กรุงเทพฯ--13 ต.ค.--ปตท.
ปตท. ลดราคาน้ำมันครั้งที่ 26 ล่าสุดเบนซิน91 และกลุ่มดีเซลลงอีก 40- 80 สตางค์ ยืนยันทำหน้าที่ดีที่สุด ต้นปีถึงปัจจุบันยังคงรับภาระแทนถึงกว่า 4,000 ล้านบาท
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการที่สภาวะเศรษฐกิจโลกยังคงชะลอส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และ International Energy Agency (IEA) คาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตความต้องการใช้น้ำมันของโลกในปีนี้จะลดลงอีก 250,000 บาร์เรล/วัน อีกทั้งค่าเงินดาลล่าร์สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ15 เดือน ส่งผลราคาน้ำมันในตลาดโลกอ่อนตัวลงล่าสุดวันนี้ (13 ต.ค. 51) ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 71.65 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปในตลาดสิงคโปร์ เบนซินอยู่ที่ระดับ 88.65 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ระดับ 85.06 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรลนั้น ปตท. จึงได้ปรับลดราคากลุ่มดีเซลลงอีก 80 สตางค์/ลิตร และลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน 91 ลงอีก 40 สตางค์ต่อลิตร ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันของ ปตท. ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (14 ต.ค. 51) เป็นต้นไป เป็นดังนี้
หน่วย : บาท/ลิตร
น้ำมันเบนซิน พีทีที E 85 พลัส 18.29
น้ำมันเบนซิน พีทีที E 20 พลัส 25.19
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95 26.49
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91 25.69
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91 32.99
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที B5 พลัส 26.04
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที เดลต้า เอ็กซ์ 26.74
นายประเสริฐ กล่าวต่อไปว่า การปรับราคาทุกครั้งเป็นการพิจารณาอย่างสมเหตุสมผล สะท้อนตามกลไกตลาด ขอยืนยันว่าตลอด 30 ปี ปตท. ได้ทุ่มเททำงานหนักเพื่อคนไทยมาโดยตลอด โดยเฉพาะเรื่องราคาน้ำมันนั้น ปตท. พร้อมลดราคาน้ำมันขายปลีกทันทีที่ลดได้ โดยต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น ราคาน้ำมันตลาดโลก อัตราแลกเปลี่ยน การสำรอง และค่าการตลาดเฉลี่ย เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ซึ่งไม่สามารถดูจากราคาน้ำมันตลาดโลกหรืออัตราแลกเปลี่ยนเพียงวันใดวันหนึ่งเท่านั้น เฉพาะในช่วงนี้หากพิจารณาเฉพาะค่าการตลาดบางตัวหรือรายวันอาจจะดูว่าสูง เพราะราคาตลาดโลกผันผวนปรับตัวลดลงเร็ว แต่ในทางกลับกันค่าการตลาดเฉลี่ยทั้งปีจะมีเพียง 90 สตางค์/ลิตร เท่านั้น ซึ่งค่าตลาดที่เหมาะสมกับทุกฝ่ายทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการควรอยู่ที่ระดับ 1.50 บาท/ลิตร และเฉลี่ยถึงปัจจุบันเช่นกัน ปตท. ยังคงรับภาระจากต้นทุนราคาน้ำมันแทนผู้บริโภคไปแล้วถึงกว่า 4,000 ล้านบาท
นายประเสริฐ เปิดเผยต่อไปว่า และหากนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 — 2550 ปตท. รับภาระถึง 10,000 ล้านบาท รวมตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 จนถึงปัจจุบันได้ช่วยรับภาระเรื่องน้ำมันแทนไปแล้วถึงกว่า 14,000ล้านบาท จึงขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจและให้ความเป็นธรรมต่อ ปตท. ด้วยเช่นกัน ปตท. ได้พยายามทำหน้าที่อย่างเต็มที่และดีที่สุดแล้ว
อนึ่ง การปรับราคาลงในครั้งนี้ นับเป็นการปรับราคาลงต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 26 แล้ว (นับตั้งแต่ ก.ค. 51 เป็นต้นมา) รวมลดราคากลุ่มเบนซินลงไปแล้ว 12.70 และกลุ่มดีเซลลดลง 17.50 บาท/ลิตร
โทรศัพท์ 0-2537-2571 ส่วนสื่อสารธุรกิจน้ำมัน ฝ่ายสื่อสารองค์กร ปตท.
โทรสาร 0-2537-2572 13 ตุลาคม 2551