ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตของธนาคารทิสโก้และให้อันดับเครดิตหุ้นกู้

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 21, 2008 09:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ต.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-term Rating) ที่ ‘A(tha)’ แก่หุ้นกู้ชุดเดิมประเภทไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกัน จำนวน 2 ชุด ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2553 มูลค่า 3 พันล้านบาท และ ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2555 มูลค่า 1 พันล้านบาทของธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO ในขณะเดียวกันฟิทช์ยังได้ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศของ TISCO ดังนี้ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘A(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F1(tha)’ อันดับเครดิตของ TISCO สะท้อนถึงความสามารถในการทำกำไร คุณภาพสินทรัพย์ และฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งของธนาคาร แต่อย่างไรก็ตาม จากกการที่ TISCO มีการพึ่งพาแหล่งเงินระยะสั้นเป็นหลักและการกระจายตัวของการระดมเงินไม่มากนักทำให้ธนาคารมีความเสี่ยงด้านสภาพคล่องสูงกว่าธนาคารขนาดใหญ่ ในปี 2552 TISCO อาจต้องเผชิญปัญหาในด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอลงและส่วนต่างดอกเบี้ยที่ลดลง หากเศรษฐกิจในปี 2552 ชะลอตัวอย่างรุนแรง สำหรับแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพนั้น สะท้อนถึงความสามารถในการทำกำไร คุณภาพสินทรัพย์ และฐานะเงินกองทุนที่คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง แม้ว่าธนาคารจะมีโครงสร้างในด้านการระดมเงินและสภาพคล่องที่อ่อนแอกว่า ธนาคารขนาดใหญ่ จากการที่ TISCO มีการพึ่งพาเงินฝากจากลูกค้าผู้ฝากเงินรายใหญ่เป็นหลัก ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่าครึ่งของฐานการระดมเงินของธนาคาร และโดยส่วนใหญ่เป็นหนี้สินระยะสั้น ทำให้เกิดความเสี่ยงขึ้น โดยเฉพาะในสภาวะการดำเนินงานในปัจจุบันที่มีความผันผวนสูง แต่อย่างไรก็ตามการคุ้มครองเงินฝากเต็มจำนวนจากภาครัฐในปัจจุบันและแหล่งเงินกู้สำรองของธนาคาร มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในด้านสภาพคล่องของธนาคารลง TISCO มีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนหนี้ระยะยาวและเพิ่มฐานลูกค้าเงินฝากรายย่อยให้มากขึ้นภายใน 2 — 3 ปีข้างหน้า เนื่องจากยอดของเงินฝากที่จะได้รับการคุ้มครองจะทยอยลดลง ในครึ่งปีแรกปี 2551 TISCO มีกำไรสุทธิ 0.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.5% จาก 0.8 พันล้านบาท ในช่วงครึ่งปีแรกปี 2550 เนื่องจากการขยายตัวของสินเชื่อที่สูง และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากค่านายหน้าการขายประกันและค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าสินเชื่อและผลการดำเนินงานจะชะลอตัวลงในปีหน้า สำหรับผลการดำเนินงานของไตรมาส 3 ปี 2551 TISCO มีกำไรสุทธิ 0.4 พันล้านบาท ลดลง 9.5% จาก กำไรสุทธิของไตรมาส 3 ปี 2550 ที่ 0.44 พันล้านบาท เนื่องจากรายได้จากค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่ลดลงเป็นหลัก สินเชื่อเพื่อการเช่าซื้อรถยนต์ (17% เป็นสินเชื่อรถยนต์มือสอง) มีสัดส่วนประมาณ 74% ของสินเชื่อทั้งหมดของธนาคาร สำหรับส่วนที่เหลือส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อภาคธุรกิจ ณ สิ้น มิถุนายน 2551 หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ยังคงทรงตัวอยู่ที่ 3.9 พันล้านบาท (4.1% ของสินเชื่อ) เทียบกับ 3.8 พันล้านบาท (4.3% ของ สินเชื่อ) ณ สิ้นปี 2550 และ ระดับเงินสำรองหนี้สูญต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ยังคงแข็งแกร่งที่ประมาณ 73% TISCO กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการปรับโครงสร้างของกลุ่ม โดยธนาคารจะโอนการถือหุ้นในบริษัทหลักทรัพย์และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไปยังบริษัทโฮลดิ้งที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่ซึ่งจะถูกจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยคาดว่าการปรับโครงสร้างของกลุ่มจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ และจะส่งผลให้รายได้ของธนาคารลดลง แต่ในระยะยาวคาดว่าจะช่วยให้ผลการดำเนินของธนาคารมีเสถียรภาพมากขึ้น ถึงแม้ว่าอัตราส่วนเงินกองทุนของ TISCO จะลดลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากการธนาคารได้มีการจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูงและมีการเติบโตของสินเชื่ออย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา เงินกองทุนขั้นที่ 1 ของธนาคารที่ 10% ยังจัดว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ทั้งนี้ฟิทช์คาดว่า TISCO จะรักษาระดับเงินกองทุนไว้ในระดับดังกล่าวต่อไป การมีพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งในฐานะผู้ถือหุ้นจะสามารถช่วยส่งเสริมการขยายธุรกิจของธนาคารได้ แต่อย่างไรก็ตามผู้บริหารยังไม่ได้พิจารณาถึงเรื่องดังกล่าว ณ เวลานี้ TISCO ก่อตั้งในปี 2512 โดยมีฐานะเป็นบริษัทเงินทุน และได้เปลี่ยนสถานะเป็นธนาคารพาณิชย์ในเดือนกรกฎาคม 2548 ธนาคารเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการหลักในการดำเนินธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค การจัดการกองทุน และวาณิชธนกิจ ในประเทศไทย ติดต่อ ดารุณี เพียรมาะกิจ, กรุงเทพฯ +662 655 4752 พชร ศรายุทธ, กรุงเทพฯ +662 655 4761 Vincent Milton, กรุงเทพฯ +662 655 4759 การเปิดเผยข้อมูล: บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด ซึ่งถูกถือหุ้น 99.9% โดย TISCO ถือหุ้นจำนวน 10% ของบริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ไม่มีผู้ถือหุ้นใดนอกเหนือจากบริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ จำกัดแห่งประเทศอังกฤษที่มีส่วนในการดำเนินงานและการจัดอันดับเครดิตที่จัดโดยบริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตระดับเพื่อการลงทุน หรือมีอันดับเครดิตอยู่ในระดับต่ำแม้จะอยู่ในระดับเพื่อการลงทุน อันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศจะอยู่ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นถูกออกแบบมาเพื่อนักลงทุนภายในประเทศในแต่ละประเทศนั้นๆ และมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับแต่ละประเทศ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นไม่สามารถนำไปใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้ คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฏข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