ร้านอาหารในเครือ MINT เปิดครบ 1,000 สาขา

ข่าวทั่วไป Tuesday October 28, 2008 10:11 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ต.ค.--ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT) มีจำนวนสาขาร้านอาหารภายใต้การบริหารงานโดย เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป ครบ 1,000 สาขา ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการขยายสาขาทั้งในส่วนที่บริษัทลงทุนเองและร้านสาขาแฟรนไชส์ ควบคู่ไปกับการเพิ่มจำนวนสาขาร้านอาหารในเครือด้วยการเข้าลงทุนในบริษัทที่ประสบความสำเร็จในต่างประเทศช่วงไตรมาส แรกของปี โดยที่ผ่านมา เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป (MFG) มีการขยายจำนวนสาขาเพิ่มขึ้นร้อยละ 21 ต่อปี จากจำนวน 558 สาขาใน ปี 2548 เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเป็นกว่า 1,000 สาขาในปัจจุบัน ในขณะที่ยอดขายต่อปีเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 8 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นใน อัตราร้อยละ 17 ต่อปี ธุรกิจอาหารในประเทศไทยของ MFG มีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่าร้อยละ 30 ของธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนสไตล์ตะวันตก และยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งแม้ว่าที่ผ่านมาจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดต่ำลงและ ความไม่มั่นคงทางการเมือง โดยช่วง 9 เดือนแรกของปี แบรนด์หลักของ MFG ได้แก่ เดอะ พิซซ่า คอมปานี สเวนเซ่นส์ ซิซซ์ เล่อร์ แดรี่ ควีน และเบอร์เกอร์คิง มียอดขายรวมทุกสาขาในประเทศไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 และมียอดขายร้านสาขาเดิม (samestore- sale) ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 และคาดว่าธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยของ MFG จะยังคงมีการขยายตัวอย่าง แข็งแกร่งต่อเนื่อง และมีส่วนสนับสนุนแผนการขยายธุรกิจออกไปในระดับสากล นอกจากนี้ การลงทุนในแบรนด์ เดอะ คอฟฟี่ คลับ และไทยเอกซ์เพรส นับว่าเป็นกลยุทธ์การลงทุนที่นอกจากจะทำให้ร้านสาขา ของบริษัทมีการกระจายตัวในต่างประเทศแล้ว แบรนด์ทั้งสองซึ่งมีผลการดำเนินงานดีกว่าที่คาดไว้ จะมีส่วนสำคัญในเพิ่มผล กำไรให้กับบริษัทในปีนี้ โดยที่ เดอะ คอฟฟี่ คลับ เป็นหนึ่งผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารและกาแฟที่ใหญ่ที่สุดและ เติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศออสเตรเลีย ซึ่ง MFG ได้เข้าลงทุนตั้งแต่เดือนมกราคมและล่าสุด เดอะ คอฟฟี่ คลับ ได้รับ รางวัลผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชนส์ร้านอาหารยอดเยี่ยมประจำปี จาก the Franchise Council of Australia โดยปัจจุบัน เดอะ คอฟฟี่ คลับ มีร้านสาขากว่า 200 แห่ง โดยมียอดขายรวมปีละกว่า 200 ล้านเหรียญออสเตรเลีย เช่นเดียวกับ ไทยเอกซ์เพรส ซึ่ง บริษัทฯ ได้เข้าลงทุนในเดือนพฤษภาคมก็มีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าประทับใจเช่นกัน โดยมีสาขาที่ลงทุนเองกว่า 40 สาขา และคาดว่าจะสามารถมีกำไรหลังหักภาษีแล้วถึง 9 ล้านเหรียญสิงคโปร์ ด้วยความสำเร็จจากการเข้าลงทุนที่ผ่านมา MFG ยังคง แสวงหาโอกาสใหม่ๆ ในอนาคต ส่วนหนึ่งมีเป้าหมายที่จะมุ่งขยายฐานธุรกิจในประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ผลจากความมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขายสิทธิแฟรนไชส์ แบรนด์ เดอะ พิซซ่า คอมปานี และสเวนเซ่นส์ ซึ่งที่ผ่านมาประสบผลสำเร็จอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในประเทศไทยมีร้านสาขาแฟรนไชส์ของแบรนด์ ทั้งสองเพิ่มขึ้นจาก 90 สาขาเป็น 131 สาขาในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ในปัจจุบันผู้ได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ของแบรนด์ทั้งสองได้ เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ร่วมกันจากการสัมมนาประจำปีที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งในปีนี้จัดขึ้น เป็นครั้งที่ 3 แล้ว นอกจากนี้ ในด้านการให้สิทธิ์แฟรนไชส์ในต่างประเทศ ซึ่งประกอบไปด้วย แบรนด์ เดอะ คอฟฟี่ คลับ เดอะ พิซซ่า คอมปานี และสเวนเซ่นส์ มีการขยายตัวของสาขาแฟรนไชส์จาก 197 สาขา เป็น 225 สาขาในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา สำหรับประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันมีร้านเดอะ พิซซ่า คอมปานี 15 สาขา และซิซซ์เล่อร์ 6 สาขา MFG ได้เซ็นต์สัญญาขายสิทธิแฟรน ไชส์ ไปแล้ว 2 ราย และอยู่ระหว่างการเจรจาจำนวน 3 ราย ด้วยมีความมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจออกไปยังมลฑลต่างๆ ในเมืองจีน ในรูปแบบของการให้สิทธิ์แฟรนไชส์ MFG ได้ตั้งเป้าหมายว่าภายใน 3 ปีจะต้องมีร้านสาขาแฟรนไชส์ในประเทศจีนในจำนวน ใกล้เคียงกับร้านที่ลงทุนเอง บริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ปัจจุบัน บริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำในธุรกิจอาหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ ด้วยจำนวน สาขาร้านอาหารทั้งหมดกว่า 1,000 สาขา ภายใต้แบรนด์ เดอะ พิซซ่า คอมปานี สเวนเซ่นส์ ซิซซ์เล่อร์ แดรี่ ควีน เบอร์เกอร์คิง ไทยเอกซ์เพรส และ เดอะ คอฟฟี่ คลับ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังประกอบธุรกิจโรงแรม ทั้งในรูปแบบของการเป็นเจ้าของ การลงทุน และการรับบริหารโรงแรม รวมทั้งสิ้น 29 โรงแรม ภายใต้แบรนด์ อนันตรา แมริออท โฟร์ซีซั่นส์ และโรงแรมในกลุ่ม ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ในประเทศไทย มัลดีฟส์ เวียดนาม แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอินโดนีเซีย อีกทั้งบริษัทยังเป็น ผู้ประกอบการธุรกิจสปาที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จำนวน 29 แห่งในประเทศไทย จีน ตะวันออกกลาง ตุรกี อียิปต์ และอินเดีย ภายใต้แบรนด์ มันดารา และอนันตรา สปา ในเดือนมกราคม ปี 2550 บริษัทฯ ได้รับประกาศเกียรติตคุณจากนิตยสาร เอเชีย มันนี่ ในการเป็น Best Management Small Cap Company จากการมีผลประกอบการทางการเงินดีเด่น การวางแผนกลยุทธ์และการจัดการยอดเยี่ยม และการเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นยอดเยี่ยม สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ www.minornet.com Press Contacts: Pratana Manomaiphiboon / Prapharat Tangkawattana at Tel: (662) 381-5151

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