กรุงเทพฯ--27 ก.พ.--ททท.
เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ ประกาศผลรางวัลกินรีทองคำประจำปี 2549โดยมี ภาพยนตร์เรื่อง “WATER” คว้ารางวัลภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม ผลงานร่วมสร้างระหว่างแคนาดาและอินเดีย อำนวยการสร้างโดย เดวิด แฮมิลตัน กำกับโดย ดีปา เมธา ส่วน ปาก ชาง วุค ผู้กำกับชาวเกาหลีกับผลงานเรื่อง “Sympathy for Lady Vengeance”s ครองรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมซึ่งได้รางวัลเดียวกันนี้จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯเมื่อปีที่ผ่านมา ขณะที่ เฟเลซิตี้ ฮัฟฟ์แมนเจ้าของรางวัลเอ็มมี่จากภาพยนตร์ซีรี่ส์ได้รางวัลผู้แสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง Transamerica เพรสลี่ย์ ชาเวเนยาเก้ นักแสดงหนุ่มผิวสี รับรางวัลผู้แสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเรื่อง “Tsotsi” รางวัลภาพยนตร์อาเซียนยอดเยี่ยม ตกเป็นของ 2 ผู้กำกับชาวเวียดนามจากเรื่อง The Bride of Silence ซึ่งเคยได้รางวัล
ไทเก้อร์ อวอร์ด จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติร็อธเธอร์ดัม ปีที่แล้ว และรางวัลผู้กำกับหน้าใหม่ในปีนี้เป็นของ 2 ผู้กำกับชาวบัวโนส ไอเรสคือมาร์ติน เดอ ซาลโว กับ เวรา ฟ็อกวิล จากเรื่อง Kept and Dreamless รางวัลสารคดีนานาชาติยอดเยี่ยมได้แก่ภาพยนตร์สารคดีที่นำเสนอศิลปะแนวเต้นรำจากเรื่อง Rize กำกับโดย เดวิด ลา ชาแปล
ในส่วนรางวัลเกียรติยศในปีนี้ เป็นของ 2 ดาราอาวุโส เธอรีน เดอเนอฟ นักแสดงหญิง
ชาวฝรั่งเศส ที่มีผลงานมากกว่า 80 เรื่อง และสมบัติเมทะนี นักแสดงฝ่ายชายที่มีผลงานการแสดงมากกว่า 600 เรื่อง ได้รางวัลบุคคลที่ประสบความสำเร็จในชีวิตด้านวงการภาพยนตร์ รางวัลสำหรับผู้ที่มีคุณูปการหรือมีส่วนช่วยในการเผยแพร่ภาพยนตร์ของเอเชีย ได้แก่ บริษัท ฟอร์ทิสสิโม ฟิล์ม รางวัลผู้กำกับภาพที่มีผลงานโดดเด่นอย่างต่อเนื่องที่เรียกว่า คริสตัล เล็นส์ อวอร์ด ได้แก่ แอนโทนี ด็อด เมนเทล และอีกหนึ่งผู้กำกับภาพชาวญี่ปุ่น โชจิ อูเอดะ กับรางวัลอาเซียน เปอร์สเปคตีฟ อวอร์ด จากมุมมองภาพแบบตะวันออก นอกจากนี้ยังมีรางวัลพิเศษจากเจมส์สันอีก 2 รางวัล คือ รางวัลภาพยนตร์สั้นยอดเยี่ยม มอบให้กับเรื่อง Underconstruction กำกับโดย ผู้กำกับชาวเกาหลีและรางวัลจากเสียงโหวตยอดนิยมที่ลงคะแนนให้กับทีมผู้กำกับรุ่นใหม่คนไทย จากเรื่อง “ลองของ” (Art of the Devil 2) โดยรางวัลนี้เป็นรางวัลที่ต้องการส่งเสริมผลงานการสร้างสรรค์ภาพยนตร์โดยเน้นฝีมือเยาวชนไทย
ทั้งนี้ภาพยนตร์คุณภาพเรื่องต่าง ๆ ที่มีรางวัลแสดงการรับรองแล้วนี้ จะนำฉายให้ได้ชมกันในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2549 ตั้งแต่เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป ติดต่อกันทั้ง 5 เรื่อง ณ โรงภาพยนตร์พารากอน ซีเนเพล็กซ์ โรง 13--จบ--