กรุงเทพฯ--17 ต.ค.--บีฟิท
BSEC โดดเด่นทุกมุมมอง โบรกเกอร์ระบุเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่มีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิเฉลี่ยต่อปีสูงถึง 45% ผลจากมาร์เก็ตแชร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยQ3/49 ขยับมาอยู่ที่ 3.83% แล้ว นอกจากนั้นเตรียมขยายการให้บริหารไปเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญในอนาคต ประเมินราคาเหมาะสมอยู่ในช่วงระหว่าง 5.40-6.11 บาท/หุ้น
บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด (มหาชน) (BSEC) อยู่ระหว่างการเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปจำนวน 200.005 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท มีบริษัทหลักทรัพย์นครหลวงไทย จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน คาดว่าจะเปิดให้จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนได้ในเดือน พ.ย.นี้
บทวิเคราะห์ของ บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า BSEC มีจุดเด่นหลายประการ โดยเฉพาะส่วนแบ่งการตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วจาก 0.46% ในไตรมาส 1/47 เป็น 3.83% ในไตรมาส 3/49 นอกจากนี้ ความสามารถในการทำกำไรยังอยู่ในระดับสูงจากอัตราส่วนกำไรสุทธิที่ระดับ 36% ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 49 และคาดว่าฐานะการเงินจะอยู่ในเกณฑ์ที่แข็งแกร่งภายหลังเพิ่มทุนซึ่งจะทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน ลดลงต่ำเหลือที่เพียงระดับ 0.4 เท่า และความสามารถในการทำกำไรที่ดี และในปี 2549 ได้ประมาณการว่า BSEC จะมีผลประกอบการสุทธิเท่ากับ 252 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.4% เมื่อเทียบกับปี 2548 ที่ผ่านมา และคาดว่าในปี 2550 BSEC จะมีผลประกอบการเท่ากับ 303 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.2% จากสมมติฐานที่มีส่วนแบ่งการตลาดที่ระดับ 4% และมูลค่าการซื้อขายที่เท่ากับ 1.7 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ ได้ประเมินราคาเหมาะสมของ BSEC ที่ระดับ 14 เท่า ของ 2007F PER หรือเท่ากับค่าเฉลี่ย PER ของกลุ่มหลักทรัพย์ที่เราทำการศึกษา โดยหากมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ระดับ 17,000 ล้านบาท ฝ่ายวิเคราะห์เชื่อว่าราคาเหมาะสมของ BSEC จะอยู่ที่ 5.40 บาท/หุ้น
บทวิเคราะห์ของ บริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีสท์ จำกัด ระบุว่า BSEC มีจุดเด่นที่มีความสามารถในการควบคุมต้นทุนการดำเนินงานได้ดี ทำให้ BSEC มีอัตรากำไรสุทธิค่อนข้างสูงเทียบกับบริษัทหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดฯ โดยใน 1H49 BSEC มีสัดส่วนค่าใช้จ่ายรวมต่อรายได้รวมอยู่ที่ 48.2% ต่ำที่สุดในกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดฯ
ส่วนความเสี่ยงในการดำเนินงานของ BSEC อยู่ที่รายได้ส่วนใหญ่มาจากค่านายหน้าที่มีสัดส่วนถึง 92% ของรายได้รวม ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงเมื่อเทียบกับกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ในตลาดฯ (ใน 1H49 GBX เป็นบริษัทที่มีสัดส่วนรายได้จากค่านายหน้าสูงราว 90% ของรายได้รวม ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ที่อยู่ในตลาดฯ) ทำให้รายได้ของ BSEC จะพึ่งพารายได้จากค่านายหน้ามาก รายได้จากค่านายหน้ากว่า 99% ของ BSEC มาจากกลุ่มลูกค้าทั่วไป นอกจากนี้ ใน 1H49 กลุ่มลูกค้ารายใหญ่ 10 ลำดับแรกมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายรวม 38% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดของ BSEC (ในปี 48 สัดส่วนมูลค่าการซื้อขายจากกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ 10 ลำดับแรกสูงถึง 48% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดของ BSEC)
"รายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในปี 50 เนื่องจากในเดือน ต.ค.49 BSEC มีทีมงานด้านวาณิชธนกิจเข้ามาร่วมงาน 1 ทีม ซึ่งในปัจจุบันทีมวาณิชธนกิจของ BSEC ได้ขอยื่นเป็นที่ปรึกษาเพื่อนำบริษัทเสนอขาย IPO ในตลาดหลักทรัพย์ 1บริษัท ซึ่งคาดว่าจะทำให้ BSEC มีรายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้นในปี 50"
บล.ฟาร์อีสท์ คาดว่าในปี 49 BSEC จะมีกำไรสุทธิ 254 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.2% โดยมี EPS เท่ากับ 0.32 บาท (Fully Diluted 800 ล้านหุ้น) และคาดว่าจะสามารถเบิกจ่ายเงินปันผลได้ 0.16 บาท/หุ้น (Payout Ratio 50% ของกำไรสุทธิ) ประเมินว่า BSEC จะมีรายได้จากค่านายหน้าเพิ่มขึ้น 14.5% ซึ่งยังเป็นแหล่งรายได้หลักที่มีสัดส่วนราว 91% ของรายได้รวม และคาดว่า BSEC จะมีรายได้จากค่าธรรมเนียมเพียงเล็กน้อย โดยมีสมมติฐานสำคัญที่ว่า BSEC มีส่วนแบ่งการตลาดเฉลี่ยในปี 49 เท่ากับ 3.7% และมีมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยอยู่ที่ 16,500 ล้านบาท/วัน ทั้งนี้คาดว่าในปี 50 BSEC จะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นราว 22.9% โดยคาดว่า BSEC จะมีรายได้จากค่านายหน้าเพิ่มขึ้นราว 3% และมีรายได้จากค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ บล.ฟาร์อีสท์คาดว่า BSEC จะมีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลง และมีค่าใช้จ่ายภาษีลดลง ซึ่งเป็นปัจจัยผลักดันให้คาดการณ์กำไรสุทธิของ BSECในปี 50 จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ประเมินว่ามูลค่าเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานปี 50 ของ BSEC เท่ากับ 5.85 บาท โดยอิงจาก Prospective P/E 15 เท่า และคิดเป็น Prospective P/E ราว 18.4 เท่า (Fully Diluted) เทียบกับมูลค่าเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานในปี 49
ส่วนบริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด ได้ให้ราคาเป้าหมาย BSEC ไว้ที่ 6.11 บาท หลังประเมินแม้มูลค่าการซื้อขายจากนักลงทุนในประเทศจะเบาบาง แต่ BSEC ยังคงมีการดำเนินที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
โดยบทวิเคราะห์ระบุว่า ส่วนแบ่งการตลาดในการซื้อขายหลักทรัพย์ของ BSEC เพิ่มขึ้นจาก 0.65% ในปี 2003 มาอยู่ที่ 3.55% ในครึ่งปีแรกของปี 2006 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า BSEC สามารถขยายตัวได้แม้มีการแข่งขันสูง ขณะที่ภาวะตลาดไม่คึกคักเท่าที่ควร ซึ่งในปีที่ผ่านมา แม้มูลค่าการซื้อขายจะลดลง 20% จากปีก่อนหน้า แต่ส่วนแบ่งตลาดของ BSEC เพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่า
ทั้งนี้ ราคาเป้าหมายที่ให้ไว้ที่ 6.11 บาทนั้นมาจากการประเมิน P/E ที่ระดับ 13 เท่า และมาจากการคาดการณ์ว่า ส่วนแบ่งตลาดของ BSEC จะอยู่ที่ 4.00% หากมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยอยู่ที่ 1.75 หมื่นล้านบาทต่อวัน และคาดว่า อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2007-2008 จะอยู่ที่ 3.85%
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ณัฐพงษ์ ใจแกล้ว
02-5549396-7