กรุงเทพฯ--16 ต.ค.--พับบลิค ฮิต
f ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เตรียมสร้างความสดชื่นให้กับคนเมืองอีกครั้ง ด้วยการจัดงาน “Central 61st Anniversary Celebration” เพื่อเฉลิมฉลองการก้าวเข้าสู่ปีที่ 61 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พร้อมเนรมิต “ทุ่งดอกคอสมอส” (Cosmos) หรือ ดอกดาวกระจาย สายพันธุ์จากอเมริกากลาง ที่สั่งเพาะขึ้นพิเศษสำหรับงานมหัศจรรย์พรรณไม้ครั้งยิ่งใหญ่ประจำปี ภายใต้คอนเซปต์ Central…Love The Earth ที่ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ทุ่มงบกว่า 120 ล้านบาท นำมาจัดให้ได้ชมกันอย่างจุใจกลางเมืองหลวงเป็นครั้งแรกในเมืองไทย ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม — 2 พฤศจิกายน 2551 ณ บริเวณลานมรกต
ยุวดี จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด กล่าวระหว่างการแถลงข่าวงาน“Central 61st Anniversary Celebration” ที่จัดขึ้น ณ บริเวณ ชั้น1 เซ็นทรัลชิดลมว่า เพื่อเป็นการตอบแทนลูกค้าผู้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเติบโตและประสบความความสำเร็จจนกลายมาเป็นห้างสรรพสินค้าอันดับ 1 ของคนไทย และเพื่อเป็นการฉลองครบ 61 ปี ในปีนี้ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลทุ่มงบการตลาดประมาณกว่า 120 ล้านบาท จัดงาน “Central 61st Anniversary Celebration” อย่างยิ่งใหญ่ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Central…Love The Earth” ที่จะเนรมิตห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาชิดลม ให้เป็นสวนสวรรค์แห่งดอกไม้และพรรณไม้นานาพันธุ์ ให้ลูกค้าได้ชื่นชมกับธรรมชาติกันถึงใจกลางกรุงเทพฯ อย่างใกล้ชิด พร้อมด้วยโปรโมชั่นพิเศษสุดเฉพาะการเฉลิมฉลองครบ 61 ปีในครั้งนี้เท่านั้น เพื่อลูกค้าคนสำคัญได้อิ่มเอมกับธรรมชาติและเต็มอิ่มกับการเลือกซื้อสินค้ากลางสวนภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลตลอด 5 วัน
“ปีนี้เป็นปีที่ 14 แล้ว ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลจัดงานดอกไม้ภายในห้างสรรพสินค้า ซึ่งเซ็นทรัลเป็นห้างฯ แรกที่ริเริ่มการจัดดอกไม้ในห้างฯ และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองปีที่ 61 เราจึงอยากขอบคุณพร้อมกับทำสิ่งพิเศษเพื่อตอบแทนลูกค้าของเซ็นทรัลทุกคน ด้วยการจัดงานดอกไม้ซึ่งปีนี้จะมีความพิเศษมากกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากเราต้องการให้ประชาชนคนไทยเล็งเห็นถึงสภาวะโลกร้อน จึงใช้คอนเซปต์ Central…Love The Earth โดยในปีนี้เราจะเน้นดอกกุหลาบเป็นหลัก เพราะดอกกุหลาบเป็นดอกไม้ที่แสดงออกถึงความรัก เนื่องจากสภาพบ้านเมืองเราตอนนี้ ต้องการความรักมากที่สุด
แล้วที่พิเศษไปกว่านั้นเราได้จัดทุ่งดอกคอสมอส ที่ลานมรกตบนพื้นที่ 1,500 ตารางเมตร ซึ่งเราสั่งปลูกดอกคอสมอสขึ้นมาเป็นพิเศษกว่า 40,000 ต้น ในโทนสีชมพู ขาวและม่วง เพื่อเนรมิตให้กลายเป็นสวนอันรื่นรมย์ทั้งยังจัดให้มี ‘กาเซโบ’ (Gazebo) หรือซุ้มพักผ่อนกลางสวน 3 ซุ้ม ภายในของทุกซุ้มจะประกอบไปด้วยไม้เลื้อยสอดพันกาเซโบคล้ายเถาวัลย์ และต้นมอสเขียวชะอุ่มสบายตาที่จะปกคลุมไปทั่ว ให้ความรู้สึกชุ่มชื้นเหมือนอยู่ในขุนเขากลางป่า ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
- ซุ้มขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 6 เมตร ปกคลุมไปด้วยความเขียวขจีของต้นไม้ มีงูใบไม้ที่พันเลื้อยโยงอยู่รอบๆ กาเซโบให้ความรู้สึกถึงธรรมชาติที่ชุ่มชื้น
- ซุ้มขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 7 เมตร ภายในประกอบไปด้วยกระเช้าดอกไม้หลากสีสันที่สวยงาม ทำให้ผู้ที่เข้าไปชมสบายตาเมื่อพบเห็น
- ซุ้มขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 เมตร ที่มีความสูงที่สุดคือ 10 เมตร จะมีต้นไม้ใหญ่สูงถึง 8 เมตร ปกคลุมให้ความร่มรื่นอยู่ภายในซุ้ม เพื่อคนที่เข้ามาชมได้นั่งพักผ่อนรู้สึกผ่อนคลายและเย็นสบาย
“อยากจะเชิญชวนทุกคนให้มาชื่นชมความสวยงามของทุ่งดอกคอสมอสสวนนี้ด้วยกัน เพราะห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลตั้งใจจัดทำขึ้นมาเพื่อตอบแทนลูกค้าและประชาชนทุกคนจริงๆ โดยสวนนี้เราจะพยายามให้คงความสวยงามบริเวณลานมรกตตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคมไปจนถึงเดือนธันวาคมกันเลย”
“นอกจากนี้เราอยากให้ทุกคนสุขใจไปกับธรรมชาติที่งดงามอยู่รอบตัวเรา อยากให้คนทุกคนรักธรรมชาติและพร้อมที่จะดูแลดอกไม้และต้นไม้ที่อยู่รอบๆตัวเรามากขึ้น เช่น การคำนึงถึงภาวะโลกร้อนที่เป็นปัญหาที่ควรตระหนักและแก้ไขในปัจจุบัน การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เหมาะสม เพื่อให้ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ดีอยู่คู่โลกนี้ไปอีกนานๆ” กรรมการผู้จัดการใหญ่ห้างเซ็นทรัล กล่าว
ไม่เพียงแต่ทุกคนจะได้รื่นรมย์กับทุ่งดอกคอสมอสบริเวณลานมรกตแล้วเท่านั้น ภายในบริเวณห้างตั้งแต่ชั้น 1 ไปจนถึงชั้น 7 ยังจะอบอวลไปด้วยดอกกุหลาบหลากสายพันธุ์ และ 18 สายพันธุ์พิเศษ รวมทั้งพรรณไม้นานาพันธุ์ตกแต่งประดับประดาทั่วทั้งห้างเป็นรูปทรงของสัตว์ชนิดต่างๆ เพื่อให้เข้ากับแนวคิด ‘Central….Love The Earth’ ด้วยฝีมือการรังสรรค์อย่างงดงามของ 3 ฟลาวเวอร์สไตลิสต์ระดับแนวหน้าของเมืองไทย คือ สันติพงษ์ คงรักษ์, ธาตรี วัฒนยืนยง และ สุขสันต์ เจียมโฆษิต ซึ่งจะมาโชว์ไอเดียและฝีมือจากการจัดดอกไม้โดยสื่อถึงความหมายออกมาหลากหลายอารมณ์ผ่านโทนสีของดอกกุหลาบตามแต่มุมมองและธีมของแต่ละคนในแต่ละชั้น
สีสันในงานแถลงข่าว แต่ก็ยังได้รับความร่วมมือจาก 3 ฟลาวเวอร์สไตลิสต์ มาโชว์ไอเดียและฝีมือการจัดดอกไม้ของตัวเองให้ได้ชื่นชม ในธีมส่วนตัวของแต่ละคน ที่แตกต่างกันออกไปตามสินค้าที่วางจำหน่ายในแต่ละชั้น
โดย “เอก” สันติพงษ์ คงรักษ์ ที่รับผิดชอบตกแต่งดอกไม้บริเวณชั้น 1 ชั้น 5 และ ชั้น 6 กล่าวว่า เนื่องจากโซนที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบ มีความกว้างขวางเพราะเป็นโถงกลางห้างฯ บริเวณชั้น 1 จึงจัดดอกให้อยู่ในคอนเซปต์ “กุหลาบในป่าฝน” ที่จะให้ลูกค้าและทุกคนที่เดินเข้ามาชมในห้างฯ รู้สึกชุ่มชื้นไปกับป่าฝน สีสันชั้นนี้ จึงเน้นโทนสีม่วง น้ำเงิน มาจับคู่กับสีเขียวของใบไม้ ใบเฟิร์น เพื่อให้รู้สึกถึงป่าฝนมากยิ่งขึ้น
“ในส่วนของโถงกลาง จะจัดเป็นสวนลอยฟ้าแนวดิ่ง รับกับสะพานที่ทอดยาวเหนือศีรษะเป็นรูปม้าน้ำขนาดใหญ่ พร้อมตกแต่งด้วยดอกกุหลาบหลากสายพันธุ์ ที่จะให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในป่ากุหลาบ ส่วนชั้น 5 เป็นแผนกเครื่องแก้ว เครื่องครัว สีสันในชั้นนี้จะเน้นโทนสีพาสเทลอ่อนๆ สีสว่างๆ อย่างสีขาว สีเบจ ไฮไลท์จะอยู่ที่โครงซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับแจกันที่สามารถเรืองแสงได้ และให้ความรู้สึกเหมือนแสงดาวที่พร่างพราวเป็นประกาย
ชั้น 6 ที่เป็นแผนกเด็ก สันติพงษ์นึกถึงความสดใสของเด็กๆ ผ่านสีสันที่สดใสของดอกไม้โดยเฉพาะสีแดง ที่เราจะนำมาใช้ทุกเฉดสีพร้อมที่จะสื่อถึงความสดชื่นและความสนุกสนานในวัยเด็ก ชั้นนี้จะให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในงานคานิวัล มีการตกแต่งด้วยขนนก แล้วนำวัสดุธรรมชาติมาประดับเป็นหลักด้วย
ทั้ง 3 ชั้นนี้ ยังคงคอนเซปต์ “Central…Love The Earth” เป็นหลัก ซึ่งดอกไม้ที่นำมาใช้เป็นหลักคือดอกกุหลาบ ที่มีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ แต่จะมีดอกไม้ชนิดอื่นๆ มาประกอบด้วย เพื่อให้ดูมีวาไรตี้มากขึ้น
“ซึ่งดอกไม้ที่นำมาใช้จัดในงานครั้งนี้มหาศาลมาก เนื่องจากผมได้รับผิดชอบในพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุด แล้วโจทย์ที่ผมได้รับมาก็ต้องมาวางแผนว่า จะทำอย่างไรให้ดอกไม้ดูเด่นไม่ถูกกลืนไปกับสินค้าที่วางจำหน่ายอยู่ในห้างฯ ด้วย” เอก-สันติพงษ์ กล่าว
ด้าน “เล็ก” ธาตรี วัฒนยืนยง ที่รับผิดชอบจัดดอกไม้ชั้น 2 และ ชั้น 3 เล่าถึงการจัดดอกไม้ในแต่ละชั้นว่า ชั้น 2 เป็นแผนกของเสื้อผ้าสตรี ดังนั้นการจัดดอกไม้จึงนำเสนอมุมมองความรักของผู้หญิง ที่มีต่อโลกใบนี้ โดยได้แนวคิดหลักมาจาก ความสวยงามของกลางวันและกลางคืน โดยใช้พระอาทิตย์และพระจันทร์มาเป็นสื่อแทนทั้งสองสิ่งนี้ และมีผีเสื้อมาเป็นตัวแทนของสิ่งมีชีวิต ดังนั้นโทนสีของดอกไม้ จะเน้นโทนสีหวานๆ อย่าง ขาว ชมพู ม่วง
“ดอกกุหลาบที่นำมาใช้ก็จะไล่โทนสีกันไป โดยในส่วนของกลางวัน ที่มีพระอาทิตย์มาเป็นตัวแทน จะใช้ดอกกุหลาบสีแดงมาจัดเป็นรูปดอกกุหลาบดอกใหญ่ เปรียบเหมือนใจกลางพระอาทิตย์ ที่ร้อนแรง และแผ่รัศมีส่งมายังโลก นอกจากนั้นยังมีดอกกุหลาบสีชมพู ไล่สีมาจนถึงสีขาว นางฟ้าที่เป็นตัวแทนสรรพสัตว์ จะมีปีกสีชมพู-ขาว เน้นให้เป็นสี สดใส อ่อนหวาน
ส่วน กลางคืน ที่ใช้พระจันทร์เสี้ยวมาเป็นสื่อ สีของดอกไม้จะเป็นโทนสีม่วง-ชมพู-ครีม-ขาว เป็นโทนอบอุ่น สบายตา เหมือนแสงจันทร์ (อีกนัย หนึ่ง พระจันทร์เสี้ยว มาจาก ตัว C ของ CENTRAL) และตัวนางฟ้าก็ใช้โทนสีเดียวกันตกแต่ง
ชั้น 3 เป็นแผนกวัยรุ่น ชั้นนี้ผมจึงนำเสนอให้เกี่ยวกับการรีไซเคิล จัดตกแต่งดอกไม้ที่มีส่วนผสมของถ้วยกระดาษ กิ่งไม้ ใยบวบ โคมด้าย มาเป็นส่วนประกอบ เพื่อสื่อให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ของเด็กวัยรุ่น ดอกไม้ที่นำมาใช้ก็จะมีดอกกุหลาบซึ่งเป็นดอกไม้หลักของการจัด แล้วก็จะมีดอกกล้วยไม้ที่มีสีสันหลากหลายนำมาผสมผสานกันด้วย” เล็ก-ธาตรี กล่าว
ส่วนมือจัดดอกไม้คนสุดท้าย “แซม” สุขสันต์ เจียมโฆษิต ที่รับผิดชอบจัดดอกไม้ชั้น 4 และชั้น 7 เผยถึงการออกแบบในครั้งนี้ว่า เนื่องจากชั้น 4 เป็นแผนกเสื้อผ้าผู้ชาย ดังนั้นจึงนำคอนเซปต์ “ผู้ชายในสายน้ำ” มาใช้ โดยจะเน้นดอกไม้ในโทนสีเข้มอย่างน้ำเงิน ม่วง เป็นโทนหลัก เพื่อสื่อถึงความเข้มแข็งของผู้ชาย ทั้งนี้ยังได้นำกระจกกับน้ำมาผสมผสานเอาไว้ในชั้นนี้ด้วย โดยจะแสดงให้เห็นว่าในความเข้มแข็งของผู้ชาย ก็ยังแฝงไปด้วยความอ่อนโยนและเยือกเย็นดุจดั่งสายน้ำ
“ชั้น 4 เป็นแผนกของผู้ชาย จะทำให้ดูหวานๆ ไม่ได้ ต้องนึกถึงความเท่ๆ โก้ๆ ของผุ้ชายเป็นหลัก ซึ่งดอกไม้ที่เรานำมาใช้จะไม่มีการย้อมสีแต่อย่างใด จะเป็นการนำสีธรรมชาติของดอกไม้แต่ละชนิดมาผสมผสานกัน ความยากจะอยู่ที่การนำดอกไม้มาจัด เพราะดอกไม้จะมีความหวานอยู่ในตัว เราจะทำยังไงให้ดอกไม้แสนหวานเหล่านั้นดูเท่ขึ้นมาแบบผู้ชาย ตรงนี้สำคัญมาก แล้วนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ผมนำกระจกกับน้ำมาใช้เป็นลูกเล่นตรงนี้ เพื่อไม่ทำให้นิ่งจนเกินไป แล้วก็เป็นการตกกระทบของแสงและเงาด้วย
