กรุงเทพฯ--24 ต.ค.--ปตท.
นายปรัชญา ภิญญาวัธน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลายและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลกระทบจาก Global Financial Crisis ทำให้ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวขาดสภาพคล่องทางการเงิน และความต้องการใช้น้ำมันลดลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับลดลงต่อเนื่อง ล่าสุด 24 ต.ค. 51 ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 58.25 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปในตลาดสิงคโปร์ เบนซินอยู่ที่ระดับ 66.70 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ระดับ 77.40 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ปตท. จึงพิจารณาปรับลดราคาน้ำมันขายปลีกทุกชนิดลงทันทีให้แก่ผู้บริโภคอีกครั้ง โดยราคาน้ำมันขายปลีกเบนซิน91 ลดลง 1 บาท/ลิตร, น้ำมันไบโอดีเซล(B5) ลดลง 80 สตางค์/ลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์E20 และน้ำมันดีเซล(B2) ลดลง 50 สตางค์/ลิตร ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันของ ปตท. ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (วันเสาร์ที่ 25 ต.ค. 51) เป็นต้นไป เป็นดังนี้
หน่วย : บาท/ ลิตร
น้ำมันเบนซิน พีทีที E 85 พลัส 18.29
น้ำมันเบนซิน พีทีที E 20 พลัส 22.59
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95 23.89
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91 23.09
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91 29.39
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที B5 พลัส 22.44
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที เดลต้า เอ็กซ์ 23.44
นายปรัชญา กล่าวต่อไปว่า สำหรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 ที่ยังไม่ได้ปรับลดราคาลงนั้น เนื่องจากทางภาครัฐฯ ได้เก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเพิ่มขึ้น 90 สตางค์/ลิตร และ 1 บาท/ลิตร ตามลำดับ ขณะที่น้ำมันเบนซิน 91 และ 95 ยังคงเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนที่อัตราเดิม (ไม่มีการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนเพิ่มขึ้น) สำหรับน้ำมันดีเซลนั้นรัฐฯ ได้มีการเก็บเงินเข้ากองทุนเพิ่มขึ้นอีก 50 สตางค์/ลิตร
การปรับลดราคาในครั้งนี้ส่งผลให้น้ำมันไบโอดีเซล(B5) มีราคาถูกกว่าน้ำมันดีเซล(B2) ถึงลิตรละ 1 บาท (จากเดิมที่มีส่วนต่าง 70 สตางค์/ลิตร) ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้ผู้บริโภคมาใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น
อนึ่ง ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ปตท. ได้ลดราคาขายปลีกน้ำมันให้ผู้บริโภคต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 10 แล้ว และนับเป็นครั้งที่ 30 (ตั้งแต่เดือน ก.ค. 51) ที่น้ำมันกลุ่มเบนซินรวมลดลงไปถึง 15.30 บาท/ลิตร และกลุ่มดีเซล ลดลงถึง 20.80 บาท/ลิตร
แม้ราคาน้ำมันตลาดโลกจะอ่อนตัวลงก็ไม่ควรประมาท โดยเฉพาะปัจจัยสำคัญที่กลุ่มโอเปกมีแนวโน้มจะปรับลดกำลังการผลิตลงประมาณ 1-1.5 ล้านบาร์เรล/วัน และฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงมีแนวโน้มว่าอุณหภูมิอาจลดต่ำลงมากกว่าปีก่อน จะทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกกลับมาปรับตัวสูงขึ้น
โทรศัพท์ 0 2537 2532 ส่วนสื่อสารธุรกิจน้ำมัน ฝ่ายสื่อสารองค์กร ปตท.
โทรสาร 0 2537 2572 24 ตุลาคม 2551