กรุงเทพฯ--3 พ.ย.--ปภ.
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัย ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค. — 3 พ.ย. 2549 มีพื้นที่ประสบภัยรวม 47 จังหวัด 388 อำเภอ 32 กิ่งอำเภอ 2,561 ตำบล 15,231 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 4,152,811 คน 1,168,569 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 195 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 3,332,391 ไร่ มูลค่าความเสียหาย 1,124,744,853 บาท สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 32 จังหวัด ยังคงมีพื้นที่ประสบภัย 15 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ ชัยนาท อุทัยธานี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม และกรุงเทพฯ จำนวน 66 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ 15 เขต ราษฎรเดือดร้อน 1,170,291 คน 367,512 ครัวเรือน จากการประสานข้อมูลสภาพอากาศ กับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า พายุซิมารอน มีแนวโน้มอ่อนกำลังลงอีก ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทยอย่างแน่นอน ขณะที่น้ำที่ระบายจากคลองพระยาบรรลือ ได้ไหลเอ่อท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตร ในจังหวัดนครปฐม 3 อำเภอ ได้แก่ อ.บางเลน อ.นครชัยศรี และ อ.พุทธมณฑล ส่วนกรุงเทพฯ ปริมาณน้ำในเขตทุ่งฝั่งตะวันออกมีมาก ทำให้มีน้ำท่วมขัง ใน 4 เขต ได้แก่ เขตลาดกระบัง เขตมีนบุรี เขตหนองจอก เขตสายไหม และพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย คลองมหาสวัสดิ์ นอกแนวคันกั้นน้ำ มีผู้ได้รับความเดือดร้อน 11 เขต 33 ชุมชน 2,111 ครัวเรือน ส่วนสภาพน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ไหลผ่านพื้นที่ต่างๆ มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของจังหวัดภาคกลางอยู่ในระดับทรงตัว จึงไม่น่าเป็นห่วงมากนัก
นายอนุชา กล่าวต่อไปว่า ปีนี้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลักที่ถูกจัดเป็นสถานที่ลอยกระทงอยู่ในระดับสูง เนื่องจากปีนี้น้ำค่อนข้างมาก จึงขอเตือนเจ้าของสถานที่ หรือหน่วยงานที่จัดงานลอยกระทง ให้หมั่นตรวจตรา โป๊ะ หรือพื้นที่ริมฝั่งน้ำที่จัดเป็นสถานที่ลอยกระทง ให้สำรวจ ตรวจตราความแข็งแรงและความมั่นคงของโป๊ะ และตลิ่ง เพื่อป้องกันมิให้เกิดการทรุดตัว ส่งผลให้เกิดอุบัติภัยร้ายแรงขึ้น พร้อมทั้งขอเตือนผู้ขับเรือ ให้ลดความเร็วลง หากเข้าใกล้บริเวณบ้านเรือนประชาชนและบริเวณที่มีการลอยกระทง เพื่อป้องกันคลื่นน้ำทำลายบ้านเรือนเสียหาย และคลื่นน้ำกระเด็นใส่ประชาชน ส่วนผู้ที่ไปร่วมงานลอยกระทง ให้เพิ่มความระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัย ควรไปลอยในสถานที่ที่จัดไว้สำหรับลอยกระทงโดยเฉพาะ ถ้าจะลงเรือ หรือยืนบนโป๊ะ ต้องรู้จักสังเกต หากมีคนจำนวนมาก อย่าลงไปยืนเสริม เพราะอาจรับน้ำหนักไม่ไหว ทำให้ล่ม จมน้ำได้ และเนื่องจากในคืนวันลอยกระทง การจราจรในถนนหลายสายค่อนข้างมาก ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนได้ง่าย ถ้าเดินทางไกล ขอให้ตรวจสอบสภาพเส้นทาง เตรียมตัว และรถให้พร้อมใช้งาน ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่ขับรถเร็ว สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ริมน้ำ ให้ระวังกระทงที่จุดธูปเทียน ถูกกระแสน้ำพัดมาติดบ้าน ทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ หากมีกระทงลอยมาบริเวณบ้านเรือน ควรใช้ไม้เขี่ยไปไกลๆ นอกจากนี้ ขอเตือนให้พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ที่จะพาบุตรหลานไปเที่ยวงานลอยกระทง ดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด อย่าปล่อยให้เด็กลอยกระทงตามลำพัง หรือวิ่งเล่นริมตลิ่งน้ำ อาจพลัดตกจมน้ำเสียชีวิตได้ ที่สำคัญ ขอให้หลีกเลี่ยงการเล่นพลุ และดอกไม้เพลิง เพราะอาจเกิดการระเบิด เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน และอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ หากฝ่าฝืนจะถูกลงโทษทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ขอเตือนประชาชนที่นิยมเล่นโคมลอย อย่าเล่นในพื้นที่ที่เป็นเส้นทางการบิน และพื้นที่ชุมชน เพราะอาจสร้างความเดือดร้อน ก่อให้เกิดความเสียหายได้