ส่วนชั้น 7 ที่เป็นชั้น FoodLoft คอนเซปต์ของชั้นนี้คือ สีสันของอาหาร โดยจะใช้สีสันจากผัก ผลไม้ ที่มีอยู่หลากสีอยู่แล้ว นำมาจัดตกแต่งควบคู่ไปกับดอกไม้ ทำให้รู้สึกถึงความสดใสเพื่อเป็นการเพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหารไปด้วย และเป็นชั้นที่เล่นสีสันได้มากที่สุด โดยจะเน้นสีสดๆ อย่างแดง ส้ม เหลือง มาตัดกับผักสีเขียว Colorful มากๆ สำหรับชั้นนี้
“ชั้นนี้ผมสะท้อนให้เห็นถึงงานศิลปะ ในส่วนของเสาที่เป็นฐานดอกไม้ ซึ่งผมจะนำเมล็ดธัญพืชหลากชนิด ไม่ว่าจะเป็น ถั่วเขียว ถั่วดำ ข้าวเปลือก เมล็ดข้าว ข้าวโพด ลูกเดือย มาติดเรียงเป็นลวดลายบริเวณเสาของฐานดอกไม้ ซึ่งยากมาก ๆเพราะนอกจากต้องเรียงเมล็ดให้มีความสวยงามแล้ว ยังต้องทำทับกัน 2 ชั้นขึ้นไป แล้วต้องรอให้ฝั่งใดฝั่งหนึ่งแห้งสนิทก่อน ถึงจะพลิกเสาไปทำอีกฝั่งได้ ซึ่งต้องใช้เวลาในการทำค่อนข้างมาก และเสาแบบนี้มีอยู่หลายสิบต้นที่จะต้องทำด้วย แต่ผมก็พร้อมที่จะนำมาประดิษฐ์เพื่อให้ทุกคนได้ชื่นชมกัน” แซม-สุขสันต์ อธิบายขั้นตอนในการทำ
ไม่เพียงเท่านั้น บริเวณ Window Display บริเวณนอกห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล จะถูกจัดให้ดูมีมิติน่าสนใจมากขึ้น เนื่องจากปีที่ผ่านมา เป็นปีแรกที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลจัดดอกไม้สดใน Window Display ซึ่งได้รับคำชมจากลูกค้า รวมถึงประชาชนผู้ที่สัญจรไปมาผ่านห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเป็นอย่างมาก ปีนี้จะมีการจัดดอกไม้ใน Window Display อีกครั้งหนึ่ง โดยทีมงานจัด Window Display ของห้างเซ็นทรัลที่รับรองว่าอลังการไม่แพ้ในห้างฯอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ยุวดี จิราธิวัฒน์ ยังกล่าวด้วยว่า ไม่เพียงแต่ลูกค้าเซ็นทรัลจะได้ชื่นชมกับดอกไม้เท่านั้น แต่ปีนี้ยังได้รับเกียรติจาก Ms. Arianna Caroli ศิลปินชื่อก้องโลกชาวอิตาเลียน ซึ่งปีที่แล้วในงานฉลอง 60 ปี ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ได้ฝากผลงานภาพวาดสีน้ำมันรูปดอกบัว และดอกทิวลิปมอบไว้ให้กับห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลอย่างสวยงาม ปีนี้จึงนำภาพวาดเหล่านั้น มาจัดทำเป็นลวดลายบนถุงผ้าคอลเลคชั่นพิเศษ ซึ่งผลิตจากผ้าแคนวาส หูของกระเป๋าเป็นหนังแท้สีดำ โดยจะจำหน่ายใน ราคา 995 บาท ผลิตขึ้นมาจำนวนจำกัดเพียง 5,000 ใบเท่านั้น ทั้งนี้รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจากการจำหน่ายส่วนหนึ่ง จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมทบทุนมูลนิธิชัยพัฒนา
“ถุงผ้าที่เราทำขึ้นมานี้ เพื่อต้องการรณรงค์ให้ลูกค้าและประชาชนทั่วไปลดการใช้ถุงพลาสสติกให้น้อยลง เราจึงติดต่อไปยัง Ms. Arianna Caroli ขอนำภาพดอกไม้ที่เธอวาดให้กับห้างเซ็นทรัลเมื่อปีที่แล้ว มาพิมพ์เป็นลวดลายของกระเป๋า ซึ่ง Ms.Arianna ก็ตอบรับมา จากนั้นเราก็คิดกันว่าจะวางรูปแบบของภาพพิมพ์นี้ลงบนกระเป๋ายังไง กว่าจะผลิตออกมาเป็นกระเป๋าใบนี้ ใช้เวลานานพอสมควร เพราะเริ่มทำกันตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งกระเป๋าใบนี้จะจำหน่ายวันที่ 29 ตุลาคม นี้เป็นวันแรก โดยในวันนั้นทุกคนที่ซื้อจะได้รับลายเซ็นของ Ms. Arianna Caroli ลงบนถุงผ้าด้วย” ยุวดี กล่าว
