นักวิชาการไทยสร้าง “หุ่นยนต์เดินด้วยขาสมองกล เรียนรู้ได้เหมือนสิ่งมีชีวิต”

ข่าวทั่วไป Friday October 24, 2008 14:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ต.ค.--สวทช. โครงการสมองไหลกลับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้จัดการบรรยายพิเศษในหัวข้อ Walking Machine Technology: Towards Versatile, Adaptive, Autonomous Systems โดย ดร.ปรเมษฐ์ มนูญพงศ์ นักวิชาการไทยที่มีชื่อเสียงด้านหุ่นยนต์เดินด้วยขา จากประเทศเยอรมนี ผู้ที่นำกลไกการทำงานของสิ่งมีชีวิตมาใช้พัฒนาหุ่นยนต์เดินด้วยขาสมองกล ที่มีระบบควบคุม สั่งการ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเดิน เพื่อหลบหลีกสิ่งกีดขวาง ทั้งยังสามารถเรียนรู้เดินหนีศัตรูที่มาเข้าใกล้ด้วยตนเองได้สำเร็จ ดร.ปรเมษฐ์ มนูญพงศ์ กล่าวว่า สิ่งมีชีวิตที่ฉลาดที่สุดคือ มนุษย์ รวมไปถึงสัตว์และแมลงต่างๆ ดังนั้นการที่จะสร้างหุ่นยนต์เดินด้วยขาที่มีความเฉลียวฉลาด หรือมีการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงควรนำหลักการทำงานของสิ่งมีชีวิตมาประยุกต์ใช้ ซึ่งตัวอย่างของหุ่นยนต์ 6 ขา ที่พัฒนาขึ้นนี้ ได้มีการศึกษาโครงสร้างและหน้าที่การทำงานในส่วนต่างๆ (Biomechanic) ของแมลงสาบ เพื่อนำมาออกแบบตัวหุ่นยนต์ให้มีลักษณะคล้ายแมลงสาบ คือมี 6 ขา แต่ละขาจะประกอบด้วยข้อต่อ 3 ข้อ ส่วนหัวกับลำตัวส่วนล่างมีข้อต่อช่วยให้เกิดการเคลื่อนที่ในแนวราบและช่วยให้ปีนป่ายข้ามสิ่งกีดขวางได้ นอกจากนี้ยังมีการติดเซ็นเซอร์ต่างๆ เช่น เซ็นเซอร์ที่ใช้ในการตรวจจับแสง ตรวจจับเสียง ตรวจจับสิ่งกีดขวาง ตรวจจับลม ตรวจจับวัตถุที่เข้าใกล้ และตรวจจับการเคลื่อนไหวของลำตัว เป็นต้น โดยทั้งหมดจะทำงานผ่านการควบคุมของพีดีเอ (Personal Digital Assistant : PDA) “ หุ่นยนต์ไม่เพียงมีรูปร่างคล้ายแมลงสาบ แต่ยังมีพฤติกรรมและระบบควบคุมการทำงานที่จำลองมาจากโครงข่ายประสาทของสิ่งมีชีวิต (Neural Control) เรียกว่า โครงข่ายประสาทเทียม ซึ่งในหุ่นยนต์ 6 ขา จะมีหลักการทำงานคล้ายแมลงสาบซึ่งมีเซลล์ประสาทส่วนกลางที่อยู่บริเวณกลางลำตัว (Central Pattern Generator) ทำหน้าที่เป็นตัวสร้างสัญญาณการเคลื่อนไหวขาโดยอัตโนมัติ และใช้สัญญาณที่ตรวจจับได้จากเซ็นเซอร์ต่างๆส่งเข้าสู่โครงข่ายประสาทเทียมเพื่อประมวลผลเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมการเดินในรูปแบบต่างๆ ทำให้หุ่นยนต์สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อตอบสนองจากสิ่งที่รับรู้ได้ทันที หุ่นยนต์ 6 ขาตัวนี้ จึงสามารถเดินหลบหลีกสิ่งกีดขวาง ปีนข้ามสิ่งกีดขวาง เดินไปตามทิศทางของแสงได้ด้วยตนเอง อีกทั้งหุ่นยนต์จะเดินเร็วขึ้นเมื่อมีลมผ่านเซ็นเซอร์ตรวจจับลมที่บริเวณก้น คล้ายแมลงสาบที่วิ่งหนีเร็วมากเมื่อศัตรูเข้ามาทางด้านหลังเนื่องจากมีประสาทสัมผัสตรวจจับลมเช่นกัน นอกจากนี้หากมีการเปลี่ยนตัวแปรบางตัวที่โครงข่ายประสาทเทียมจะทำให้เกิดสัญญาณแบบสุ่ม หรือไม่แน่นอน ทำให้หุ่นยนต์นำขาขึ้นจากหลุมได้เองในกรณีที่ตกหลุม โดยที่ไม่ได้มีการโปรแกรมไว้ล่วงหน้า นอกจากนี้ข้อดีของการใช้โครงข่ายประสาทเทียม ยังสามารถสอนให้หุ่นยนต์เกิดการเรียนรู้ได้เช่นเดียวกับระบบประสาทของสิ่งมีชีวิต ซึ่งทีมวิจัยได้ทดลองสร้างพฤติกรรมการเรียนรู้คล้ายการเดินหนีศัตรูให้หุ่นยนต์ตั้งแต่ได้ยินเสียงโดยที่วัตถุยังไม่เข้ามาใกล้ได้สำเร็จอีกด้วย” ดร.