กรุงเทพฯ--24 ส.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สายการบินแห่งชาติ ได้คัดเลือกประเทศภูฏาน ดินแดนมังกรสายฟ้า เข้าเป็นส่วนหนึ่งของ เดอะเกรท เอสเคป โปรแกรม ภายใต้การบริหารจัดการของ รอยัล ออร์คิด ฮอลิเดย์ส เพื่อตอบสนองเทรนด์ท่องเที่ยวในตลาดพรีเมียม พร้อมจัดทริปพิเศษแนะนำภูฏาน โดยเชิญอาจารย์เผ่าทอง ทองเจือ เป็นไกด์กิตติมศักดิ์ นำทริป ระหว่างวันที่ 13-17 พฤศจิกายน 2549 ผู้สนใจทริปพิเศษ หรือ ภูฏาน เดอะเกรท เอสเคป โปรแกรม สามารถติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานการบินไทย โทร. 0-2545-1724 หรือในงาน นิทรรศการภาพ “เลียบหิมาลัย จากแชงกรี - ลา สู่หลังคาโลก” ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 3 กันยายน 2549 ณ ไลฟ์สไตล์ ฮอลล์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน
ภายในงานเปิดนิทรรศการภาพฯ นายดนุช บุนนาค ผู้อำนวยการฝ่ายรอยัล ออร์คิด ฮอลิเดย์ส บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “กระแสของภูฏานมาแรง หลังจากการมาเยือนของมกุฎราชกุมารจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ในประเทศไทย ทำให้มีผู้สนใจอยากไปเยือน ซึ่งภูฏานถือเป็นเอ็กซอติคเพลส ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตควรไปเยือน การบินไทยจึงตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียม ด้วยการนำภูฏาน เข้าสู่ เดอะเกรท เอสเคป โปรแกรม ซึ่งสามารถไปเยือนเป็นการส่วนตัว เป็นกลุ่มของตัวเอง สามารถเลือกที่พัก ระดับ 3-5 ดาว เลือกสถานที่ท่องเที่ยว เลือกเวลา และจำนวนวันที่เหมาะสม”
เพื่อเป็นการแนะนำภูฏาน หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ เดอะเกรท เอสเคป โปรแกรม การบินไทยจะได้จัดทริปพิเศษขึ้น สำหรับผู้สนใจระหว่างวันที่ 13 -17 พฤศจิกายน 2549 โดยมีอาจารย์ เผ่าทอง ทองเจือ กูรูผู้รอบรู้ด้านประวัติศาสตร์ และโบราณคดี ให้เกียรติเป็นไกด์กิตติมศักดิ์นำทริป และเมื่อกระแสของภูฏานมาแรงอย่างนี้ ลองฟังเหล่าบรรดาเซเลเบตี้ ผู้ชื่นชอบและหลงใหลประเทศภูฏานให้คำจำกัดความ ภูฏาน กันว่าแต่ละคนจะเด็ดสะระตี่แค่ไหน เริ่มที่ ดวงดาว สุวรรณรังษี เจ้าของภาพสวย ๆ จากแถบหิมาลัย ที่นำมาจัดแสดงเป็นนิทรรศการครั้งนี้ และเป็นผู้หนึ่งที่ไปเยือนภูฏานมาแล้ว เผยว่า “ภูฏานไม่ได้สวยไปกว่าประเทศไหน ๆ แต่ที่ โดดเด่นคือ จิตวิญญาณ ภูฏานเหมือนเป็นทิเบตที่ยังไม่เปิดเผยต่อโลกภายนอก มีวัฒนธรรมที่เป็นออริจินัล ที่ยังรักษาจิตวิญญาณไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ภูฏาน จึงเป็นที่ที่เรียนรู้ได้อย่างไม่จบ ไม่มีเบื่อ” ง่าย ๆ แต่ถึงใจจริง ๆ ส่วน โสภาส ณ ตะกั่วทุ่ง เมคอัพอาร์ทติส ให้คำนิยามขงภูฏานว่า “ถ้าจะเปรียบภูฏานกับสี ก็เป็นสีขาว แล้วหากจะเปรียบกับแสงก็เป็นแสงสีขาว ซึ่งในแสงสีขาว นั้นมีความสว่าง ทำให้ภูฏานดูเป็นประเทศที่โดดเด่น บริสุทธิ์ น่าค้นหา” แถมยังเผยอีกว่า ถ้าหากมีโอกาสได้ไปเยือนภูฏาน ก็อยากจะไปดูไปศึกษาเรื่องศาสนา เพราะโลกปัจจุบันของเราต้องอยู่กับอะไรที่เร่งรีบกัน ก็อยากจะใช้ความสงบ ความบริสุทธิ์ เอามาเพิ่มพลังให้กับชีวิต อีกอย่างการจะค้นหาตัวตนที่แท้จริง ต้องใช้สถานที่สงบแบบนี้ ถึงจะเข้าถึงแก่นแท้ได้
ด้าน ครูแอน-ชัชนิต มุสิกไชย มหาคุณ ขอจำกัดความภูฏานแบบกระชับว่า “ภูฏานถือเป็นเอ็กซอติคเพลส ที่โดดเด่น มีเสน่ห์ เราจะเห็นว่าประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งหลายไปไหนก็มีอะไรเหมือน ๆ กัน มีห้างสรรพสินค้า มีสวนสนุก ทำให้นักท่องเที่ยวหมดอารมณ์ที่จะอยากรู้อยากเห็น ซึ่งภูฏานยังไม่ใช่ ที่นั่นมีอะไรที่น่าสนใจอย่างกิจกรรมของชาวพื้นเมือง ไปดูวัด ไปดูอะไรอีกมุมของโลก ที่ไม่เหมือนที่อื่น อยากยกประเทศนี้ ให้เป็นพิพิธภัณฑ์หนึ่งไปเลย” ขณะที่ สุกัญญา ทองใหญ่ ณ อยุธยา กล่าวว่า “เป็นดินแดนอารยธรรมเก่าแก่ ที่ยังคงความบริสุทธิ์ของ อารยธรรมและธรรมชาติได้อย่างลงตัว ที่นี่ยังคงความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ได้ถูกจำกัดหรือถูกเปลี่ยนโดยนักท่องเที่ยว.... แค่ได้ไปดูแหล่งอารยธรรม ไปสัมผัสธรรมชาติก็พอใจแล้ว”
พริศา เอี่ยมมะโนชญ์ สาวสังคมเปิดเผยว่า “หากพูดถึงภูฏานจะนึกถึงเขตแดนที่ติดกับเทือกเขาเอเวอร์เรส นึกถึงพระดาไลลามะ ธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์อยู่ อารยธรรมประเพณีต่างๆ ถ้ามีโอกาสได้ไปอยากไปปีนเขาถ่ายรูป เพราะด้วยพื้นที่ประเทศเขาโอบล้อมด้วยภูเขา ขอแค่ชมความงดงามของธรรมชาติก็พอ และก็พูดคุยกับคนพื้นเมือง ดูความเป็นอยู่ของเขา เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เสน่ห์ของภูฏานในสายตาของตัวเองอยู่ที่การที่เขายังอนุรักษ์สิ่งเดิม ๆ ของเขาได้อย่างดีเยี่ยม โดยที่ปัจจุบันโลกเปลี่ยนไปความทันสมัยเข้าไปในทุกพื้นที่แล้ว แต่ภูฏานยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบจริง ๆ” ส่วน พชร สมุทรวณิช คอลัมน์นิสต์กล่าวว่า “ภาพที่นึกถึงภูฏานจะนึกถึงดินแดนที่มีวัฒนธรรม ธรรมชาติและสถานที่ที่สวยงามที่ไม่ได้เจอในเมืองใหญ่ การดำรงชีวิตแบบมีความสุขและอย่างพอเพียงจริง ๆ เป็นความสุขที่มีสีสันอีกแบบ ผู้คนจิตใจดี วัฒนธรรมน่าสนใจซึ่งต่างจากบ้านเรา เสน่ห์น่าจะอยู่ที่ความสงบที่มีสีสัน ธรรมชาติสีเขียวรวมกับสถาปัตยกรรมที่ยังอนุรักษ์ได้เหมือนเดิม ซึ่งยังคงงดงามอยู่ถึงปัจจุบัน” สุภานี ชยางพัทธ์ เปิดเผยว่า “ถ้ามีโอกาสได้ไปภูฏานอยากไปไหว้พระ ไปดูวัดวาอาราม เพราะเขาก็นับถือพุทธศาสนาเหมือนบ้านเราแต่คนละนิกาย และไปดูธรรมชาติที่ยังรักษาไว้ได้อย่างดีมาก อยากไปสัมผัสถึงการดำเนินชีวิตของเขา อยากรู้ที่เขาวัดค่ามวลรวมความสุขของประชากรนั้นเป็นยังไง และคิดว่าเสน่ห์ของภูฏานอยู่ที่ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ของเขา ถ้ามีโอกาสจะรีบไปทันที ก่อนที่ความเจริญจะเข้าไป และสิ่งที่เขาอนุรักษ์ไว้จะหายไปหมด”
เพ็ญสุภา คชเสนี ไฮโซสาวสวย กล่าวว่า “คิดว่าเสน่ห์ภูฏานอยู่ที่ความลึกลับของประเทศเขา เพราะยังมีคนอีกเยอะมากที่ยังไม่รู้ และน้อยคนที่จะสามารถเข้าประเทศเขาได้ ขนบธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ ที่ยังคงรักษาได้อย่างดีเยี่ยม หากมีโอกาสได้ไปอยากไปทำบุญค่ะ จะไปดูวัดวาอารามของเขา วัฒนธรรมต่าง ๆ และก็ไปชมธรรมชาติ คิดว่าเป็นสีสันการท่องเที่ยวอีกแบบหนึ่ง ปกติเวลาไปเที่ยวจะมีให้ช้อปปิ้ง แต่ครั้งนี้หากไปภูฏานคุณต้องไปเที่ยวแบบเชิงอนุรักษ์จริง ๆ” รพีพร วงศ์ทองคำ สาวคนเก่ง เผยว่า “เสน่ห์ของภูฏานอยู่ที่ธรรมชาติที่เขายังอนุรักษ์ได้เหมือนเดิม และยังคงความเป็นตัวของเขาเอง ทั้งชีวิตความเป็นอยู่ การแต่งกาย รวมถึงวัฒนธรรมต่าง ๆ ถ้ามีโอกาสได้ไปเที่ยวอยากไปปีนเขา แคมปิ้ง กางเต็นท์นอนบนเขา เป็นการเที่ยวที่กลับไปหาความเป็นออริจินัลจริง ๆ กลับไปสู่ธรรมชาติอีกครั้ง”
ครั้งหนึ่งในชีวิตกับความประทับใจที่ควรจะไปเยือนภูฏาน สถานที่ once - in — a - lifetime ควรไปสัมผัสกับ เดอะเกรท เอสเคป โปรแกรม ของการบินไทย ผู้ที่สนใจ ร่วมทริปพิเศษ หรือเดินทางเป็นการส่วนตัว สู่ประเทศภูฏาน สามารถติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานการบินไทย โทร. 0 - 2545 -1724 หรือในงาน นิทรรศการภาพ “เลียบหิมาลัย จากแชงกรี-ลา สู่หลังคาโลก” ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 3 กันยายน 2549 ณ ไลฟ์สไตล์ ฮอลล์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ บริษัทแม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร. 0-2434-8300 คุณสุจินดา, แสงนภา, ชลธิชา
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net