ด้าน Ms. Arianna Caroli ศิลปินนักวาดภาพชื่อก้อง กล่าวว่า นับเป็นความยินดีอย่างยิ่ง ที่เธอได้มีส่วนร่วมในงานเฉลิมฉลอง 61 ปี ของ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล โดยที่ภาพของเธอได้มีโอกาสมาพิมพ์อยู่บนกระเป๋าผ้าคอลเลกชั่นล่าสุดของห้างเซ็นทรัล เหมือนเป็นศิลปะบนศิลปะอีกทีหนึ่ง
“ขั้นตอนในการผลิตกระเป๋าใบนี้ยากมาก ต้องทดลองวางแบบลงบนผ้ากันมากถึง 20 ครั้ง เนื่องจากภาพวาดสีน้ำมันจะพิมพ์ออกมาให้สวยยากมาก กระเป๋าใบนี้จึงถือเป็นกระเป๋าลิมิเต็ดจริงๆ เพราะกว่าจะออกมาเป็นใบสวยงามแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สิ่งสำคัญในขั้นตอนการทำกระเป๋าใบนี้ คือการใส่ความรักให้กับกระเป๋า เนื่องจากทีมงานทุกคนที่ผลิต หรือแม้แต่ฝ่ายการตลาด หรือแม้แต่ตัวเองก็รู้สึกรักกระเป๋าใบนี้มาก เพราะทุกคนพยายามทำให้กระเป๋าใบนี้ออกมาสวยที่สุด แถมคนที่ซื้อกระเป๋าใบนี้ไป ยังได้ร่วมทำบุญไปพร้อมๆ กันด้วย
“ที่เลือกดอกบัวเป็นลวดลายบนกระเป๋า เพราะดอกบัวเป็นดอกไม้สิริมงคลของชาวพุทธ เป็นดอกไม้ของชาวเอเชียที่ทุกคนรู้จัก จึงเป็นตัวแทนของตะวันออก ส่วนดอกทิวลิปก็เป็นดอกไม้ของทางยุโรป ที่เป็นเสมือนตัวแทนของตะวันตก ดังนั้นเมื่อดอกไม้ทั้งสองนี้มาพบกัน จึงกลายเป็นการเดินทางมาบรรจบกันของโลกตะวันตกและโลกตะวันออก หรือ East Meet West นั่นเอง แล้วกระเป๋าใบนี้เหมือน Walking Art ศิลปะเดินได้สำหรับดิฉันด้วย” นักวาดภาพชื่อดังแจกแจง
สำหรับกระเป๋าคอลเลกชั่นใหม่นี้ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ได้รับเกียรติจากนางแบบและนายแบบกิตติมศักดิ์อย่าง “ลูกแพร์” พิมพิศา — “ลูกพีช” พชร จิราธิวัฒน์ และ “แพง” ขวัญข้าว เศวตวิมล มาโพสท่าสุดหล่อแสนสวย โชว์กระเป๋าคอลเลกชั่นใหม่ล่าสุด พร้อมกันนี้พวกเธอยังแสดงความคิดเห็นส่วนตัว ที่ทุกคนกำลังเผชิญอยู่กับสภาวะโลกร้อนที่กำลังจะส่งผลกระทบกับทุกคนในขณะนี้ด้วย
เริ่มจาก “ลูกแพร์” พิมพิศา จิราธิวัฒน์ ลูกสาวคนโตแสนสวยของ “ส้ม” ชนัดดา จิราธิวัฒน์ เผยว่า สภาวะโลกร้อนหลายคนยังมีความคิดว่า ยังไม่ส่งผลกระทบกับตัวเองโดยตรง ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดมาก เพราะหากทุกคนไม่ช่วยเหลือกันลดสภาวะโลกร้อนตั้งแต่วันนี้ อนาคตประเทศชาติอาจจะถึงขั้นวิกฤติ ยากเกินกว่าที่จะแก้ไขก็ได้
“ตอนนี้เราต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ ไม่ใช่เป็นหน้าที่ขององค์กรใดองค์กรหนึ่ง หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งเท่านั้นที่จะช่วยกันลดโลกร้อน แต่เป็นหน้าที่ของทุกคนที่อยู่บนโลกใบนี้ที่จะต้องช่วยเหลือกัน ตอนนี้ที่ทุกคนตื่นตัวอาจจะเป็นเพราะกระแสโลกร้อนกำลังมาแรง แต่เรื่องนี้ไม่ควรจะเป็นหนึ่งในกระแสที่มาเพียงครู่เดียวแล้วหายไป ทุกวันนี้รู้สึกได้เลยว่าอากาศร้อนขึ้นทุกปี อย่ามัวแต่คิดว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับเรา อย่างทุกวันนี้เวลาที่แพร์อยู่บ้าน ใครที่เปิดแอร์ทิ้งไว้แพร์ก็จะเดินไปปิดตลอด แพร์คิดถึงว่าถ้าเกิดวันหนึ่งน้ำเกิดท่วมโลกขึ้นมา แล้วเราจะอยู่ยังไง อะไรที่เราพอทำได้เราก็ต้องช่วยกันทำ อย่างแค่ปิดแอร์ปิดไฟ แค่เดินไปปิดนิดเดียวไม่ได้เป็นเรื่องยากอะไรเลย แถมยังเป็นการประหยัดพลังงาน ไม่ทำให้เกิดสาร CFC ที่เป็นตัวทำลายโอโซนของเราด้วย” ลูกแพร์แนะนำ
