กรุงเทพฯ--28 ต.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานภาวะฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในจังหวัดอุทัยธานี กำแพงเพชร และราชบุรี สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ได้ร่วมกับอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ตลอด ๒๔ ชั่วโมง และจัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ ยานพาหนะให้พร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วนแล้ว
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ ๒๕ — ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๑ หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมภาคกลางด้านตะวันตกเคลื่อนตัวเข้าสู่ทะเลอันดามันตอนบน ทำให้ภาคเหนือด้านตะวันตก ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบน มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ ๓ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุทัยธานี กำแพงเพชร และราชบุรี โดยจังหวัดอุทัยธานี เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรใน ๓ อำเภอ ได้แก่ อำเภอห้วยคต ๓ ตำบล (ตำบลสุขฤทัย ตำบลห้วยคต และตำบลทองหลาง ) อำเภอลานสัก (ตำบลระบำ) และอำเภอหนองฉาง ๓ ตำบล (ตำบลเขาบางแกรก ตำบลหนองฉาง และตำบลเขากวางทอง) ขณะนี้ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตรเล็กน้อย จังหวัดกำแพงเพชร เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ ๕ อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง ๓ ตำบล (ตำบลนาบ่อคำ ท่าขุนราม และนครชุม) อำเภอคลองขลุง ๒ ตำบล (ตำบลวังไทร และตำบลหัวถนน) อำเภอคลองลาน (ตำบลโป่งน้ำร้อน) อำเภอโกสัมพีนคร (ตำบลเพชรชมพู) และอำเภอปางศิลาทอง (ตำบลหินดาด) ขณะนี้ยังคงมีน้ำท่วม ในพื้นที่การเกษตรบางพื้นที่ สำหรับจังหวัดราชบุรี เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ ๓ อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง ๔ ตำบล (ตำบลอ่างทอง ตำบลเจดีย์หัก ตำบลหินกอง และตำบลท่าราบ) อำเภอโพธาราม ๓ ตำบล (ตำบลธรรมเสน ตำบลบางโตนด และตำบลบ้านสิงห์) อำเภอจอมบึง ๓ ตำบล (ตำบลเบิกไพร ตำบลแก้มอ้น และตำบลด่านทับตะโก) ขณะนี้ยังคงมีน้ำท่วมเล็กน้อย
สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี และกำแพงเพชร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว และเพื่อเตรียมการรับมือสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้กำชับให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด ๒๔ ชั่วโมง และจัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ ยานพาหนะ และเครื่องจักรกลให้พร้อม เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันเหตุการณ์ สุดท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนสาธารณภัย ๑๗๘๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพื่อประสานและให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป