กรุงเทพฯ--15 ต.ค.--สหมงคลฟิล์ม
ถือเป็นการรวมทีมงานชั้นหัวกะทิในทุกสาขาให้มาสร้างสรรค์ผลงานชิ้นสุดยอดอย่างภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง “ปืนใหญ่จอมสลัด” ของผู้กำกับมือดี “นนทรีย์ นิมิบุตร” ไม่เว้นแม้แต่งานด้าน “ดนตรีประกอบภาพยนตร์” ที่เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่จะสร้างสีสันและเพิ่มความสนุกให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้มากยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งก็ได้มืออาชีพและมือรางวัลในการทำดนตรีประกอบในอันดับต้น ๆ ของไทยอย่าง “ป้อ - ชาติชาย พงษ์ประภาพันธ์” (นางนาก, จันดารา, โอเคเบตง, โหมโรง, ก้านกล้วย ฯลฯ) มาร่วมบรรเลงเสียงเพลงและสร้างสรรค์ดนตรีอันแปลกใหม่และไม่เคยได้ยินมาก่อนในภาพยนตร์ไทยเรื่องไหน ๆ ได้อย่างน่าประทับใจ
“ความน่าสนใจของดนตรีประกอบเรื่องนี้ก็จะเป็นสิ่งที่เรายังไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย จะมีเครื่องดนตรีประเภทเครื่องเคาะทางมลายู เช่น กำมะลันของอินโดนีเซีย, เพอร์คัสชั่นของมาเลเซีย, เครื่องปี่ทางภาคใต้ จะเป็นเครื่องดนตรีที่ทำให้หนังมันเป็นแฟนตาซี แล้วการใช้เสียงร้องด้วยภาษาใหม่ ๆ มาเป็นดนตรีหลักในเรื่อง ก็ทำให้หนังมันดูน่าสนใจมากขึ้น
ธีมหลัก ๆ ของเรื่องก็จะมี “อภินิหารธีม” ที่เป็นธีมของปารี (อนันดา), พลังดูหลำ มีปี่มีเสียงร้อง ถ้าพูดถึงตัวปารีมันจะเป็นอีกส่วนหนึ่งของหนังที่แยกออกมาเลย เพราะมันเป็นแฟนตาซีอภินิหาร ส่วนนี้ก็จะพูดถึงความเป็นเด็กกำพร้า ความเคียดแค้น แล้วก็ประสบการณ์การสูญเสีย การพลัดพรากต่าง ๆ ที่นำไปสู่การฝึกวิชาดูหลำ ในส่วนนี้ซาวด์หรือเมโลดี้ก็ออกไปทางเครื่องเคาะของอินโดนีเซียที่เรียกว่า กำมะลัน คล้าย ๆ ฆ้องบ้านเราแต่มีความหลากหลายกว่านิดหนึ่ง
แล้วอีกธีมก็เป็น “ลังกาสุกะธีม” แสดงให้เห็นความรักชาติ ความฮึกเหิมของชาติ ก็จะเป็นเสียงร้องประสานกันแบบใหญ่ ๆ สร้างความฮึกเหิม เป็นเสียงที่เราสร้างขึ้นมา เป็นการจำลองภาษาขึ้นมาทำให้เกิดภาษาแบบใหม่ขึ้นเรียกว่าภาษาบาฮาซาร์ เป็นภาษาที่ไม่มีอยู่จริง ไม่มีความหมายจริง ๆ เราดีไซน์มันขึ้นมา แต่เราก็ศึกษาว่าเขามีพยัญชนะกี่ตัว สระกี่ตัว และจับการออกเสียงของภาษานั้นแต่ไม่ให้เหมือนภาษานั้น ใครจะตีความหมายยังไงก็ได้ เพราะเป็นเจตนาของเราอยู่แล้ว เพราะถ้ามีความหมายที่ชัดไปเลย มันก็จะบล็อกจินตนาการของคนดูได้ เพราะถ้าเราฟังแล้วรู้ความหมาย มันก็จะชี้นำได้ ว่ากำลังพูดถึงอะไร เสียงร้องมันคือ Music Instrument อันหนึ่งที่ไม่จำเป็นต้องมีความหมายก็ได้ เป็นการเอาเสียงร้องมาใช้ให้เกิดความรู้สึกต่าง ๆ ได้
เรื่องนี้ใช้เวลาทำดนตรีประกอบนานเป็นครึ่งค่อนปีเลยนะครับ ทำไปพร้อม ๆ กับซีจี ที่มันนานเพราะเรื่องนี้มันมีเพลงทั้งเรื่องเลย ถ้าหนัง 2 ชั่วโมง เพลงก็จะประมาณ 100-110 นาทีเลย ดนตรีประกอบคือตัวสร้างบรรยากาศ หนังแฟนตาซีเนี่ย ดนตรีประกอบมันจะเยอะ โดยเฉพาะ 40 นาทีสุดท้าย หนังมันจะยิ่งใหญ่มาก เพลงเราก็ต้องใหญ่ตามไปด้วย
ก็ถือว่ายากที่สุด ก็จะเหนื่อยกว่าหนังไทยเรื่องอื่น ๆ เป็น 2 เท่า มันเป็นการหนีจากสิ่งที่เราเคยทำมาด้วย มีอะไรใหม่ ๆ รอเราอยู่ข้างหน้า เราก็พยายามจะดีไซน์ หรือทำอะไรใหม่ ๆ ให้เป็นสีสันกับภาพยนตร์ไทยทุก ๆ เรื่องด้วยครับ”
ติดตามชมความยิ่งใหญ่อลังการนี้ได้ใน“ปืนใหญ่จอมสลัด”เกริกก้องทั่วหล้า 23 ตุลาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์