กรุงเทพฯ--24 ต.ค.--กบข.
กบข. ปรับกลยุทธ์ลงทุนรับมือวิกฤติการเงินยืดเยื้อ-การเมืองไม่ชัดเจน เน้นหุ้นพื้นฐานแกร่ง-มีปันผล พร้อมถือเงินสดมากขึ้น ลดความเสี่ยงการลงทุน
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยถึงกลยุทธ์การลงทุนในช่วงที่สถานการณ์การเงินโลกผันผวน และสถานการณ์การเมืองที่ยังไม่ชัดเจนในขณะนี้ว่า กบข.ให้ความสำคัญกับการระมัดระวังในการลงทุนเป็นอย่างมาก โดยขณะนี้หันมาถือเงินสดมากขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงการลงทุน และรอจังหวะการลงทุนในช่วงที่เหมาะสม เพื่อหาโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในการลงทุน
สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นของ กบข. อยู่ที่ร้อยละ 12 ของมูลค่าสินทรัพย์ แต่ปัจจุบันเริ่มลดลง โดยหันมาถือเงินสดมากขึ้นร้อยละ 1.2 และเพิ่มน้ำหนักลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงการลงทุน
“กลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้นช่วงที่ตลาดหุ้นและตลาดเงินมีความผันผวน เราให้น้ำหนักกับการลงทุนหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีการจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอ ฐานะทางบัญชีมั่นคง และมีสัดส่วนรายได้จากภายในประเทศ มากกว่าพึ่งพารายได้จากการส่งออก ซึ่งส่วนใหญ่ให้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยร้อยละ 4 จากเดิมที่การลงทุนให้น้ำหนักกับหุ้นที่มีการเติบโต” นายวิสิฐกล่าว
เลขาธิการคณะกรรมการ กบข. กล่าวอีกว่า ภาวะตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลงในขณะนี้ เหมาะสำหรับการเข้าไปลงทุนระยะยาวมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป และปัญหาการเมืองยังเป็นปัจจัยที่กดดันให้นักลงทุนชะลอการลงทุนได้อีก ขณะที่วิกฤติทางการเงินในครั้งนี้เชื่อว่ายังใช้เวลาอีก 5-6 เดือน เนื่องจากเป็นปัญหาที่มาจากวิกฤติทางการเงินของทั่วโลก ประกอบกับภาวะความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังไม่มากพอ โดยผลกระทบครั้งนี้จะแผ่กระจายไปในสถาบันการเงินทุกภาคส่วนทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจการท่องเที่ยว
สำหรับแนวโน้มเงินเฟ้อในปีนี้คาดว่าค่าเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ร้อยละ 6 หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกต่ำกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการลดลง และส่งผลดีกับเศรษฐกิจ ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สามารถดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยแบบผ่อนคลายได้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ศูนย์บริการข้อมูลสมาชิก กบข. โทร. 1179 กด 6 member@gpf.or.th / www.gpf.or.th