กรุงเทพฯ--15 ต.ค.--สหมงคล ฟิล์ม
Q. พูดถึงตัวละครที่คุณเล่นให้เราฟังหน่อย
A. ณอน แอนเดอร์ ซึ่งเป็นผู้กำกับ เป็นคนที่เปิดโอกาสให้ผมได้ใช้ไอเดียของตัวเองในการสร้างตัวละครนี้ขึ้นมา ผมบอกว่าผมอยากจะใส่เข็มขัดหนัง กางเกงยีนส์ฟอกสี เสื้อหนังมอเตอร์ไซค์แบบนี้ เหตุเพราะใน รัฐโอกลาโฮม่า ผมโตมากับคนแบบนี้ ผมรู้จักเขาเป็นอย่างดี เขาชอบขับรถเร็ว และคิดว่าตัวเองดูเท่ดูเจ๋ง แต่ความจริงแล้วผมว่าเขาเหมือนเกย์มากกว่า
Q. สิ่งไหนที่ทำให้คุณชื่นชอบภาพยนตร์เรื่องนี้
A. สิ่งแรกเลยคือตัวละครหลัก รวมถึงโครงสร้างของภาพยนตร์เรื่องนี้ นี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กเนิร์ดสองคน คนหนึ่งคิดว่าตัวเองเป็นพวกเสือผู้หญิง และอีกคนหนึ่งเป็นเด็กเนิร์ดอย่างสมบูรณ์แบบ อย่างไรก็ตามคุณก็ยังคอยเอาใจช่วยพวกเขา เพราะผมว่าพวกเราทุกคน ก็ต่างที่มีช่วงหนึ่งของชีวิตในวัยเรียนที่เติบโตมาเป็นเด็กเนิร์ด
Q. แล้วสไตล์ของตลกล่ะ มันเป็นแบบไหน
A. ถ้าดูเผินๆแล้ว นี้อาจจะเป็นแค่ภาพยนตร์ตลกเจ็บตัวธรรมดา แต่มันก็ยังมีช่วงเวลาที่อ่อนโยนและจริงใจอยู่เช่นกัน และมันก็ยังมีเรื่องที่เจ๋งมากในสิ่งที่ ณอน ตัดสินใจ ก็คือถ้ามีสิ่งไหนที่ดูแล้วไม่ตลกอย่างที่คาด เขาก็จะให้พวกเราอะไรที่ต่างออกไปในสถานการณ์เดียวกันนั้น ซึ่งมันก็ออกมาดีกว่าเดิมอีกด้วย
Q. ช่วยพูดถึงบทภาพยนตร์หน่อย
A. ผมคิดว่านี้เป็นบทภาพยนตร์ที่ตลกที่สุดที่ผมเคยอ่านมา และเมื่อคุณอ่านบทแล้ว คุณก็จะเกิดความกลัวว่ามันจะไม่เป็นอย่างที่ได้เขียนเอาไว้ คุณจะมีความกังวลว่า ใครเป็นผู้กำกับ หรือใครเป็นนักแสดงร่วมจอ แล้วพวกเขาจะเห็นอย่างที่ผมเห็นในหัวไหม พวกเขาจะทำให้มันเป็นเวอร์ชั่นที่แย่ไปกว่าเดิมไหม ซึ่งคุณก็จะหวังไว้ว่ามันจะเป็นเวอร์ชั่นที่ฉลาดและตลกอย่างที่เห็นในบท และเมื่อคุณได้ใช้เวลาสองสามวันบนกองถ่าย คุณก็จะรู้เลยว่า ณอน เข้าใจในเสน่ห์ที่มีอยู่ในบทภาพยนตร์นี้
Q. อะไรเป็นแรงบันดาลใจในการรับเล่นบทนี้
A. ผมไม่เคยเล่นอะไรที่เป็นแบบนี้มาก่อน ผมโตขึ้นมากับการดูหนังประเภทนี้ ผมคิดว่ามันมีส่วนผสมระหว่าง Sixteen Candles, Porky's, The Sure Thing, Better Off Dead..., Weird Science และยังมี Fast Times at Ridgemont High ที่อยู่ในช่วงยุค 80's ซึ่งเป็นช่วงที่ผมกำลังเป็นวัยรุ่นอยู่พอดี ผมก็รู้สึกยินดีมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมัน
Q. เรื่องการเตรียมตัวมารับบทนี้ล่ะ
A. มันไม่ยากสำหรับตัวละครนี้ที่จะสามารถเล่นอะไรได้เลยเถิด ซึ่งมันก็ยังอยู่ในบทภาพยนตร์ทั้งหมด คุณไม่ต้องนั่งคิดอะไรให้มากมายเลย ปล่อยให้ภาพยนตร์มันทำหน้าที่ของมันอย่างสมบูรณ์แบบ และไม่พยายามฝืนเล่นมุขซ้อนมุขเข้าไปเท่านั้นเอง
Q. ฉากประตูโรงรถ นั้นเป็นประตูจริงหรือเปล่า หรือว่าเป็นประตูที่ทำขึ้น
A. มันเป็นประตูโรงรถจริง แต่ว่าก็มีทีมงานที่ทำให้ประตูนั้นมันหักงอได้ง่าย แต่เรื่องมันมีอยู่ว่ามันยังไม่ได้ถูกใส่เข้าไป เพราะฉากนั้นมันต้องถูกสั่งคัทตอนที่ผมดึงประตูขึ้นไป แต่ช่วงนั้น ณอน กำลังหันไปพูดกับทีมงานพอดี ผมก็เลยแสดงเลยตามเลย ซึ่ง ณอน ก็หันกลับมามองที่จอมอนิเตอร์แล้วพูดว่า ‘เยี่ยมเลย เยี่ยมมาก’ แต่ทีมงานก็มากระซิบว่า ‘ประตูนั้นยังไม่ได้ทำให้อ่อนนุ่มเลยน่ะ’ ณอน จึงพูดกับทีมงานว่า ‘อ้าวเหรอ แล้ว เจมส์ จะได้รับบาดเจ็บไหมเนี่ย’ แต่พอเขาเห็นผมออกแอ๊กชั่นทำลายประตูซะขนาดนั้นแล้ว เขาก็จึงปล่อยเลยตามเลยเช่นกัน”
Q. คุณรับเล่นทุกอย่าง ตั้งแต่บทใน Ally McBeal จนมาถึงบท ไซคล็อป ใน X-Men แต่เมื่อเราเห็นตัวละครตัวนี้ ที่เหมือนกับการล้อตัวเอง คุณคิดว่าจะมีนักแสดงมากคนไหม ที่จะกล้ารับเล่นบทแบบนี้
A. ผมแค่เข้าไปอยู่ในกองถ่าย และพยายามไม่คิดถึงเรื่องต่างๆมากจนเกินไป ช่วงสองสามปีที่ผ่านมานี้ ผมรู้สึกว่าการเลือกรับเล่นภาพยนตร์ของตัวเอง จะดูผ่อนคลายมากขึ้น โดยมีจุดประสงค์หลักในการทำตัวเองรู้สึกสนุก และในภาพยนตร์เรื่องนี้ผมก็รู้สึกสนุกมาก
Q. แต่ในสถานการณ์ของช่วงนี้ของอาชีพ คุณเคยคิดว่า "โอเค ผมจะทำทุกอย่าง นอกจากใส่ชุดโดนัทอย่างนี้" บ้างไหม และคุณมีการขีดเส้นแบ่งไหมว่าอะไรที่มันอาจจะมากเกินไป
A. ผมคิดว่าถ้าตัวเองเหมาะกับบทนั้น ผมก็คงสวมมันอย่างแน่นอน ผมไม่มีอีโก้ในการที่จะไม่ยอมทำให้ตัวเองดูน่าขัน ผมยอมเป็นคนแบบนั้น มากกว่าที่จะเป็นคนที่คอยระวังอิมเมจของตัวเอง หรือคอยห่วงหล่ออยู่ตลอดเวลา ผมอยากที่จะเป็นตัวตลกของคนดูมากกว่าแบบนั้น