กรุงเทพฯ--24 ต.ค.--สหมงคลฟิล์ม
นับเป็นฉากไฮไลต์ตระการตาปิดท้ายภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง “ปืนใหญ่จอมสลัด” กับ “ฉากกำแพงวังลังกาสุกะ” ที่ทีมงานทุ่มทุนสร้างอย่างอลังการที่บ้านฉาง จ. ระยอง เพื่อใช้ถ่ายทำฉากสงครามยิ่งใหญ่ท้ายเรื่องระหว่างฝ่ายลังกาสุกะและเหล่าโจรสลัดที่ยกทัพเรือเข้ามาโจมตี ซึ่งฉากนี้ถือเป็นฉากที่ถ่ายทำกันอย่างยาวนานเป็นปี เพราะต้องผสมการถ่ายทำฉากซีจีที่เพิ่มระดับความยากขึ้นไปเป็นทวีคูณอีกด้วย ผู้กำกับ “นนทรีย์ นิมิบุตร” เผยเบื้องหลังฉากนี้ว่า
“โอ้โห ฉากกำแพงวังนี่เป็นฉากที่ถ่ายทำยาวนานที่สุดเป็นปีเลยครับ คือเราไปฉากกำแพงวังลังกาสุกะที่บ้านฉาง จ. ระยอง ก็ไปเช่าเอาลานตากมันพื้นที่ขนาดใหญ่ ๆ แล้วก็สร้างเป็นกำแพงเมืองใหญ่ ๆ ซึ่งใหญ่มาก ๆ ใหญ่จนน่าตกใจ (หัวเราะ) อันนั้นเราใช้เวลาเป็นปีทั้งสร้างฉากและก็ถ่ายทำเลยครับ
ฉากนี้เป็นฉากสงครามท้ายเรื่องที่พวกโจรสลัดยกทัพเรือมาโจมตีหวังยึดเมืองลังกาสุกะ ซึ่งกำแพงวังเราสร้างจริง ๆ สูง 3 เมตรแต่เราก็ต้องบวกการถ่ายทำฉากซีจีเข้าไปด้วยซึ่งในหนังก็จะเห็นเป็นกำแพงวังสูง 20 เมตรได้ การถ่ายทำที่มีซีจีเข้ามาเกี่ยวข้องก็เลยทำให้การทำงานยากขึ้นเป็นหลายเท่าตัวเลยครับ ไหนจะกำแพงเมือง ไหนจะกองทัพเรือ ไหนจะกองทหาร ไหนจะเอฟเฟ็กต์ระเบิด เรียกว่ารวมทุกความยากไว้ในฉากนี้ฉากเดียว เล่นเอาปวดหัวเลยครับ แต่สุดท้ายก็ถ่ายทำผ่านไปด้วยดีนะครับ แม้จะมีปัญหาและอุปสรรคบ้างก็ตาม แต่ฉากสงครามที่กำแพงวังก็ถือเป็นฉากปิดท้ายเรื่องที่ลงตัวสมบูรณ์แบบฉากหนึ่งของเรื่องได้เลยครับ”
ผู้ออกแบบงานสร้าง “เอก เอี่ยมชื่น” เสริมถึงความยากของฉากที่ต้องสร้างนี้ว่า
“เราต้องเขียนแบบทุกชิ้นก่อน จากนั้นก็ทำเป็นโมเดลทั้งเมืองออกมา เพราะจะทำให้เราเห็นภาพรวมทั้งหมด และคำนวณได้ว่าดีไซน์ที่คิดไว้มันเป็นไปได้จริงหรือไม่ สิ่งที่ต้องพึ่งพาซีจีก็คือ เราจะต้องมีแนวสู้รบเป็นกำแพงเมืองเปล่า ๆ เรามีกำแพงที่มีการสู้รบปะทะกันระหว่างกองทัพเรือกับทหารบนกำแพงเมืองโดยที่มีผ้าเขียวกั้นทั้งสองข้างเลย นี่คือสิ่งที่เรียกว่ายากที่สุดเท่าที่ผมเคยทำมา ในการดีไซน์ หลังจากกำแพงเมืองไปแล้วเนี่ย ก็จำเป็นต้องทำเมืองนี้ขึ้นมาทั้งเมืองด้วยโมเดลขนาดใหญ่ เพื่อที่จะบอกว่าซีจีจะต้องเขียนอะไรในมุมแบบไหนบ้าง ซึ่งโมเดลนี่ผมใช้เหมือนจริงที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ ถ้ามองออกทางหน้าต่างท้องพระโรงมันจะเห็นอะไร หรือขึ้นมากำแพงเมืองแล้วมันจะเห็นอะไร ผมทำเพื่อให้ผมกับฝ่ายซีจีมีความเข้าใจตรงกันว่าข้างหน้าในทะเลเนี่ย มันมีสงครามกันระหว่างกองเรือหลายร้อยลำกับบนกำแพงเมือง ซึ่งตัวกำแพงเมืองเนี่ยเราต้องสร้างเหมือนจริง มีขนาดใหญ่มากที่จะต้องรับน้ำหนักทหารและปืนใหญ่ที่อยู่ข้างบนให้ได้ มันจะต้องมีความแข็งแรงมาก ๆ เพื่อรับน้ำหนักของทั้งทหารเป็นร้อย ๆ รวมทั้งทีมงานกองถ่ายจำนวนมากที่จะต้องปลอดภัยพอในการทำงานอะไรอย่างนี้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผมเคยทำมาก่อน มันยากมากสำหรับอะไรที่มันจะคาดเดาในการถ่ายทำกับพวกซีจี ก็เลยรู้สึกว่าอันนี้ยากที่สุดสำหรับงานสร้างฉากใหญ่ ๆ นี้ครับ”
ติดตามชมฉากปิดท้ายเรื่องอันยิ่งใหญ่นี้ได้ใน “ปืนใหญ่จอมสลัด” เกริกก้องทั่วหล้า 23 ตุลาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์