ปรเมษฐ์ กล่าวว่า นอกจากหุ่นยนต์คล้ายสัตว์แล้ว ทีมวิจัยยังได้พัฒนาหุ่นยนต์ 2 ขา ที่เรียกว่า “รันบอท (Runbot)” เป็นหุ่นยนต์ 2 มิติ มีคานรองรับด้านข้าง ประกอบด้วยมอเตอร์ควบคุม 5 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ควบคุมการเคลื่อนไหวส่วนบน 1 ตัว มอเตอร์ที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของสะโพก 2 ตัว และมอเตอร์ควบคุมการแกว่งของหัวเข่าอีก 2 ตัว ส่วนเท้ามีการออกแบบให้เป็นส่วนโค้ง นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์วัดความหน่วง เซ็นเซอร์ตรวจจับพื้นเอียงเพื่อสร้างให้เกิดการเรียนรู้ในการเดินบนพื้นที่ต่างระดับด้วย ส่วนระบบควบคุมจะใช้โครงข่ายประสาทเทียมโดยเป็นการสร้างสัญญาณผ่านเซ็นเซอร์เพื่อกระตุ้นการทำงานของข้อต่อต่างๆ และใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับองศาของหัวเข่า เป็นต้น โดยขณะนี้รันบอทเป็นหุ่นยนต์ 2 ขา ที่เดินเร็วที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับขนาดตัว โดยเดินได้ที่ความเร็ว 80 เซนติเมตรต่อวินาที และมีจุดเด่นเมื่อเทียบกับหุ่นยนต์อาซิโม คือ เวลาก้าวเดินขามีลักษณะเหยียดตรงคล้ายคน ใช้พลังงานน้อย ระบบควบคุมไม่ซับซ้อน ขณะที่หุ่นยนต์อาซิโมเวลาก้าวเดิน เท้าจะงอขนานกับพื้น และมอเตอร์ต้องทำงานตลอดเวลาใช้พลังงานมาก” อย่างไรก็ดีประโยชน์ของการพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์เดินด้วยขา นี้ เชื่อว่าจะนำมาช่วยพัฒนางานวิจัยและการศึกษาในประเทศไทยในอนาคตได้ 3 ส่วน ด้วยกันคือ 1. การนำองค์ความรู้พื้นฐานการเดินของคนมาใช้พัฒนาขาเทียมที่มีความเฉลียวฉลาดที่ไม่เพียงแค่เดินเท่านั้น แต่ยังสามารถวิ่งและเล่นกีฬาสำหรับคนพิการได้ด้วยโดยเสียค่าใช้จ่ายในราคาที่เหมาะสม 2. การนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์เดินด้วยขาคล้ายสัตว์ นำมาใช้เป็นต้นแบบในการเรียนการสอนให้กับนักเรียนที่สนใจศึกษาด้านหุ่นยนต์ รวมถึงชีววิทยาเพื่อดูกลไกการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิต และ 3.สร้างศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกับระบบโครงข่ายประสาท เพื่อปูพื้นฐานความรู้ ความเข้าใจการทำงานของระบบประสาทในสิ่งมีชีวิตในรูปแบบที่ง่ายมากขึ้น ประวัติ ดร.ปรเมษฐ์ มนูญพงศ์ ดร.ปรเมษฐ์ มนูญพงศ์ จบการศึกษา ปริญญาตรี(เกียรตินิยม) วิศวกรรมศาสตร์เครื่องกล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในปี ค.ศ.2000 ศึกษาต่อระดับปริญญาโท ด้านแมคคาทรอนิกส์ที่ Fachhochschule Ravensburg-Weingarten ประเทศเยอรมนี จบการศึกษาปี ค.ศ.2002 และศึกษาต่อปริญญาเอกด้านวิศวกรรมไฟฟ้าและวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่ University of Siegen ประเทศเยอรมนี จบการศึกษาปี คศ. 2006 ด้วยความสนใจและชื่นชอบเทคโนโลยีในด้านหุ่นยนต์ เมื่อครั้งที่ศึกษาระดับปริญญาตรีได้เลือกทำโครงงานกับสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม(ฟีโบ้) หัวข้อ Haptic Interface System (ทดสอบกับหุ่นยนต์ CRS) มีอาจารย์ที่ปรึกษาคือ รศ.ดร.สยาม เจริญเสียง จากนั้นเมื่อได้ศึกษาต่อระดับโท-เอก ก็มีผลงานวิจัยด้านหุ่นยนต์อีกมากมาย อาทิ งานวิจัย Neuronal control and learning for adaptive walking behavior (ทดสอบกับหุ่นยนต์เดินแบบสองเท้า :Biped walking robot) งานวิจัย Neural preprocessing and control for versatile reactive behaviors of walking machines (ทดสอบกับหุ่นยนต์สี่ขา : Four-legged walking และหุ่นยนต์หกขา : Six-legged walking) รวมถึงเป็นผู้แต่งหนังสือเรื่อง Neural Preprocessing and Control of Reactive Walking Machines: Towards Versatile Artificial Perception-Action Systems (Cognitive Technologies) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย ส่วนงานกลาง สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ โทรศัพท์ 0-2564-7000 ต่อ 1461 ,1462 โทรสาร 0-2564-7000 ต่อ 1482 e-mail : thaismc@nstda.or.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