กรุงเทพฯ--31 ส.ค.--ธ.กรุงศรีอยุธยา
นางชาลอต โทณวณิก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า จากการที่สาขาของธนาคารที่จังหวัดยะลาได้ถูกวางระเบิด โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย จากแรงระเบิดทำให้อุปกรณ์ของสาขาได้รับความเสียหายเล็กน้อย ดังนั้น ผู้บริหารของธนาคารได้มีการประชุมและออกมาตรการ ดังนี้
1. ผู้ได้รับบาดเจ็บที่เป็นลูกค้าของธนาคารได้มีการสั่งการให้ผู้จัดการสาขาดูแล และธนาคารเป็นผู้ออก ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่ง 1 รายบาดเจ็บที่ข้อเท้า และอีก 1 ราย บาดเจ็บที่ไหล่ ซึ่งเป็นการบาดเจ็บเล็กน้อย
2. ความเสียหายของอุปกรณ์ต่างๆ พบว่าเสียหายเพียงเล็กน้อย คือ คอมพิวเตอร์ 2 ตัว และธนาคารจะมีการนำอุปกรณ์จากสำนักงานใหญ่ไปทดแทน โดยคาดว่าจะเปิดทำการได้ในเร็ววันนี้
3. วันนี้ (31 สิงหาคม) ธนาคารได้ปิดสาขาในพื้นที่เพิ่มจำนวน 4 สาขา คือ สาขาปัตตานี สาขานราธิวาส สาขาเบตง และสาขาสุไหงโกลก โดยจะเปิดให้บริการได้วันพรุ่งนี้ (1 กันยายน) หากเหตุการณ์เป็นปกติ
4. สำหรับลูกค้าสาขายะลา ธนาคารจะได้มีการแจ้งให้ทราบ โดยมีคำแนะนำ ดังนี้
4.1 หากต้องการเบิกถอนเงิน จำนวนไม่มาก ธนาคารจะแนะนำให้ใช้ตู้ ATM ในจังหวัดหรือทั่วประเทศ
4.2 ผู้ที่ใช้บัญชีสะสมทรัพย์และกระแสรายวัน สามารถเบิกถอนต่างสาขาได้ ไม่เกิน 300,000 บาท ต่อวัน ซึ่งธนาคารจะยกเว้นค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
4.3 ธนาคารได้โอนบัญชีของลูกค้าสาขายะลา ให้สามารถทำธุรกรรมได้ที่ สาขาปัตตานี และที่สาขาถนนกาญจนวณิชย์ อำเภอหาดใหญ่ ได้จนกว่าจะเปิดสาขายะลาเป็นที่เรียบร้อย
5. ธนาคารได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในระดับเข้ม สำหรับพื้นที่ในจังหวัด ที่เห็นว่ามีความเสี่ยง และได้ออกมาตรการในการคุ้มครองสวัสดิภาพของพนักงานในพื้นที่ดังกล่าว โดยทางฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคลและฝ่ายธุรกิจสาขาภูมิภาคจะดูแลสื่อสารอย่างใกล้ชิด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
พงษ์พันธุ์ ศิลปพิบูลย์
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
โทรศัพท์ 0-2296-4025