กรุงเทพฯ--17 ต.ค.--ททท.
มั่นใจเศรษฐกิจไทยเดินหน้า ททท. - องค์การสวนสัตว์หนุนเอกชนรับมือยอดนักท่องเที่ยวชะลอเดินทางเที่ยวไทย เปิดตัวแม่เหล็กใหม่ “อควาเรียม” ใหญ่สุดในอาเซียน ยาวสุดในโลก อลังการพันธุ์ปลากว่า 250 สายพันธุ์ กว่า 8,000 ตัว พร้อมนวัตกรรมบำบัดน้ำและช่วยรักษาชีวิตชมปลาหายาก ปลาสวยงามจากใต้ท้องทะเล ทั้งฉลามเสือดาว กระเบนราหู อโรไพมา ปลาไหลไฟฟ้า ฯลฯ ด้าน “มารีนสเคป” เตรียมหนุนเป็นแหล่งศึกษาพันธุ์สัตว์น้ำใหญ่สุดในประเทศไทย เล็งเสริมกลยุทธ์การตลาดแบบ 360 องศา คาดสร้างสีสันใหม่ฉุดนักท่องเที่ยวภาคเหนือบูม โกยรายได้ทะลุ 250 ล้านบาทต่อปี
นายประยุทธ นาวาเจริญ รองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ (อสส.) เปิดเผยว่า ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวชมสวนสัตว์เป็นจำนวนมาก โดยสวนสัตว์ที่มีผู้นิยมเข้าไปท่องเที่ยวได้แก่ สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์ดุสิตหรือเขาดินวนา สวนสัตว์เปิดเขาเขียว เป็นต้น โดยในปีนี้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาแล้วกว่าล้านคนใกล้เคียงกับเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ในแต่ละสวนสัตว์ต่างเร่งพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวและเพิ่มไฮไลท์ใหม่ๆ เพื่อสร้างความน่าตื่นเต้น ให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้าชมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ในปี 2552 หลังจากที่แต่ละสวนสัตว์ให้ความสำคัญและเร่งพัฒนาสวนสัตว์ด้วยการเสริมแม่เหล็กใหม่ๆ คาดว่าจะรักษาจำนวนนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวชมได้ใกล้เคียงกับปีนี้
ส่วนความคืบหน้าของการเปิดให้บริการสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำสวนสัตว์เชียงใหม่หรือ (Chiangmai Zoo Aquarium) สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมีอุโมงค์ยาวที่สุดในโลกนั้นขณะนี้เสร็จสมบูรณ์ 100% และพร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ โดยพันธุ์ปลากว่า 250 สายพันธุ์ กว่า 8,000 ตัว ได้ถูกขนย้ายจากแหล่งอนุบาลไปสู่ Aquarium แล้วทั้งหมด เพื่อให้ปลาเหล่านั้นได้คุ้นเคยกับน้ำที่ผ่านการบำบัดด้วยระบบไลฟ์ ซัพพอร์ต (Life Support) เทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยชีวิตสัตว์น้ำให้มีอายุยืนยาวด้วยการปรับคุณภาพน้ำ ผ่านระบบกรอง ฆ่าเชื้อ ให้น้ำสะอาดมีคุณภาพที่ดี ซึ่งใช้เงินลงทุนในการพัฒนาระบบประมาณ 30-40 ล้านบาท โดยระบบนี้ถูกคิดค้นโดยผู้เชี่ยวชาญจากประเทศนิวซีแลนด์และได้รับการยอมรับในระดับสากล
“ อควาเรียมแห่งนี้เป็นอควาเรียมแห่งเดียวที่มีทั้งพันธุ์ปลาน้ำจืดและน้ำเค็มให้ชมในคราวเดียวกัน โดยจะมีทั้งพันธุ์ปลาที่หาชมได้ยาก ปลาสวยงาม และปลาอันตราย เช่น ฉลามเสือดาว กระเบนราหู ปลาหมอทะเล ปลาการ์ตูน ปลาไหลไฟฟ้า ฯลฯ ซึ่งจะถูกเลี้ยงให้ชมอย่างใกล้ชิดจากในอุโมงค์ใต้น้ำซึ่งยาวรวมกันกว่า 133 เมตร ส่วนปลาอันตรายเช่น ปลาไหลไฟฟ้า เป็นต้น จะถูกจัดแยกไว้ต่างหากในตู้ปลาขนาดเล็ก บริเวณชั้น 2 ร่วมกับปลาอีกหลายสายพันธุ์ ทำให้เชื่อว่าจะเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศให้เข้ามาท่องเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น” นายโสภณ กล่าวและว่า
