สายการบินเอทิฮัด มุ่งมั่นในการสร้างสถิติด้านการบินครั้งใหม่

ข่าวท่องเที่ยว Wednesday October 15, 2008 14:45 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 ต.ค.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์ สายการบินเอทิฮัด สานต่อการสร้างสถิติด้านการบินครั้งใหม่ในปี พ.ศ. 2551 นี้ ด้วยการทยานนำยอดอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติภายในระยะเวลา9 เดือนแรก เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 35 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว สายการบินเอทิฮัด มีฐานการบินอยู่ที่เมืองอาบู ดาบี โดยในช่วง9เดือนที่ผ่านมาได้ให้บริการผู้โดยสารทั้งสิ้นกว่า 4.4 ล้านคน ครอบคลุมทั้ง 48 จุดหมายปลางทางทั่วโลก ซึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นจากช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว (ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม — 30 กันยายน) ซึ่งมียอดอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติอยู่ที่ 3.3 ล้านคน อัตราเฉลี่ยในการโดยสารเครื่อง (seat factor) ร้อยละ 75 แสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นภายในระยะเวลาหนึ่งปีถึงร้อยละ 7 สายการบินเอทิฮัดเริ่มต้นได้อย่างร้อนแรงในช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าทำสถิติจำนวนผู้โดยสารทั้งสิ้นกว่า 6 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนั้น ยังมีแผนการขยายจุดหมายปลายทางให้ครบ 50 เส้นทาง พร้อมทั้งขยายฝูงบินจาก 38 ลำ สู่ 42 ลำภายในสิ้นปีเช่นกัน มร.เจมส์ โฮแกน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินเอทิฮัด กล่าวว่า “ในช่วงที่ผ่านมา แม้สภาพตลาดและความซบเซาของอุตสาหกรรมโดยรวมจะก่อให้เกิดปัญหาและความท้าทายอยู่บ้าง แต่การดำเนินงานของสายการบินของเราในช่วง9เดือนที่ผ่านมานั้น ยังคงเป็นไปได้ด้วยดี และประสบความสำเร็จอย่างน่าประทับใจ” “การลงทุนที่สำคัญของเราในปีนี้ ซึ่งมุ่งไปยังผลิตภัณฑ์และบริการ ได้สะท้อนสิ่งดีๆกลับมามากมาย เรายังคงก้าวเดินได้อย่างมั่นคง ทั้งนี้เพื่อไปสู่จุดหมายในการให้บริการผู้โดยสารทั้งสิ้นกว่า 6 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้” ในทุกเที่ยวบินของเอทิฮัด มีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลา 9 เดือนแรกปีพ.ศ. 2550 ที่ผ่านมา โดยเส้นทางการบินของเอทิฮัด สู่ทวีปเอเซียและออสเตรเลียนั้น มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งด้วยจำนวนเฉลี่ยผู้โดยสารทั่วทั้งภูมิภาคที่มีระดับถึงร้อยละ 82 โดยมีจำนวนอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติในชั้นประหยัด คิดเป็นร้อยละ 84 ได้แก่ กรุงมะนิลา (ร้อยละ 94) จาการ์ตา (ร้อยละ 90) ซิดนีย์ (ร้อยละ 87) และ กรุงเทพฯ (ร้อยละ 83) ในส่วนของทวีปยุโรป เที่ยวบินสู่ดับบลิน บรัซเซล แมนเชสเตอร์ และปารีส ต่างมีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยมากกว่าร้อยละ 80 ในชั้นประหยัด ในเส้นทางการบินสู่ตะวันออกกลาง ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ได้แก่ เที่ยวบินสู่อัมมาน และดามัสกัต ซึ่งทั้งสองเส้นทาง ต่างมีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยถึงร้อยละ 78 โดยเมืองไคโร เมืองหลวงของประเทศอียิปต์ เป็นเส้นทางที่ได้รับความนิยมสูงสุดในเส้นทางสู่ทวีปแอฟริกา ด้วยจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยถึงกว่าร้อยละ 80 จำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยในผู้โดยสารชั้นธุรกิจมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึงกว่าร้อยละ 63 ในช่วง 9 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2551 เที่ยวบินที่ทำผลงานได้ดีที่สุด ได้แก่ โตรอนโต (ร้อยละ 85) นิวยอร์ก (ร้อยละ 81) และลอนดอน (ร้อยละ 79) ผลประกอบการในช่วง9เดือนแรกเพิ่มจำนวนสูงขึ้น โดยทำลายสถิติของผู้โดยสารในช่วงหน้าร้อนปีที่แล้ว โดยมีจำนวนอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติกว่า 1.6 ล้านคน ที่เดินทางกับสายการบินฯในช่วงเดือนมิถุนายน กรกฏาคม และ สิงหาคม นอกจากนั้น ในวันที่ 1 สิงหาคม เพียงวันเดียว มีผู้โดยสารจำนวน 20,721 คนที่เลือกเดินทางกับสายการบินฯ ซึ่งทำให้วันนี้เป็นวันที่มีการเดินทางหนาแน่นที่สุดในประวัติศาสตร์การเปิดให้บริการของเอทิฮัดที่กำลังเดินทางก้าวสู่ปีที่ 5 ในการให้บริการอย่างเต็มภาคภูมิ ในปีพ.