กรุงเทพฯ--15 ต.ค.--กฟผ.
กฟผ. ประดิษฐ์เครื่องผลิตน้ำมันไบโอดีเซล ส่งมอบให้แก่ศูนย์ความเป็นเลิศแห่งชาติฯ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อใช้ทดลองพัฒนาคุณภาพไบโอดีเซลของคนไทย ลดการพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศในอนาคต
วันนี้ (15 ต.ค.) 10.00 น. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จัดพิธีส่งมอบเครื่องผลิตน้ำมันไบโอดีเซลให้แก่ ศูนย์ความเป็นเลิศแห่งชาติด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมและของเสียอันตราย เครือข่ายแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีนายบุญอินทร์ ชื่นชวลิต ผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพล กฟผ. เป็นผู้มอบให้แก่ รศ.ดร. อุรุยา วีสกุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ณ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จ.ปทุมธานี
ผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพล กล่าวว่า กฟผ. เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่มีการศึกษาและติดตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยีพลังงานทดแทนและพลังงานหมุนเวียนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการผลิตไฟฟ้าเพื่อคนไทย ประกอบกับที่กระทรวงพลังงานมีนโยบายให้นำพลังงานหมุนเวียนและพลังงานทดแทนมาใช้ในการผลิตไฟฟ้าเสริมให้เพิ่มมากขึ้น กฟผ. จึงได้เพิ่มการศึกษา ทดลองและนำพลังงานทดแทนมาใช้ อาทิ การติดตั้งกังหันลมที่โรงไฟฟ้า ลำตะคอง การติดตั้งโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กท้ายเขื่อนกรมชลประทาน รวมถึงการคิดค้นเครื่องผลิตน้ำมันไบโอดีเซลมาใช้ผลิตน้ำมันจากวัตถุดิบเหลือใช้ ซึ่งสามารถใช้งานได้จริงกับรถยนต์ของเขื่อนภูมิพล ทำให้ได้รับความสนใจจากศูนย์ความเป็นเลิศแห่งชาติฯ และเป็นที่มาของความร่วมมือในวันนี้
“การคิดค้นเครื่องผลิตน้ำมันไบโอดีเซล ของ กฟผ. นับเป็นการสนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงให้ความสำคัญด้านพลังงานทดแทน โดยศูนย์ความเป็นเลิศแห่งชาติฯ จะนำเครื่องผลิตน้ำมันไบโอดีเซลดังกล่าว ไปใช้ทดสอบในงานวิจัยเกี่ยวกับการปรับปรุงกระบวนการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล ซึ่ง กฟผ. มุ่งหวังว่าจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพน้ำมันไบโอดีเซลของไทย ลดการพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศ และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้ต่อไป” นายบุญอินทร์กล่าว
สำหรับการประดิษฐ์คิดค้นเครื่องผลิตน้ำมันไบโอดีเซล ที่เขื่อนภูมิพล ของ กฟผ. เกิดจากความคิดในการนำน้ำมันพืชใช้แล้วจากร้านอาหารในเขื่อนภูมิพลมาใช้ประโยชน์ต่อ จึงจัดตั้งโครงการผลิตไบโอดีเซลจากน้ำมันพืชที่ใช้แล้ว โดยได้ศึกษา หาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ และสร้างเครื่องผลิตไบโอดีเซล ทดลองผลิต ไบโอดีเซล และนำมาใช้กับรถยนต์ของเขื่อนภูมิพลในที่สุด