อควาเรียมแห่งนี้จะเป็นไฮไลท์ใหม่ให้กับสวนสัตว์เชียงใหม่และชาวภาคเหนือ ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก ขณะที่สวนสัตว์เชียงใหม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้สวนสัตว์เชียงใหม่ตั้งเป้าที่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวชม Chiangmai Zoo Aquarium แห่งนี้มากกว่า 1 ล้านคนต่อปี ส่งผลให้มีรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 250 ล้านบาท และจะถึงจุดคุ้มทุนภายใน 5-7 ปี
ด้านนายโรจน์ ธุวนลิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มารีนสเคป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำสวนสัตว์เชียงใหม่ กล่าวว่า Chiangmai Zoo Aquarium สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมีอุโมงค์ยาวที่สุดในโลกแห่งนี้ ถูกออกแบบก่อสร้างและบริหารจัดการด้วยนวัตกรรมชั้นนำจากประเทศนิวซีแลนด์ ทำให้เชื่อมั่นได้ถึงความปลอดภัย ขณะเดียวกันก็มีระบบนิเวศที่ดีจากประสบการณ์การออกแบบและก่อสร้างอควาเรียมมาหลายโครงการ ด้วยระบบการหมุนเวียนของน้ำ การจัดการและดูแลรักษา สิ่งมีชีวิตในน้ำ การจัดหาพันธุ์ปลาน้ำจืดและน้ำเค็ม การขนย้าย และระบบช่วยชีวิตปลา จะทำให้ปลามีชีวิตที่ยืนยาว สดใส และร่าเริง พร้อมที่จะให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้เข้าชมอย่างเต็มที่
“ การบริหารจัดการอควาเรียมเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ด้วยพฤติกรรมของสัตว์น้ำจืดและน้ำเค็มแตกต่างกัน ทำให้ระบบการบริหารจัดการแตกต่างกันด้วย บริษัทจึงต้องให้ความใส่ใจและดูแลอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ดีจุดเด่นของอควาเรียมแห่งนี้ นอกจากจะรวมพันธุ์ปลาน้ำจืดและน้ำเค็มกว่า 8,000 ตัวไว้ด้วยกัน ยังมีสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ แมลง และสัตว์ที่หาชมได้ยากจากทั่วโลก ที่ถูกนำมาเลี้ยงดูภายใต้ระบบนิเวศที่สมบูรณ์แบบ”
สำหรับ ChiangMai Zoo Aquarium มีพื้นที่ 10 ไร่เศษ ถูกออกแบบให้เป็นอาคารสูง 2 ชั้น ภายในประกอบไปด้วยอุโมงค์ใต้น้ำที่ยาวที่สุดในโลก มีความยาวทั้งสิ้น 133 เมตร แบ่งเป็นอุโมงค์น้ำจืด 66.5 เมตร และน้ำเค็ม 66.5 เมตร เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินเลื่อนอัตโนมัติ ลักษณะอุโมงค์เป็นอะคีลิคใสหนาประมาณ 5.5 เซนติเมตร สามารถรับแรงดันน้ำระดับความลึก 4.50 เมตรได้อย่างปลอดภัย โดยภายในอุโมงค์รวบรวมสัตว์น้ำกว่า 250 สายพันธุ์ ทั้งสัตว์น้ำจืด สัตว์น้ำเค็ม และสัตว์น้ำหายากจำนวนกว่า 8,000 ตัว
