TTA Q2 กำไรพันล้าน

ข่าวทั่วไป Tuesday May 16, 2006 13:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 พ.ค.--คิธแอนด์คิน
TTA ประกาศผลกำไรไตรมาสที่ 2 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2549 (“ไตรมาสที่ 2/2549”) จำนวน 1,051 ล้านบาท เผยสาเหตุหลักจากอุปสงค์เพิ่มมากขึ้น จากยอดสินค้าที่ขนส่งเพิ่มขึ้น 10.91% ในช่วง 6 เดือนแรกของปีบัญชีเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่แล้ว TTA เชื่อว่า ตลาดเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองยังคงมีอุปสงค์แข็งแกร่งในอนาคตข้างหน้า ในธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (“เมอร์เมด”) มีรายได้โตขึ้น 100% จากไตรมาสที่ 1 (งวดสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2548) ซึ่งชี้ให้เห็นว่า เมอร์เมด จะเป็นบริษัทที่ส่งผลกำไรให้ TTA ได้มากขึ้นในครี่งปีบัญชีหลัง
ม.ล. จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท โทรีเซน ไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) (“TTA”) กล่าวว่า ผลกำไรรวม 1,051 ล้านบาท ได้รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง 487 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2548 (“ไตรมาส 2/2548”) บริษัทฯ มีกำไรรวม 1,413 ล้านบาท โดยรวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 7.42 ล้านบาท
ผลกำไรที่ลดลงมีสาเหตุหลักจากอัตราค่าระวางเรือที่ลดลง 31.37% จาก 15,703 ดอลล่าร์สหรัฐต่อวันต่อลำในไตรมาส 2/2548 เป็น 10,777 ดอลล่าร์สหรัฐต่อวันต่อลำในไตรมาส 2/2549 นอกจากนี้จำนวนวันเดินเรือก็ลดลงจาก 4,230 วันในไตรมาส 2/2548 เป็น 4,149 วันในไตรมาส 2/2549
“การผันผวนของอัตราค่าระวางมาจากการเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์และอุปทาน ผลประกอบการในไตรมาส 2/2549 ดีกว่าที่คาดไว้ แม้ว่าจะมีเรือใหม่ๆ เข้ามาในตลาดมากขึ้นก็ตาม ตั้งแต่เดือน มกราคม — เมษายน 2549 มีเรือใหม่เข้าสู่ตลาดแล้ว 2.67% และคาดกันว่า ตลอดปีนี้ เรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองจะเติบโตขึ้นมากกว่า 7% และอุปสงค์ก็เติบโตดีด้วย ทำให้เรือใหม่ๆ ที่เข้ามาในตลาดสามารถรองรับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นมาได้ทั้งหมด แม้ว่าจำนวนวันเดินเรือลดลงเล็กน้อย แต่ปริมาณสินค้าที่บริษัทฯ ขนส่งจากวันที่ 1 ตุลาคม 2548 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2549 เพิ่มขึ้น 10.91% เป็น 6.98 ล้านตัน” ม.ล. จันทรจุฑากล่าว
ในไตรมาส 2/2549 บริษัทฯ ขายเรือออกไป 2 ลำ และเพิ่มระวางบรรทุกของเรือ 2 ลำ คือ เรือทอร์นอร์ติกา และเรือทอร์ นอติลุส ดังนั้น บริษัทฯ จึงตัดสินใจไม่ซื้อเรือเพิ่มเติมในไตรมาสนี้
ณ ขณะนี้ บริษัทฯ ได้ทำสัญญารับขนส่งสินค้าแบบเช่าเหมาลำเป็นระยะเวลาไว้แล้ว 42% ของระวางบรรทุกสินค้าของบริษัทฯ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีรายได้อย่างสม่ำเสมอตลอดระยะเวลา 6 เดือนข้างหน้า
ในขณะเดียวกัน เมอร์เมด ก็มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี เพราะธุรกิจพลังงานกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น
ในไตรมาส 2/2549 เมอร์เมด มีส่วนแบ่งรายได้ให้กับบริษัทฯ จำนวน 607.96 ล้านบาท และมีส่วนแบ่งกำไรสุทธิให้กับบริษัทฯ (หลังจากหักส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย) เท่ากับ 83.07 ล้านบาท เทียบกับ 341.71 ล้านบาท และ 52.34 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2549
จากตัวเลขดังกล่าว ทำให้เห็นได้ว่า ความต้องการเรือขุดเจาะปิโตรเลียมยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เรือเรือ เอ็ม ที อาร์ 1 และเรือ เอ็ม ที อาร์ 2 ได้ทำสัญญาให้บริการกับบริษัทผลิตและสำรวจก๊าซและน้ำมันต่างๆไปจนเลย ไตรมาส 4ของปี 2552 แล้ว
ในปี 2549 ค่าบริการเรือขุดเจาะอยู่ที่ 40,0000 — 44,000 ดอลล่าร์สหรัฐต่อวัน และจะเพิ่มเป็น 50,000 — 55,000 ดอลล่าร์สหรัฐต่อวันในปี 2552
ในขณะนี้มีเรือขุดเจาะแบบที่ เมอร์เมด กำลังดำเนินงานอยู่เพียง 22 ลำทั่วโลก รวมกับของเมอร์เมดด้วย 2 ลำ เรือขุดเจาะทั้ง 22 ลำนี้ได้รับการออกแบบมาสำหรับใช้ในทะเลที่มีคลื่นลมสงบ ซึ่งเหมาะสมกับทะเลในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในส่วนงานวิศวกรรมโยธาใต้ทะเล (sub sea engineering business) มีผลกำไรไม่ดีเท่าที่ควร เพราะเรือสนับสนุนงานติดตั้งเทคนิคใต้น้ำลำหลัก คือ เรือ เมอร์เมด คอมมานเดอร์ ได้หยุดให้บริการในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีบัญชี 2549 เป็นส่วนใหญ่ เรือดังกล่าวแล่นจากประเทศแคนาดามายังประเทศไทยเพื่อมากำหนด ตำแหน่งของเรือ (repositioning) และเพื่อมาเข้าอู่แห้ง
ส่วนงานบริการที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือนั้น มีส่วนแบ่งกำไรสุทธิให้กับบริษัทฯ (หลังจากหักส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย) เท่ากับ 21.44 ล้านบาท เทียบกับ 41.91 ล้านบาทในไตรมาสที่ 1/2549
จากผลประกอบการดังกล่าว คณะกรรมการบริษัทฯ ได้ประกาศจ่ายเงินปันผล หุ้นละ 0.65 บาท โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลวันที่ 26 พฤษภาคม 2549 เวลา 12.00 น. และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 มิถุนายน 2549 ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์จะทำการขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2549
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
คุณบังอร แก้วบวร โทรศัพท์ 02 6633226 ต่อ 68

แท็ก บัญชี  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