อาร์สยามสวนวิกฤตเศรษฐกิจ ยิ่งหนุน “วันสต๊อป มาร์เก็ตติ้ง” พุ่ง กระตุกลูกค้าแห่ใช้งบปี 52 แน่น

ข่าวบันเทิง Monday October 13, 2008 14:25 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 ต.ค.--อาร์เอส
อาร์สยาม ค่ายเพลงในเครืออาร์เอส ประกาศชัดไม่หวั่น บ้านเมืองวุ่น เศรษฐกิจสะดุด เชื่อยิ่งกระตุกความคิดลูกค้าใช้งบอย่างมีประสิทธิภาพ ผลักดันกลยุทธ์การตลาด “วันสต๊อป เซอร์วิส มิวสิคมาร์เก็ตติ้ง ” (One Stop Service Music Marketing) โตต่อถึงปี 2552
ลาดพร้าว - นายศุภชัย นิลวรรณ กรรมการผู้จัดการ อาร์สยาม ในเครือ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS กล่าวว่า ... เดิม อาร์สยาม เป็นเพียงผู้นำในการผลิตและทำตลาดเกี่ยวกับเพลงลูกทุ่ง-เพื่อชีวิตมาโดยตลอด โดยมีศิลปินและอัลบั้มต่าง ๆ มากมาย อาทิ ศิลปินวงโปงลางสะออน, บ่าววี, จินตหรา, บิว กัลยาณี, หลวงไก่, กระแต, กุ้ง สุธิราช, ต้อย หมวกแดง เป็นต้น จนช่วงต้นปี 2551 อาร์สยามก็ได้ประกาศโมเดลลูกทุ่งใหม่ ในการเป็นค่ายเพลงลูกทุ่งที่เบ็ดเสร็จในตัวเอง ค่ายเดียวในเมืองไทย พลิกตัวสู่การเป็น One Stop Service Music Marketing และมองหาพันธมิตรที่มีลูกค้าเป็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกันร่วมทำตลาด โดยเน้นบริหารรายได้แบบ 360 องศา และอาศัยจุดแข็งด้านสื่อรวมถึงศิลปินที่มีอยู่ สร้างความพอใจให้ลูกค้าในการการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายระดับอายุประมาณ 15 ปีขึ้น หรือ มีภูมิลำเนาต่างจังหวัด หรือ มีรสนิยมดนตรีลูกทุ่ง, เพื่อชีวิต, หมอลำ, พื้นบ้านประยุกต์, หรือ สตริงร่วมสมัย ซึ่งเป็นกลุ่มตลาดที่ใหญ่และกว้างขวางทั่วประเทศ
อีกทั้งค่ายอื่นในวงการมักมีบทบาทเป็นเพียง MPU หรือ Music Production Unit แต่ อาร์สยาม มีวิธีบริหารงานและมีสื่อที่ครบวงจร ทั้งส่วนรายการโทรทัศน์ แบบฟรีทีวี และเคเบิ้ล, ส่วนวิทยุทั้งที่กระจายเสียงจากส่วนกลาง หรือ สถานีเพลงฮิตสนั่นเมือง และที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับสื่อวิทยุท้องถิ่นแทบทุกจังหวัด, ส่วนดิจิตอล, ส่วนกิจกรรมพิเศษ, รวมถึงศิลปินในค่าย ที่มีความสามารถด้านการแสดงหน้าเวทีด้วย เหล่านี้ ถือเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งของ อาร์สยาม ทั้งสิ้น ดังนั้น เมื่ออาร์สยามได้วางส่วนงานพัฒนาธุรกิจอย่างเป็นระบบ โดยใช้ทีมงานมีประสบการณ์ในสายการตลาดและออร์กาไนเซอร์ และเคยเป็นทั้งลูกค้าและผู้ให้บริการมาโดยตรง เพื่อเข้าถึงใจลูกค้าอย่างแท้จริง จึงทำให้ ส่วนงานพัฒนาธุรกิจของ อาร์สยาม เสมือนหนึ่งที่ปรึกษาธุรกิจ ที่สามารถสร้างสรรค์แผนงานตลาด หรือ สื่อสารการตลาดแบบเฉพาะตัว หรือ Tailor-made เพื่อตอบสนองเป้าหมายตลาดของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ทั้งระดับประเทศ และ ระดับท้องถิ่น หรือ ทั้ง Above the line และ Below the line อย่างครบวงจร
โดยต่างจากในอดีต ที่กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่มักได้รับประสบการณ์กรณี Above the line เป็นเพียงการซื้อสื่อผ่านบริษัทโฆษณาทั่วไปด้านหนึ่ง และเมื่อมีกรณี Below the line ก็ต้องจัดการว่าจ้างออร์กาไนเซอร์ไปทำงาน ซึ่งจะเห็นได้ว่าทั้งบริษัทโฆษณา หรือ ออร์กาไนเซอร์ มักมีพื้นเพในกรุงเทพฯ หรือส่วนกลางเท่านั้น ไม่รู้จักพื้นที่อย่างแท้จริง และการทำงานแบบแยกส่วนนี้ ทำให้ไม่มีเอกภาพ จึงเป็นทั้งความสิ้นเปลืองและไม่ตรงกลุ่มเป้าหมายอย่างที่ต้องการ
ด้วยเหตุดังกล่าว ส่วนงานพัฒนาธุรกิจ อาร์สยาม จึงใช้ระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนในปี 2551 แนะนำตัวกับลูกค้าทุกระดับจำนวนมาก กว่าร้อยบริษัทฯ และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าจำนวนมากกลับมาเช่นกัน ประกอบด้วยสินค้าหลากหลายประเภท ทั้งเครื่องดื่มบำรุงกำลัง, ค่ายรถยนต์, มอเตอร์ไซค์, ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ, หน่วยงานราชการ, สบู่, เครื่องสำอาง, สินค้าสตรี,อาหาร, วัสดุก่อสร้าง, เครื่องครัว, สินค้าเพื่อสุขภาพ, เทเลเซลล์ เป็นต้น โดยแทบทั้งหมด เป็นการให้บริการแบบ Tailor-made ซึ่ง อาร์สยาม วางแผนและจัดการตอบโจทย์ให้แบบเฉพาะตัว ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในวงการ ทำให้ลูกค้าทุกรายต่างพึงพอใจเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการประหยัดงบประมาณ และการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้โดยตรงและง่ายดาย
“ ผมมองว่า ในภาวะบ้านเมืองไม่ปกติ และความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจชะลอตัวเช่นนี้ ยิ่งทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องระมัดระวังการใช้งบประมาณการตลาดอย่างมาก โดยเฉพาะในปีงบประมาณ 2552 ซึ่งแทนที่จะเป็นผลเสีย แต่กลับเป็นโอกาสอันดียิ่งสำหรับบริษัท ฯ เรา เนื่องจากผลงานที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้ลูกค้าเดิมทั้งพึงพอใจ และลูกค้าใหม่ ให้ความสนใจมากยิ่งขึ้น โดยอาร์สยามได้เตรียมโครงงานไว้อีก มากมายในปี 52 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเข้าพื้นที่ตอบโจทย์หัวใจคนใต้, การบุกภาคอีสาน และเหนือ, รวมถึงการเข้าถึงภาคชุมชนในเขตเมืองใหญ่ โดยจะเห็นกิจกรรมดีๆ จากอาร์สยามในปีหน้าอย่างแน่นอน ” นายศุภชัยกล่าวทิ้งท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