ส่วนบริเวณรอบนอกอควาเรียม ถูกจัดแบ่งออกเป็น ห้องโถงขนาดใหญ่ไว้สำหรับรองรับนักท่องเที่ยว พร้อมห้องจัดแสดงสัตว์อนุรักษ์ น้ำตก ป่าโกงกาง ผืนป่าแห่งอินทนนท์ และนิทรรศการต่างๆ อาทิ นิทรรศการแสดงหุบเขาและเขื่อนภูมิพล นิทรรศการชีววิทยาของพันธุ์สัตว์น้ำ นิทรรศการแสดงแมลงนานาชนิด นิทรรศการแสดงปะการังชายฝั่ง นิทรรศการแสดงชีวิตใต้น้ำลุ่มแม่น้ำโขง นิทรรศการแสดงป่าชุ่มน้ำ เป็นต้น ทั้งนี้บริษัทพร้อมสนับสนุนให้สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำสวนสัตว์เชียงใหม่ เป็นสถานศึกษาพันธุ์สัตว์น้ำจืดและน้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพื่อเปิดโอกาสให้กับเด็ก และเยาวชนได้เรียนรู้วิถีชีวิตสัตว์น้ำอย่างเต็มที่
นายโรจน์ กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดบริษัทเตรียมงบประมาณกว่า 10 ล้านบาทสำหรับการทำการตลาดแบบ 360 องศา เพื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเดินทางเข้าชมสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำสวนสัตว์เชียงใหม่ทั้งการโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ด้วยการให้ส่วนลดพิเศษ สำหรับค่าผ่านประตูเข้าชม โดยผู้ใหญ่จะเสียค่าผ่านประตู 180 บาท จากราคาปกติ 250 บาท เด็ก 130 บาท จากราคาปกติ 180 บาท ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่เสียค่าผ่านประตู 450 บาท ส่วนเด็ก 350 บาท ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม - 30 พฤศจิกายนนี้
“ กลุ่มเป้าหมายของเรามุ่งไปที่นักท่องเที่ยวชาวไทย โดยเฉพาะใน 17 จังหวัดภาคเหนือซึ่งไม่ค่อยจะมีโอกาสได้สัมผัสโลกใต้ทะเลบ่อยครั้งนัก รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวเชียงใหม่ ชมศิลปะวัฒนธรรม ประเพณี และลิ้มรสอาหารเหนือ การได้ชมอควาเรียมโลกใต้น้ำก็จะเป็นอีกสีสันที่นักท่องเที่ยวจะได้ตื่นตาตื่นใจ ซึ่งในแต่ละกลุ่มเป้าหมายก็จะมีการจัดกิจกรรมการตลาดที่แตกต่างกันไปตามความเหมาะสม เช่น การติดต่อเชิญชวนผ่านบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวในประเทศไทย และต่างประเทศให้บรรจุการเข้าชมอควาเรียมเป็น 1 ในโปรแกรมการท่องเที่ยวเชียงใหม่ เป็นต้น นอกจากนี้ นักเรียน นักศึกษา ข้าราชการและหน่วยงานที่สนใจเข้าชมเป็นหมู่คณะจะได้รับส่วนลดพิเศษ อีกทั้ง บริษัทยังได้เตรียมจัดกิจกรรมการแสดงต่างๆ อาทิ การแสดงให้อาหารปลา การโชว์ความสามารถของปลา และเรียนรู้วิถีชีวิตของปลาสายพันธุ์ต่างๆ เป็นต้น “
สำหรับ “สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำสวนสัตว์เชียงใหม่” เกิดขึ้นภายใต้การดำเนินงานขององค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และมอบหมายให้บริษัท มารีนสเคป (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ดำเนินการออกแบบก่อสร้างและบริหารการจัดการ โครงการด้วยงบประมาณกว่า 600 ล้านบาท โดยใช้พื้นที่ในสวนสัตว์เชียงใหม่กว่า 10 ไร่ มีพื้นที่อาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำรวม 13,985 ตารางเมตร ภายในอุโมงค์ใต้น้ำที่ยาวถึง 133 เมตรต้องใช้ปริมาณน้ำบรรจุมากกว่า 8,000 ลูกบาศก์เมตร ใช้เกลือเพื่อทำให้เป็นทะเลน้ำเค็มถึง160,000 กิโลกรัม
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คุณจีรนันท์ มีผา โทร. 086-392-5335 , 081-309-3789