กรุงเทพฯ--21 ต.ค.--บลจ.แอสเซท พลัส
บลจ.แอสเซท พลัส เปิดเสนอขายกองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟพันธบัตร 3 (ASP-ACGOV3) ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย ผลตอบแทน 3.15-3.20%* และกองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 3 (ASP-ACFIXED3) ลงทุนในตราสารหนี้เอกชนในประเทศ ผลตอบแทน 3.65%* ระยะเวลาประมาณ 6 เดือน เสนอขายครั้งแรก 21-28 ตุลาคม 2551
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ผู้ลงทุนอาจเกิดความวิตกกังวลกับผลกระทบจากวิกฤตสถาบันการเงินสหรัฐฯ ที่ลุกลามไปทั่วโลก ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนอย่างมาก โดยเฉพาะการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ ทั้งนี้จากการติดตามภาวะตลาดอย่างใกล้ชิด รวมถึงการคัดเลือกตราสารที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้ลงทุน บริษัทฯ จึงเห็นว่าการลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศจะเหมาะสมกว่าการ ลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศต่อไป ดังนั้น บริษัทฯ จึงปรับเปลี่ยนนโยบายในกองทุนตราสารหนี้ ที่ใช้กลยุทธ์การบริหารกองทุนแบบเปิดรอบระยะเวลาการลงทุนในประเทศแทน เพื่อให้กองทุนสามารถยืดหยุ่นระยะเวลาการลงทุนได้ตามภาวะตลาดตราสารหนี้ในแต่ละช่วง และสามารถสร้างโอกาสผลตอบแทนจากการลงทุนในระดับที่จูงใจแม้ในช่วงภาวะตลาดตราสารหนี้ผันผวนจากการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น พันธบัตรรัฐบาลไทย และตราสารหนี้ภาคเอกชนไทย
“วันที่ 21-28 ตุลาคม 2551 บริษัทฯ จะเสนอขาย 2 ทางเลือกการลงทุน ได้แก่ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟพันธบัตร 3 (ASP-ACGOV3) เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย รอบระยะเวลาการลงทุนแรก ประมาณ 6-7 เดือน โดยคาดว่าจากผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลไทยที่จะลงทุนหลังหักค่าใช้จ่ายประมาณ 0.20% แล้ว จะสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุนประมาณ 3.15-3.20%* ต่อปี สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล
และกองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 3 (ASP-ACFIXED3) เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนในประเทศ ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ A- ขึ้นไป ทั้งตั๋วแลกเงิน และหุ้นกู้ของสถาบันการเงิน เช่น ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด และธนาคารกสิกรไทย และเงินฝากธนาคาร เป็นต้น โดยสำหรับรอบระยะเวลาการลงทุนแรกจะมีอายุประมาณ 6 เดือน ทั้งนี้ คาดว่าผลตอบแทนของตราสารในพอร์ตการลงทุนอยู่ที่ระดับ 3.92%* ต่อปี เมื่อหักค่าใช้จ่ายกองทุนประมาณ 0.27% แล้วจะสามารถสร้างโอกาสผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนได้ 3.65%* ต่อปี ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ลงทุนในตราสารหนี้ความเสี่ยงต่ำ ที่ต้องการผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในพันธบัตรที่ผลตอบแทนปรับตัวลงในช่วงนี้”นางสาวจารุลักษณ์กล่าว
*ที่มา : สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย ณ 17 ตุลาคม 2551 ทั้งนี้ หากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ระบุไว้
ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ :
ส่วนประชาสัมพันธ์ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ นิตยา เลิศแสงเพชร โทร. 02-672-1000 ต่อ 3314 อีเมล์: nittaya_le@assetfund.co.th
มุกพิม จุลพงศธร โทร. 02-672-1000 ต่อ 3308 อีเมล์: mookpim_ch@assetfund.co.th