ศ. 2551 ที่ผ่านมา สายการบินเอทิฮัดได้เปิดจุดหมายปลายทางใหม่ 4 เส้นทางด้วยกัน ได้แก่ ปักกิ่ง โคชิโคดิ (กาลิคัต) และ เชินไน (มาดราส) ของประเทศอินเดีย รวมถึงเมืองมินสค์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศเบลารุส นอกจากนั้น ในเดือนธันวาคม สายการบินฯจะได้เปิดตัวเที่ยวบินตรงจากอาบูดาบี ไปยังเมืองอัลมาตี้ ในประเทศคาซัคสถาน และกรุงมอสโค เมืองหลวงของประเทศรัสเซียตามลำดับ สายการบินฯยังมีแผนการขยายเส้นทางการบินไปยัง เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย และเมืองลากอส ประเทศไนจีเรียในช่วงต้นเดือนมีนาคม พ.ศ. 2552 เช่นกัน ในเดือนตุลาคมนี้ สายการบินเอทิฮัดจะได้ส่งเสริมการเดินทางไปยังประเทศออสเตรเลียมากขึ้น โดยจะได้เพิ่มเที่ยวบินรายวันไปยังซิดนีย์ เป็น 11 เที่ยวบิน ต่อสัปดาห์ รวมทั้งเพิ่มเที่ยวบินที่3 จากเที่ยวบินรายวันที่เดินทางสู่ท่าอากาศยานฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีความพลุกพล่านมากที่สุดในโลก มร.โฮแกน กล่าวเพิ่มเติมว่า “ความเจริญเติบโตของสายการบินเอทิฮัด และเมืองอาบูดาบีนั้น มีความเชื่อมโยงกันอย่างแยกจากกันไม่ได้ คงจะไม่เหมาะสมนัก หากผมไม่ได้กล่าวถึงแรงสนับสนุนสำคัญที่ทางเราได้รับจากบริษัทท่าอากาศยานอาบูดาบี อาบูดาบี แอร์พอร์ต เซอร์วิส และ กระทรวงการคมนาคมอย่างสม่ำเสมอ ในการช่วยเหลือพวกเราให้สามารถดำเนินงานได้อย่างประสบความสำเร็จและเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่งในปีพ.ศ. 2551 ที่ผ่านมานี้” ในช่วง 9 เดือนแรกของปีพ.ศ.2551 นี้ ยังคงแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในผลประกอบการของเอทิฮัด คริสตัล คาร์โก เช่นกัน โดยฝ่ายขนส่งสินค้าดังกล่าว ได้ดำเนินการขนส่งสินค้ากว่า 198,000 รายทั่วโลก ซึ่งคิดเป็นปริมาณที่เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 23 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยการขนส่งสินค้าทั้งหมด คิดเป็นน้ำหนักรวมทั้งสิ้นกว่า 150,000 ตัน จุดสำคัญสำหรับเอทิฮัด คริสตัล คาร์โก ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีก็คือ การเริ่มให้บริการสำหรับลูกค้าที่มีความประสงค์ในการส่งสัมภาระหรือกระเป๋าเดินทางล่วงหน้าก่อนการเดินทางกับสายการบินฯ ทั้งนี้ด้วยอัตราให้บริการในราคาพิเศษซึ่งมีราคาต่ำกว่าการเสียค่าธรรมเนียม ในกรณีที่มีน้ำหนักสัมภาระเกินกว่าที่กำหนดไว้ ในขณะที่เอทิฮัด ฮอลิเดย์ ประสบความสำเร็จในการดำเนินงานช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาเช่นกัน โดยได้ทำการเปิดตัวฮอลิเดย์ช็อปขนาดใหญ่ถึง 3 สาขา ในศูนย์การค้าอัล วานดา ศูนย์การค้าคาลิดิยา และ ศูนยการ์ค้ามารินาในเมืองอาบู ดาบี โดยมีรายได้สุทธิเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 120 เมื่อเทียบกับปีพ.ศ. 2550 ในขณะเดียวกัน สายการบินเอทิอัดได้ตั้งเป้าหมายที่จะมีผู้โดยสารใช้บริการปีละกว่า 25 ล้านคน พร้อมตั้งเป้าขยายเส้นทางการบินจาก 50 สู่ 100 จุดหมายปลายทางภายในปีพ.ศ. 2563 นอกเหนือจากอัตราการเจริญเติบโตด้านเครือข่ายการบิน ซึ่งสอดคล้องกับการสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสและโบอิ้งกว่า 100 ลำ ซึ่งมีการลงนามสั่งซื้อ ณ งานฟาห์นโบโร แอร์โชว์ ณ สหราชอาณาจักรในปีนี้ จำนวนเจ้าหน้าที่ของสายการบินฯยังคาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นถึง 27,000 คนภายในปี พ.ศ. 2563 จากปัจจุบันที่มีจำนวนทั้งสิ้น 6,600 คน ซึ่งส่วนมากประจำอยู่ที่อาบูดาบี สำหรับข้อมูลหรือรูปภาพเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ ภาริสา ฉายากุล/ เมธาวรินทร์ มณีกูลพันธ์ บริษัท โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์ (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0 2260-5820 ต่อ 121 โทรสาร 0 2260-5847-8 อีเมล์ samui@tqpr.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