พร้อมกันนี้ ลูกแพร์ ยังเผยด้วยว่า เธอรับรู้เรื่องราวของสภาวะโลกร้อนทั้งจากที่โรงเรียน และสื่อต่างๆ ที่ช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนตื่นตัวกับเรื่องนี้มากขึ้น แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ได้คิดจะช่วยลดภาวะโลกร้อนกันอย่างจริงจัง จึงอยากจะฝากให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญก่อนที่จะสายเกินแก้
“อย่างเวลาที่แพร์เรียนพิเศษเสร็จ แพร์ก็จะชอบมาซื้อหนังสือนิตยสารกลับไป แพร์ก็จะไม่ให้เขาใส่ถุงพลาสติกให้ แพร์จะเอาหนังสือใส่ในกระเป๋านักเรียนแทน เพราะแพร์รู้สึกว่า ถ้าเอาถุงพลาสสติกกลับมาบ้านก็ไม่ได้เอาถุงมาใช้ หรือถ้าถุงขาดใช้ไม่ได้ก็ต้องทิ้งไป แล้วพลาสติกจะต้องใช้เวลาไม่รู้กี่ปีในการย่อยสลาย หรือถ้าจะเผาก็กลายเป็นการทำลายโอโซนมากขึ้นไปอีก
“เวลาแพร์เห็นคนถือถุงพลาสติก แพร์จะรู้สึกสงสารคนในองค์กรสิ่งแวดล้อม ที่เขารณรงค์กันแทบตาย กลับไม่มีใครสนใจที่จะช่วยกัน แต่เรื่องนี้ก็ต้องใช้เวลาในการปรับตัวด้วย ส่วนตัวแพร์จะมีถุงผ้าใบเล็กๆ ที่สามารถพับเก็บขนาดเล็กกว่าฝ่ามือของแพร์อีก เก็บเอาไว้ในกระเป๋าตลอด เผื่อเวลาที่แพร์จะต้องซื้อของเยอะๆ ก็ไม่จำเป็นต้องหิ้วหลายๆ ถุง จับทุกอย่างใส่ในถุงผ้าใบนี้ถือไปใบเดียวดีกว่าเยอะ อีกอย่างแพร์ว่าถุงผ้าดีไซน์เก๋กว่าถุงพลาสสติกตั้งเยอะ ถุงผ้ามีให้เลือกใช้ตั้งหลายแบบ แล้วทนกว่าถุงพลาสติกหลายเท่าตัว ถึงจะเลอะก็สามารถซักแล้วเอากลับมาใช้ใหม่ได้หลายครั้งด้วย อนาคตแพร์ว่าเขาอาจจะดีไซน์ถุงผ้าในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบสนองการใช้งานของแต่ละคนก็ได้
“อย่างถุงผ้าคอลเลกชั่นใหม่ของเซ็นทรัล ถึงจะเป็นรูปดอกไม้แต่สามารถถือได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย อย่างกระเป๋าของผู้ชายเขาจะเน้นสีพื้นกระเป๋าให้เข้มหน่อย ของผู้หญิงก็จะเน้นลวดลายดอกไม้เห็นเห็นชัดขึ้น แล้วลายจะออกแนวอาร์ตๆ ซึ่งแพร์ชอบมาก รับรองว่าแพร์ต้องเอาไปใช้แน่นอน” ลูกแพร์ ยืนยัน
ด้าน “พีช” พชร จิราธิวัฒน์ หนุ่มหล่อน้องชายลูกแพร์ กล่าวว่า แค่ได้ยินคำว่า “โลกร้อน” ก็เข้าใจได้เลยว่า ทุกวันนี้อากาศร้อนขึ้นๆ ตลอด พอเป็นแบบนี้ส่วนตัวเลยรู้สึกอยากจะปลูกต้นไม้ เพราะทุกครั้งที่มีโอกาสได้อยู่ใต้เงาร่มไม้ จะรู้สึกถึงความเย็นสบาย ดังนั้นการปลูกต้นไม้จึงน่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยลดโลกร้อนได้ดีที่สุด
“อีกวิธีหนึ่งของผมที่ผมช่วยลดโลกร้อน ก็คือเวลาซื้อของผมจะไม่ขอถุงพลาสติกเขา เพราะผมรู้สึกว่าผมยังต้องอยู่บนโลกนี้อีกนาน ถ้าเกิดเราไม่ช่วยกันวันหนึ่งเกิดเข้าขั้นวิกฤติขึ้นมาจะทำอย่างไร บางคนอาจจะคิดว่าไม่เห็นส่งผลกระทบอะไรกับเขา ผมอยากจะบอกว่าอาจจะไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงกับเขาแค่ตอนนี้ แต่ในอนาคตรับรองได้เลยว่ามีผลกระทบแน่นอน”
“อย่างถุงผ้าผมก็ใช้เหมือนกัน อย่างเวลาผมจะไปงาน FAT FESTIVAL ผมก็จะพกถุงผ้าไปด้วยทุกครั้ง เอาไปใส่ซีดีที่ผมจะซื้อใส่ได้เยอะ แถมยังทนอีกต่างหาก ส่วนเรื่องของการดีไซน์ บางคนอาจจะบอกว่าถุงผ้าไม่สวย อันนี้ผมมองว่าการเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่งด้วย เพราะถุงผ้าเราสามารถที่จะเพ้นท์หรือดีไซน์ให้ออกมาเป็นสไตล์ของเราได้อย่างง่ายดาย แถมยังไม่ซ้ำกับคนอื่นด้วย”
