าเช่าเครื่องจักรตลอดอายุการเช่าจะลดลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตหรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจเปลี่ยนแปลงได้ในกรณีที่สถานะทางการเงินของบริษัทยังไม่ปรับตัวดีขึ้นจากในปัจจุบัน
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทเนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านสื่อในระดับแนวหน้าของประเทศซึ่งผลิตสื่อหลากหลายประเภท อาทิ สิ่งพิมพ์ โทรทัศน์และวิทยุ รวมทั้งอินเทอร์เน็ต โดยสื่อสิ่งพิมพ์ยังคงเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้มากกว่า 90% และสร้างกำไรจากการดำเนินงานเกือบ 100% หนังสือพิมพ์ “กรุงเทพธุรกิจ” ของบริษัทจัดเป็นผู้นำที่โดดเด่นในกลุ่มหนังสือพิมพ์ธุรกิจรายวัน ซึ่งสามารถรักษาฐานผู้อ่านไว้ได้ในภาวะการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากหนังสือพิมพ์ธุรกิจรายวัน “โพสต์ ทูเดย์” และ “ผู้จัดการรายวัน” ในขณะที่หนังสือพิมพ์ “The Nation” ของบริษัทก็สามารถรักษาฐานผู้อ่านให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับผู้นำตลาดคือหนังสือพิมพ์ “Bangkok Post” ส่วนหนังสือพิมพ์ “คม ชัด ลึก” ซึ่งเปิดตัวในเดือนตุลาคม 2544 ก็ถือเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัทตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา โดยหลังจากการรณรงค์ทำการตลาดอย่างหนักผ่านช่องทางจำหน่ายมากมายก็ทำให้หนังสือพิมพ์ “คม ชัด ลึก” เป็นที่รู้จักและได้รับการตอบรับจากผู้อ่านเป็นอย่างดี จนเป็นหนังสือพิมพ์รายวันติดอันดับหนึ่งในสามของหนังสือพิมพ์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุด
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า รายได้โฆษณาของบริษัทเนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจาก 1,974 ล้านบาทในปี 2547 เป็น 1,709 ล้านบาทในปี 2548 โดยลดลง 13.4% และยังลดลงอีก 813 ล้านบาทสำหรับ 6 เดือนแรกของปี 2549 ซึ่งคิดเป็น 2.4% เมื่อเทียบกับ 833 ล้านบาทสำหรับช่วงเดียวกันของปี 2548 นอกจากนี้ รายได้จากธุรกิจด้านสื่อกระจายภาพและเสียงยังลดลงจาก 236 ล้านบาทในปี 2547 เป็น 181 ล้านบาทในปี 2548 คิดเป็นอัตราการลดที่ 23.1% โดยมีสาเหตุมาจากการครบกำหนดสัญญาการลงโฆษณาและร่วมผลิตรายการของลูกค้ารายใหญ่ในธุรกิจโทรทัศน์ระบบเคเบิ้ล อย่างไรก็ตาม รายได้ดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นจาก 89 ล้านบาทใน 6 เดือนแรกของปี 2548 เป็น 93 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 2549 เนื่องจากรายได้จากรายการโทรทัศน์ปกติที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลให้รายได้โฆษณารวมของบริษัทมีอัตราลดลงที่ 14.5% ในปี 2548 และ 1.7% สำหรับ 6 เดือนแรกของปี 2549 จากการชะลอตัวของตลาดโฆษณาและการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในตลาดหนังสือพิมพ์
แหล่งรายได้ที่สำคัญของบริษัทสำหรับธุรกิจหนังสือพิมพ์มาจากการโฆษณาซึ่งปริมาณจะเคลื่อนไหวตามภาวะเศรษฐกิจ โดยที่ปริมาณการโฆษณาในหนังสือพิมพ์มีความผันผวนมากกว่าการโฆษณาในสื่ออื่นๆ โดยตลาดโฆษณาผ่านสื่อทั้งหมดเติบโตขึ้น 5.7% ในปี 2548 และ 5.6% สำหรับ 6 เดือนแรกของปี 2549 ในขณะที่การเติบโตของสื่อหนังสือพิมพ์เพียง 0.7% ในปี 2548 และลดลงที่ 0.7% สำหรับ 6 เดือนแรกของปี 2549 สัดส่วนรายได้โฆษณาจากหนังสือพิมพ์ของบริษัทเมื่อเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรมลดลงจาก 10.9% ในปี 2547 เป็น 9.4% ในปี 2548 แต่เพิ่มขึ้นเป็น 10.5% สำหรับ 6 เดือนแรกของปี 2549 ถึงแม้สัดส่วนปัจจุบันของรายได้โฆษณาจากหนังสือพิมพ์ของบริษัทเมื่อเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรมจะต่ำกว่าสัดส่วนค่าเฉลี่ยของบริษัท 5 ปีย้อนหลัง (2544-2548) ซึ่งเป็นสัดส่วน 11.9% ทริสเรทติ้งก็คาดว่าบริษัทจะยังคงรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดเอาไว้ได้จากการมีหนังสือพิมพ์หลักที่มีสถานะแข็งแกร่ง ได้แก่ “กรุงเทพธุรกิจ” “The Nation” และ “คม ชัด ลึก” นอกจากนี้ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้บริษัทประสบความสำเร็จคือคณะผู้บริหารที่มีความสามารถและมีประสบการณ์ที่ยาวนาน อีกทั้งยังได้รับการยอมรับในความเป็นมืออาชีพในธุรกิจ โดยมีกลยุทธ์ในการเป็นผู้ผลิตข่าวสารและเนื้อหาสู่สื่อหลากหลายประเภท
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า อัตราการก่อหนี้ของบริษัทเนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป ยังคงสูงอยู่ ถึงแม้ภาระหนี้ของบริษัทรวมมูลค่าปัจจุบันของค่าเช่าเครื่องจักรตลอดอายุการเช่าจะลดลงเล็กน้อย โดยมีอัตราส่วนของเงินกู้รวม (รวมมูลค่าปัจจุบันของค่าเช่าเครื่องจักรตลอดอายุสัญญาเช่า) ต่อแหล่งเงินทุนที่ 70.6% ณ สิ้นปี 2548 และ ณ เดือนมิถุนายน 2549 โดยมีสาเหตุมาจากผลขาดทุนสุทธิในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2549
ถึงแม้ราคากระดาษโลกในปี 2549 จะสูงกว่าปี 2548 ก็ตาม แต่ผลกำไรขั้นต้นของบริษัทยังเพิ่มขึ้นจาก 37.1% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2548 เป็น 38.7% ในช่วงเดียวกันของปี 2549 เนื่องจากผลของนโยบายลดค่าใช้จ่ายของบริษัท ซึ่งทำให้บริษัทสามารถลดปริมาณการใช้กระดาษได้จาก 12,000 ตันสำหรับ 6 เดือนแรกของปี 2548 เป็น 11,000 ตันสำหรับช่วงเดียวกันของปี 2549 ทริสเรทติ้งกล่าว