กรุงเทพฯ--20 ต.ค.--กบข.
กบข. ยึดหลักการบริหารความเสี่ยงทั้งองค์กร เน้นเชื่อมโยงแผนธุรกิจกับระบบบริหารความเสี่ยง มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อสร้างผลประโยชน์สูงสุดแก่สมาชิก
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.) เปิดเผยถึงแผนการบริหารงานในปีนี้ว่า มีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองของประเทศ ซึ่งนับว่าเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ ดังนั้น เพื่อให้สามารถกำหนดวิธีการรับมือและจัดการความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น กบข.จึงได้นำกรอบการบริหารความเสี่ยงทั้งองค์กร (Enterprise Risk Management - ERM) ซึ่งเน้นการเชื่อมโยงแผนธุรกิจเข้ากับระบบการบริหารความเสี่ยง และให้ความสำคัญกับการมองภาพรวมของความเสี่ยงทั้งองค์กรมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานเพื่อเพิ่มมูลค่า และสร้างความมั่นใจต่อความสามารถในการบรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กร
สำหรับขอบเขตการบริหารความเสี่ยงนั้นจะครอบคลุมกระบวนการดำเนินงานในทุกๆด้าน โดยด้านการลงทุนได้ให้ความสำคัญกับการกระจายความเสี่ยงเพื่อรักษาสมดุลระหว่างความปลอดภัยของเงินต้น และการเติบโตของอัตราผลตอบแทนระยะยาว โดยได้นำหลักการบริหารงบประมาณความเสี่ยง (Risk Budgeting) การพัฒนาระบบบริหารความเสี่ยงและสร้างตัวชี้วัดเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการติดตามความเสี่ยงที่เกิดขึ้น รวมถึงศึกษาทางเลือกในการลงทุนในรูปแบบใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องอยู่เสมอ
นอกจากนี้ กบข. ได้จัดให้มีการเชื่อมโยงความเสี่ยงกับแผนธุรกิจและการบริหารงานขององค์กร โดยมีการประเมินความเสี่ยงของเป้าหมายที่สำคัญ จัดทำรายงานความเสี่ยงระดับองค์กร และระดับสายงาน รวมถึงการติดตามผลและรายงานความคืบหน้าการบริหารความเสี่ยง การจัดทำแผนฉุกเฉินและแผนการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง (Business Continuity Plan - BCP) พร้อมกำหนดให้มีการทดสอบเป็นประจำทุกปี
ทั้งนี้ กบข. ได้จัดตั้งคณะอนุกรรมการบริหารความเสี่ยงที่ประกอบด้วยคณะกรรมการและผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมีหน้าที่กำหนดนโยบายในการบริหารความเสี่ยงทั้งด้านการลงทุนและงานด้านอื่นๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับสมาชิกว่า กบข.มีการดำเนินงานอย่างระมัดระวังเพื่อรักษาผลประโยชน์สูงสุดแก่สมาชิก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ศูนย์บริการข้อมูลสมาชิก กบข. โทร. 1179 กด 6 member@gpf.or.th / www.gpf.or.th