“ครอบครัวผมต้องบอกเลยว่าทุกคนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก อย่างเวลาแม่ผมไปซื้อของ เขาก็จะเอาถุงจากที่บ้านไปเอง อย่างน้องสาวเขาก็จะอยากปลูกต้นไม้มาก เขาอาจจะไม่ได้คิดว่าการปลูกต้นไม้จะช่วยลดโลกร้อนได้ แต่จริงๆ แล้วเป็นการช่วยที่ดีที่สุดเลย ทุกวันนี้คนตื่นตัวกับกระแสนี้กันมาก ซึ่งผมก็อยากให้คนตื่นตัวกับกระแสที่เป็นประโยชน์แบบนี้ไปตลอด ดีกว่าที่จะไปตื่นตัวกับกระแสเกม ที่ไม่ได้เป็นประโยชน์กับโลกของเราเลย”
“สำหรับถุงผ้าของเซ็นทรัลในครั้งนี้ สำหรับผมแล้วเหมือนเป็นของที่ระลึกในงานฉลอง 61 ปี ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลที่เหมาะกับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เพราะโทนสีของกระเป๋าจะออกมืดๆ ผู้ชายก็สามารถถือไปใช้ได้เหมือนกัน แถมยังบอกให้ทุกคนรู้ด้วยว่า เราเป็นคนหนึ่งที่ใส่ใจในเรื่องของสภาวะโลกร้อนด้วย” ลูกพีช กล่าว
หลังจากจบงานแถลงข่าว เหล่าสื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน ยังได้เพลิดเพลินไปกับกิจกรรม Work Shop ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลจัดขึ้น โดยมี Ms. Arianna Caroli ให้เกียรติเป็นผู้สอนเทคนิคการการวาดภาพ และการลงสีบนกระดาษ โดยกลุ่มสื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติ ต่างสนุกสนานกับกิจกรรม Work Shop เป็นอย่างมาก แต่ละคนต่างละเลงสีสันที่มาจากไอเดียสุดเก๋ ออกมาเป็นภาพตามจินตนาการของแต่ละคน ท่ามกลางเสียงเพลงอันแสนไพเราะ ที่ช่วยขับกล่อมความเป็นอาร์ทิสของแต่ละคนให้ถ่ายทอดลงบนกระดาษ จนกลายเป็นภาพที่มีเอกลักษณ์ของแต่ละคน พร้อมใส่ในกรอบอะคริลิคใส กลับไปอวดโฉมให้ทุกคนได้ชื่นชมกัน
สำหรับงาน “Central 61st Anniversary Celebration” ที่จะมีขึ้นในวันพุธที่ 29 ตุลาคมนี้ จะได้พบการแสดงที่ไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนมาก่อนด้วยการปรากฎตัวระหว่าง นัท มีเรีย ศิลปินสาวขวัญใจตลอดกาล ที่มาสวมบทบาทเป็นนางพญาผีเสื้อ ประชันกับคู่ดูโอสุดฮอตแห่งปี กอล์ฟ-ไมค์ ในรูปแบบการแสดงสุดพิเศษ
ภายในงานยังจะได้พบกับขบวนพาเหรดดอกไม้ที่จะมาช่วยสร้างบรรยากาศแห่งความสุข ตามด้วยแฟชั่นโชว์สวยๆ ในคอนเซ็ปต์ดอกไม้และผีเสื้อ และยังมีกิจกรรมดีๆ จากแบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำ เช่น บอดี้เพ้นต์ การถ่ายภาพใบหน้าเป็นที่ระลึกฟรีกับเฟรมหลังจากแต่งหน้าพร้อมซื้อเครื่องสำอางครบตามเงื่อนไข รวมทั้งการแสดงเต้นฮิปฮอปในชุดแมลงหรือผีเสื้อ และมินิคอนเสิร์ตของกลุ่มศิลปินขวัญใจวัยรุ่น “ตู่-แชมป์ ศิลปินค่าย Love is และแสตมป์ จากวง 7 Scene” เป็นต้น
กิจกรรมพิเศษสุดสำหรับงานนี้อีกกิจกรรมก็คือการได้รับเกียรติจาก Ms. Arianna Caroli ศิลปินชื่อก้องโลกชาวอิตาเลียน มาทำเวิร์กช็อป กับคุณหนูๆ ในวันเสาร์ที่ 1 และ อาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายนนี้กับ “Kid’s Workshop โดย Ms.Arianna Caroli” ที่ทุกมือน้อยๆ จะพร้อมใจตวัดปลายพู่กัน ร่วมสร้างสรรค์งานศิลป์ด้วยเทคนิคสีน้ำภายใต้หัวข้อ “ผีเสื้อ...หัวใจ...ดอกไม้(Butterfly...Heart...Flower)” โดยเด็กๆ ที่จะเข้าร่วมเวิร์กช็อปในครั้งนี้ จะมีอายุระหว่าง 6—12 ปี ซึ่งจะเป็นทายาทของบุคคลที่มีชื่อเสียงในแขนงต่างๆ รวม 80 คน ซึ่งหลังจากที่หนูๆ สร้างสรรค์ผลงานแล้ว จะคัดเลือกผลงานจำนวน 24 ภาพ เพื่อนำผลงานจัดพิมพ์เป็น Postcard จำนวน 1,000 กล่อง (1 กล่อง บรรจุภาพทั้ง 12 ภาพ แบ่งเป็น 2 set) แล้วจำหน่ายเพื่อนำรายได้สมทบ “กองทุนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นธุรกันดาร (กพด.)” ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ในงานนี้ยังขอเชิญชวนทุกท่านเป็นเจ้าของถุงผ้าคอลเล็คชั่นพิเศษ ลายดอกทิวลิป และดอกบัวบรรจงรังสรรค์โดยศิลปินชื่อก้องโลก Ms.Arianna Caroli จัดทำขึ้นเพื่อจำหน่ายในราคา 995 บาท ซึ่งยังสามารถนำมาสะสมแต้ม The 1 Card ได้อีกด้วย โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่ง จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมทบมูลนิธิชัยพัฒนาต่อไป
พิเศษสุดสำหรับลูกค้าของห้างเซ็นทรัล!!! กับการจัดรายการ "Central 61st Anniversary Celebration" ขอบคุณลูกค้าในวาระห้างฯ ครบ 61ปี ช้อปฯครบตามเงื่อนไข รับของสมนาคุณถูกใจทันทีระหว่างวันที่ 29 ต.ค.-16 พ.ย. 51 รวม 19 วันแห่งความสุข ที่เซ็นทรัลทุกสาขา (ไม่รวมเซน)
สินค้าเคาน์เตอร์ปกติลด 15-30% เครื่องสำอางและน้ำหอมลด 10-15% พร้อมรับของสมนาคุณ (ช้อปฯครบตามเงื่อนไขรับของสมนาคุณจากรายการ 61st Anniversary ได้)
ช้อปฯครบตามเงื่อนไข รับฟรีทันที ของสมนาคุณถูกใจ (รวม ZeenZone และ มาร์คแอนด์สเปนเซอร์ เฉพาะที่เซ็นทรัล) หรือจ่ายน้อยกว่าด้วยเซ็นทรัลคาร์ด เฉพาะวันที่ 29 ต.ค.-2 พ.ย. 51 ดังนี้
- ครบทุก 6,000 บาท หรือ ชำระผ่านเซ็นทรัลคาร์ด เพียง 5,500 บาท รับฟรี ที่รองจาน และแก้ว 4 ชิ้น/ ชุด มูลค่า 900 บาท
- ครบทุก 10,000 บาท หรือ ชำระผ่านเซ็นทรัลคาร์ด เพียง 9,000 บาท รับฟรี เครื่องดูดฝุ่น Samsung มูลค่า 1,950 บาท
- ครบทุก 35,000 บาท หรือ ชำระผ่านเซ็นทรัลคาร์ด เพียง 31,000 บาท รับฟรี Samsung DVD Micro Theater System รุ่น MM-DA25 มูลค่า 4,990 บาท
- ครบทุก 70,000 บาท หรือ ชำระผ่านเซ็นทรัลคาร์ด เพียง 63,000 บาท รับฟรี HTC PDA Phone รุ่น Touch มูลค่า 15,900 บาท
พิเศษ...เชิญเป็นเจ้าของถุงผ้าคอลเล็คชั่นพิเศษ เพื่อ 61 ปี เซ็นทรัลและช่วยลดโลกร้อน ลายดอกทิวลิป และดอกบัว โดยศิลปินชื่อดังชาวอิตาเลียน Ms. Arianna Caroli ในราคา 995 บาท โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่ง จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมทบมูลนิธิชัยพัฒนา ต่อไป พร้อมรับคะแนนสะสม The 1 Card เพิ่ม 10 คะแนน/ บัตร/ ใบเสร็จ เมื่อนำถุงผ้ากลับมาช้อปฯ จนถึงสิ้นปี (สูงสุด 50 คะแนน/ บัตร/ วัน) โดยสามารถซื้อได้ที่จุดแลกซื้อ เฉพาะวันที่ 29 ต.ค. 51 ลูกค้าที่ซื้อถุงผ้าคอลเล็คชั่นพิเศษนี้ จะได้รับลายเซ็นของ Ms.Arianna เป็นที่ระลึก
เตรียมพบกับความสวยงามตระการตาของสวนสวรรค์อันอบอวลไปด้วยดอกไม้และพรรณไม้นานาพันธุ์ รวมทั้งกิจกรรมแห่งความบันเทิงและโปรโมชั่นสุดพิเศษมากมาย ในงานมหัศจรรย์พรรณไม้ประจำปี พร้อมชื่นชมทุ่งดอกคอสมอส ฉลองครบรอบ 61 ปี ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในงาน “Central 61st Anniversary Celebration” ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม—2 พฤศจิกายน 2551 ที่เซ็นทรัลชิดลม และโปรโมชั่นพิเศษสุด 29 ตุลาคม-16 พฤศจิกายน ที่เซ็นทรัลทุกสาขา
“61 ปี เซ็นทรัล...ความผูกพันที่ไม่มีวันจะลบเลือน”
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
เพียงเพ็ญ พรายแสง (081 8608225),
นิธิวรรณ ฟักสุวรรณ์ (085 127 7272)
ชาลิสา จิรตั้งมั่นเจริญ (081 343 4357)
ศมกมล เนียมกุญชร (081 436 4369)
วรณี วิสุทธินันท์ (089 895 9550)
บริษัท พับบลิค ฮิต จำกัด โทร. 02 2525699